อ่านสรุป บทที่ 725 อาการบาดเจ็บของจักรพรรดิ จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 725 อาการบาดเจ็บของจักรพรรดิ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
“เซี่ยวเฟิง! ถอยมา! กลับตำแหน่ง! กลับไปยังฝั่งกองทัพตระกูลฉินด้านโน้น!”
เซียวเฉวียนสั่งการ ถ้าเซี่ยวเฟิงกัดอีก คาดว่าปากคงแหลกกระจุย
เซี่ยวเฟิงคำรามอย่างโมโห ราวกับมาได้อย่างใจ และตอนนี้ก็ไปได้อย่างใจ แค่ก่อนไปหัวใหญ่โตของมันถอนหายใจผ่านไรฟัน
“เสี่ยวเซียนชิว!”
เซียวเฉวียนเอ่ยนามขึ้น เสี่ยวเซียนชิวไม่ได้กลับมา กระบี่ของนางกลับลอยลงมาจากท้องฟ้าได้ดั่งใจ แล้วมุ่งไปฟันผนึกตราประทับสีขาว
“ชิ้ว!”
กระบี่เล่มนั้นเกิดจากอากาศจนก่อรูปดุจฝันมายาฟองสบู่เงา แค่ลมพัดก็แตกซ่านไปแล้ว สลายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตาเดียว
เสี่ยวเซียนชิวที่อยู่ห่างออกไปรู้สึกได้จึงตกใจ “ท่านพ่อ! ข้าลองกลับไปดู!”
“ไม่ ไม่ต้องกลับมา! ไปช่วยท่านย่าเจ้าก่อน!”
“แต่ว่า……”
“ไม่มีแต่ว่า! ไปเร็ว!” เซียวเฉวียนขอร้องมากถึงเช่นนี้ เสี่ยวเซียนชิวก็ไม่อาจไม่เชื่อฟัง จึงทำได้เพียงมุ่งไปยังตำหนักที่แม่เซียวอยู่
ลานนอกตำหนัก เซียวเฉวียนตกใจกับผนึกตราประทับสีขาวนี้เข้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าวิธีเกินความจริงของไทเฮาจะเจ๋ง
ถึงว่าทำไมฮ่องเต้ถึงออกมาไม่ได้
“วี้!”
ผนึกตราประทับสีขาวที่โดนเซี่ยวเฟิงและเสี่ยวเซียนชิวโจมตีได้ส่งเสียงร้องดังวี้ขึ้น
“อ๊าก!” ฮ่องเต้ร้องครางรุนแรงน่าเวทนา
เซียวเฉวียนตกใจ ผนึกนี้กลับชี้เป้าไปที่ฮ่องเต้?
ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนคิดว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม มีผนึกจูเสินมุ่งเป้าองครักษ์ มีตราประทับเหวินอิ้นก็มุ่งเป้าปัญญาชน เขาไม่เคยคิดว่ายังมีผนึกตราประทับที่มุ่งเป้าใส่ฮ่องเต้ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุด
ถึงว่า
ว่าทำไมเว่ยเชียนชิวถึงได้โอหังขนาดนั้น
สิ่งของที่เจ๋งสุดยอดสามารถอยู่ในมือของไทเฮา ย่อมเป็นเพราะเว่ยเชียนชิวอนุญาตเป็นแน่ ด้วยพลังของเว่ยเชียนชิว จะจัดการผู้หญิงอย่างไทเฮานี้เป็นเรื่องง่ายดาย เว่ยเชียนชิวอยากได้ผนึกตราประทับสีขาวนี้ ไม่สนว่าจะต้องขโมยหรือแย่งมา แค่เพียงเว่ยเชียนชิวเอ่ยปาก ไทเฮาก็รั้งไว้ไม่ได้
แต่เว่ยเชียนชิวไม่ได้ต้องการผนึกตราประทับสีขาวที่สามารถจับจุดอ่อนบีบบังคับฮ่องเต้ การที่เว่ยเชียนชิวจัดการฮ่องเต้มักเป็นเรื่องซับซ้อนและยาก ราวกับเกมในโลก นอกจากเพราะเว่ยเชียนชิวชอบเล่นชอบความสนุกเป็นทุนเดิม ดูเหมือนว่าเขากับไทเฮาคงมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่
บระเจ้า!
เซียวเฉวียนเพิ่งจะเห็นใจเว่ยอวี๋ไป ตอนนี้ก็อดเห็นใจฮ่องเต้อีกไม่ได้
ลูกที่เกิดในราชวงศ์นี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ แค่ประมาทเล็กน้อยก็กลายเป็นของเล่นของแม่กับลุงแท้ๆ อยากจะบีบเล่นยังไงก็ทำได้
ฮ่องเต้อยู่ในลานนี้หลายวันแล้ว ในทุกวันล้วนใช้ชีวิตท่ามกลางความสิ้นหวังถึงก้นบึ้งสินะ
ในใจของเซียวเฉวียนเกิดความรู้สึกถึงความรับผิดชอบในฐานะราชครูขึ้นมาเป็นครั้งแรก นักเรียนของตัวเองประสบความทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ ขอแค่เขายังเป็นราชครูอยู่ละก็ เขาก็มีหน้าที่ปกป้องนักเรียนของตน
“ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ!”
เซียวเฉวียนเรียกภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ “ลุย!”
ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิที่ลอยกลางอากาศได้ยิงสายฟ้าฟาดไปยังประตูพระราชวังโดยที่ไม่ขยับเขยื้อน ผ่านท้องฟ้าของพระราชวังไปมากกว่าครึ่งและมุ่งตรงฟาดสายฟ้าใส่ผนึกตราประทับสีขาว!
“ตู้ม!”
“วี้!”
เสียระเบิดสายฟ้าและเสียงดังของผนึกตราประทับสีขาวดังขึ้นกลางอากาศซับซ้อนไปหมด หูของเซียวเฉวียนใกล้จะหนวกแล้ว
เขาไม่ได้ถอยแม้แต่ก้าวเดียว เขาถอยไม่ได้!
เพราะมีชายผู้หนึ่งที่กำลังรอเขาอยู่ในลานนั้น!
เพื่อปกปิด องค์หญิงจึงไม่อาจกลับมาอาศัยที่พระราชวังได้ ทำได้เพียงอาศัยอยู่นอกพระราชวัง
เดิมทีองค์หญิงเลือกพระราชวังแห่งหนึ่งที่ใกล้กับเมืองหลวง ที่นั่นงดงามและอบอุ่น เป็นสถานที่ดีที่หนึ่งที่จะไป
ที่นั่นแม้จะไกลจากพระราชวังไปสักหน่อย กลับไม่ไกลขนาดนั้น คนในครอบครัวอยากจะดูแลองค์หญิงละก็เป็นเรื่องสะดวก ทั้งยังอำพรางสายตาผู้คนได้
แต่องค์หญิงดันเลือกเมืองเล็กๆที่ห่างจากเมืองหลวงของซินเจียงมากนัก ที่นี่ไกลจากเมืองหลวง แต่ใกล้กับต้าเว่ย ขี่ม้าเพียง 5 วันก็ไปถึงเขตแดนของต้าเว่ยได้แล้ว
ความเพ้อฝันและผ่านเรื่องลำบากด้วยใจขององค์หญิง ทำให้บิดามารดาและพี่ๆโกรธแต่ก็เอ็นดูจนไม่อาจเอาชนะความดื้อรั้นขององค์หญิงได้ บวกกับนางกำลังตั้งครรภ์ คนในครอบครัวก็ได้แต่ตามใจนาง ให้นางได้เลือกลงหลักปักฐานที่เมืองเล็กห่างไกลจากเมืองหลวงนี้
คนในครอบครัวจะโกรธก็โกรธไป แต่ก็จัดเตรียมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี องค์หญิงต้องอาการอะไรก็ได้ทั้งหมด นอกจากสถานที่อาศัยที่ไม่ใหญ่เท่าพระราชวัง นอกนั้นล้วนไม่ขาดอะไรทั้งสิ้น
ว่าตามหลักแล้วเงื่อนไขดีขนาดนี้ องค์หญิงควรจะอ้วนขึ้นสักหน่อยสิ
แต่องค์หญิงกลับผอมขึ้นเรื่อย ๆ ท้องก็เต้นทุกวัน ใบหน้ากลับผอมลงมากขึ้น
แต่ละวันนางเอาแต่เงยหน้ามองไปยังประตู เหล่าสาวใช้ล้วนรู้ว่านางกำลังรอใคร
แต่คนนั้นไม่เคยมาปรากฏตัวเลย
องค์หญิงซีดเซียวขึ้น เวลาว่างก็จะถือพู่กันแปลกประหลาดสองด้ามและพูดเสียงเบาราวกระซิบแค่นั้น
วันนี้องค์หญิงนั่งอยู่ที่ประตูด้วยจิตใจที่ไม่สงบมากกว่าเดิม นางนั่งเอามือเล่นพู่กันสองด้ามนั้นไม่หยุดอยู่ที่หน้าประตู
“ตะ”
พู่กันสองด้ามชนกันกะทันหัน
องค์หญิงต้าถงอึ้งรีบกุมพู่กันสองด้ามนี้แล้วหันหน้ามาพูด “ข้าหิวแล้ว พวกเจ้าไปเตรียมขนมบัวลอยมาให้ข้าหน่อย”
“เจ้าค่ะ ฮูหยิน”
สาวใช้ดีใจขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่องค์หญิงพูดขึ้นมาเองว่าอยากกินอะไร พวกนางจึงรีบถอยออกไปเตรียมด้วยความรวดเร็วยินดี
หลังจากที่สาวใช้ถอยออกไปหมดแล้ว องค์หญิงจึงกล่าวขึ้น “พู่กันเฉียนคุน เจ้ามีบางอย่างจะพูดหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...