ไป๋ฉี่เหมิงเอ้า “ตาย” แล้ว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ไหนที่ทำให้เหล่าบรรดาผู้อารักขา ทุกๆคนต่างพากันสิ้นหวัง ดวงตาแดง อยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่กล้า
เป็นลูกผู้ชาย การร้องไห้เป็นสิ่งที่น่าอาย
จวนเซียวนอกจากเซียวเฉวียนแล้ว ไม่มีใครรู้สถานการณ์ที่แท้จริงในตอนนี้ของไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า
ที่จริงแล้วเซียวเฉวียนส่งไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าไปที่เทือกเขาจงหนาน ให้พวกเขาไปดูชายลึกลับชุดดำคนนั้นว่ามาจากไหน ให้ไปดูว่าจะสามารถหาข้อมูลอะไรได้บ้าง
ผู้อารักขาคนแรกที่อยู่ข้างกายของเซียวเฉวียนถูกกำจัดไปแล้ว ไทเฮาทรงพอพระทัยมาก
ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่คนเดียวคือเสี่ยวเซียนชิวแล้ว
เรื่องตอนอยู่ที่หอเทียนหมิงเสี่ยวเซียนชิวบีบก้อนหินจนแหลกละเอียดเพื่อข่มขู่หยางซู แน่นอนว่าไม่อะไรสามารถหนีลอดผ่านสายตาของสายลับไปได้
ดังนั้นเสี่ยวเซียนชิวในฐานะของลูกสาวบุญธรรมของเซียวเฉวียน เหล่าชนชั้นสูงที่มีอำนาจทุกคนต่างรับรู้ ไทเฮาก็ต้องรู้อย่างแน่นอน
แต่เสี่ยวเซียนชิวเป็นใคร เป็นเพียงเจี้ยนหลิงอันหนึ่ง เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่เอาแต่ใจ มีพลังทำลายล้างมหาศาล
สิ่งที่เสี่ยวเซียนชิวชอบมากที่สุดก็คือนอนอยู่บนหลังคา มองดูดาวดูพระจันทร์ดูพระอาทิตย์ มีคนมาฆ่าเสี่ยวเซียนชิวคนแล้วคนเล่า ทั้งหมดเจ็ดแปดคนตายตกตามกันไปหมดแล้ว
ในทุกครั้งเสี่ยวเซียนชิวจะไว้ชีวิตคนหนึ่งคนเพื่อให้จัดการเก็บศพ ให้โอกาศได้แจ้งข่าวบอกความลับกับอีกฝ่าย
คนที่มียังมีชีวิตอยู่นั้นกลัวจนสั่นไปหมด ทำงานอยู่ภายใต้สายตาของเสี่ยวเซียนชิว เสี่ยเซียนชิวไม่หยุดปากแม้แต่น้อย กินนั่นกินนี่อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าตายไปแล้ว แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวก็จัดการไม่ได้
ทำให้ไทเฮาและคนอื่นๆตกตะลึงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเสี่ยวเซียนชิวอยู่ที่จวนชวี ไม่ได้อยู่ที่จวนเซียว มิฉะนั้นก็สามารถส่งเว่ยอวี๋ไปใช้ความไว้วางใจของเซียวเฉวียน วางยาพิษให้เด็กสาวคนนี้ตาย
เสี่ยวเซียนชิวยากที่จะจัดการได้ ไทเฮาจึงตัดสินพระทัยไม่สนใจแล้ว เมื่อถึงเวลาค่อยจัดการทั้งสองคนพ่อลูกพร้อมกันทีเดียว ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร
“ไทเฮา ใต้เท้าเฉาขอเข้าเฝ้าพระเจ้าคะ”
ขันทีจูเข้ามาแจ้ง เฉาสิงจือค่อยอยู่ด้านนอกมาตลอด ด้านนอกสายลมในฤดูใบไม้ร่วงกำลังพัดผ่าน เฉาสิงจือรู้สึกเย็นตัวสั่นไปหมด แต่ยังคงดึงดันจะเข้าเฝ้าไทเฮาให้ได้
ไทเฮาทรงรู้ว่าเฉาสิงจือมาเข้าเฝ้าด้วยเรื่องอะไร เขามาขอร้องแทนเซียวเฉวียน เฉาสิงจือมีฐานะเป็นหนึ่งในขุนนางผู้ใหญ่ทั้งเก้าตำแหน่ง เป็นขุนนางเก่าแก่ที่มีความสามารถ นิสัยใจคอของเขา ไทเฮารู้จักเป็นอย่างดี
“ไม่อนุญาติ ให้เขากลับไป!”
ตั้งแต่ที่ไทเฮาเข้ามาควบคุมว่าราชการบ้านเมือง กระทำการโดยการตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวไม่รับฟังความเห็นจากผู้อื่น โดยเฉพาะเรื่องของเซียวเฉวียน ไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่น้อย
เฉาสิงจือคาดเดาเอาไว้แล้ว เมื่อได้ยินไทเฮาไม่อนุญาติให้เข้าเฝ้า เขาก็คุกเข่าอยู่ด้านนอกตำหนัก:“ไทเฮา!ข่าวลือที่ประชาชนพูดกันไม่มีหลักฐาน โทษของเซียวเฉวียนไม่ถึงกับต้องตาย!ถึงแม้ว่าเขาจะดื้อรั้น แต่ก็เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ไทเฮา พระองค์ทรงปล่อยเขาไปเถิดพระเจ้าคะ!”
“และโปรดปล่อยเหล่าบรรดากลุ่มนักเรียน!ที่บ้านของพวกเขายังมีพ่อแม่ พี่น้อง พวกเขาเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นอนาคตที่สำคัญของต้าเว่ย!พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์!ถึงแม้ว่าพระองค์ต้องการจะฆ่าเซียวเฉวียน ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา!พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์!เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย!”
เฉาสิงจือเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าพูดความจริง เป็นผู้บริสุทธิ์สี่คำนี้เขาพูดติดต่อกันสามครั้ง เป็นการใช้ความพยายามและพลังอย่างมาก
หลังจากที่ไทเฮากักบริเวณฮ่องเต้ มีปัญญาชนมากมายต้องตายไป เซียวเฉวียนก็อยู่ในสภาวะโกลาหลวุ่นวาย ใครๆก็คาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มีเพียงเฉาสิงจือคนเดียวที่กล้าออกมาต่อสู้
“บังอาจ!” ไทเฮาทรงกริ้วมากเดินออกมานอกตำหนัก ใบหน้าที่สง่างามโกรธอย่างมาก:“เฉาเตี่ยนเค่อ!เจ้าไม่มีหลักฐาน!ทำไมถึงกล้ามาสงสัยข้า!”
“พระนาง หยุดเถิดพระเจ้าคะ!ในเมื่อฝ่าบาททรงเชื่อเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนจะต้องเป็นคนที่มีประโยชน์มากต่อต้าเว่ย ทำไมท่านถึงต้องต่อต้านเขา?”
เฉาสิงจือคุกเข่า ก้มลงคำนับ:“พระนางโปรดทรงปล่อยเขาเถิด!และก็ปล่อยเหล่าบรรดานักเรียนด้วยเถิดพระเจ้าคะ!”
“เมื่อวาน เซียวเฉวียนขัดราชโองการของข้า วันก็ยังไม่เข้ามาว่าราชกิจ ถ้าข้าปล่อยเขาไป ข้าจะอับอายเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
เฉาสิงจือเงยหน้าขึ้น ส่ายหน้า ไม่ นี่เป็นเพียงข้ออ้างของผู้หญิง :“พระนาง!เซียวเฉวียนยังเป็นราชครู ฝ่าบาททรงยกเลิกไม่ต้องให้เขาไม่ต้องเข้ามาว่าราชกิจ ทำไมพระองค์ถึงยึดติดกับสิ่งนี้ไม่ยอมปล่อย?”
“ข้าน้อยไม่เข้าใจ ทำไมพระองค์ต้องกักบริเวณฝ่าบาท?”
“ทำไมพระองค์จะต้องฆ่านักเรียนชิงหยวน?”
“และทำไมพระองค์ต้องฆ่าไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า?”
“พูดไร้สาระ!” สายพระเนตรของไทเฮาเต็มไปด้วยพลังบารมี:“ฝ่าบาททรงประชวร!ต้องได้รับการผักผ่อน!จะพูดว่ากักบริเวณได้อย่างไร!ส่วนคนอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...