ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 751

พู่กันเฉียนคุนได้ยินคำพูดนี้ก็พลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในต้าเวยนอกจากผนึกอักษรที่มันสู้ไม่ได้แล้ว อาวุธอื่นๆ จะมาเป็นคู่ต่อกรของมันได้อย่างไร?

อาวุธที่ถือกำเนิดจากฟ้าดินกระหายเลือด การได้มีคู่ต่อสู้ นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้ายามโจโฉมีชีวิตก็เป็นผู้อารักขา ผู้อารักขามีนิสัยชอบต่อสู้ กล้าหาญแข็งแกร่ง แต่ต่อให้หาญกล้าเพียงใดก็เป็นแค่มนุษย์เท่านั้น พวกเขายังคงหวาดกลัวและหวั่นเกรงความตายอยู่วันยันค่ำ

ตอนนี้ร่างของโจโฉตายไปแล้ว สติมาสิงอยู่ในพู่กันเฉียนคุน กลายเป็นอาวุธที่หลุดพ้นจากร่างกายเลือดเนื้อ โจโฉก็สามารถต่อสู้ได้โดยไม่ต้องพะวงกว่าเดิม

ยิ่งกลิ่นอายอันตรายเท่าไหร่ อาวุธก็ยิ่งคึกคัก

ยิ่งยากจะรับมือเท่าไหร่ อาวุธก็จะยิ่งพยายามมากขึ้น

เซียวเฉวียนให้พู่กันเฉียนคุนเข้าไปอยู่ในชายเสื้อ เขาละคิดอยากจะเห็นค่าพลังการต่อสู้ตอนที่เซียนชิวน้อยกับกระบี่ชีวันสู้กัน เมื่อเป็นแบบนี้อีกหน่อยเวลาสู้กับคนประเภทนี้ ในใจจะได้พอคะเนได้บ้าง

“พรวด!”

ขณะที่เซียวเฉวียนกำลังคิดแบบนี้ กลิ่นอายกระหายเลือดก็กระจายผ่านกระดาษสีขาวตรงบานหน้าต่างออกมาทั่ว

หลังจากนั้น แสงสีขาวก็สว่างขึ้น และในเวลเดียวกันยังมีเสียงคำรามอันเย็นยะเยือกเป็นที่สุดของเซียนชิวน้อย “เป็นแค่มนุษย์สามัญ กลับกล้าลงมือกับข้า”

ทหารรายแรก ตายแล้ว

ไม่เพียงแค่ตายแล้ว กระบี่ชีวันเล่มนั้นยังถูกเสี่ยวเซียนชิวเขวี้ยงออกมาเต็มแรง ก่อนจะปักอยู่ตรงพื้นเบื้องหน้าเจวี๋ยซา

“ฟึ่บ”

แรงเขวี้ยงของเซียนชิวน้อยรุนแรงยิ่ง กระบี่สั่นไหวอยู่บนพื้นไม้พลางส่งเสียงหวิ่งๆ ออกมา

กระบี่ชีวันเล่มที่อยู่ตรงหน้านั้น กลิ่นอายหยางยะเยือกหายไปสิ้น ประหนึ่งมันกลายเป็นเศษเหล็ก

พวกเจวี๋ยซาพากันตกตะลึง!

นี่มันกระบวนท่าแบบใดกัน?

หากพูดให้มันง่ายนั้น กระบี่วิญญาณกินคนเป็นอาหารและกินวิญญาณของกระบี่เช่นเดียวกัน ในบันทึกโบราณของคุนหลุนนั้น บันทึกข้อมูลของกระบี่วิญญาณเอาไว้ยาวเหยียด เห็นได้ชัดว่ากระบี่วิญญาณนี้พบเห็นได้มากในหนึ่งพันปีก่อนหน้า และมีความสำคัญอย่างยิ่งด้วย

เพียงแต่ว่าในหลายปีมานี้ กระทั่งชาวคุนหลุนยังไม่เคยเห็นกระบี่วิญญาณเลยด้วยซำ ดังนั้นทุกคนก็เลยถือว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง

เซียวเฟิงกับฉีหลิน อสูรต่อสู้ระดับสูดชั้นนี้ ทุกคนยังพอได้เคยพบเคยเห็นกันมาบ้าง ทว่าเสี่ยวเซียนชิว วิญญาณกระบี่ในรูปแบบนี้ยังเป็นของที่ได้พบครั้งแรกในรอบพันปี

ดังนั้นแล้ว คนหนุ่มกลุ่มนี้นับว่ามีเคราะห์ร้ายขั้นหนักแล้ว

“คนต่อไป”

กลางห้องที่ปิดตายนั้น น้ำเสียงเย็นชาของเสี่ยวเซียนชิวดังลอดมา ปากเล็กๆ ของนางเคี้ยวหนุบหนับ คล้ายกับไม่พอใจปราณวิญญาณของกระบี่ชีวันยิ่ง

“พี่ใหญ่! นี่...” เหล่าคนหนุ่มไฉนเลยจะเคยเห็นฉากนี้ เพื่อนของตัวเองเข้าไปไม่ถึงห้านาทีเลยก็ตายเสียแล้ว? “อะไรกัน พวกเจ้ากลัวกระทั่งเด็กสาวคนเดียวหรือ?”

ในตอนที่เหล่าคนรุ่นเยาว์กำลังลนลานเล็กน้อยกันอยู่นั่นเอง ปากของเว่ยเป่าก็สั่นระริกขึ้นมา “พวกเจ้าไม่ได้พูดว่าสู้กับนางได้หรอกหรือ?”

“เจ้าหุบปาก!”

เจวี๋ยซาโมโหเล็กน้อย วาจาเช่นนี้ของเว่ยเป่าพอได้ยินมาถึงหูแล้วก็คล้ายมีเจตนาไม่เคารพเขาเสียเลย เขาหรือจะกลัวสาวน้อยตัวเล็กๆ รายหนึ่ง!

ในเวลานี้เอง น้ำเสียงหยิ่งทะนงก็ดังลอดมา “กลัวก็ยอมรับซะ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้หรอก”

เว่ยเป่าพได้ยินเสียงนี้ ก็ตื่นตระหนกจนวิญญาณหลุด เขารีบวิ่งไปหลบหลังเจวี๋ยซาพลางคิดว่าเมื่อเป็นแบบนี้ผู้ที่มาก็จะมองไม่เห็นตัวเขา

เหล่าคนหนุ่มทั้งหลายโมโหเลือดพล่าน ใครกล้าเย้ยหยันพวกเขากันหรือ?

เป็นเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาทีละก้าว พลางกวาดตามองคนเหล่านี้รวมไปถึงเว่ยเป่าที่หลบอยู่ด้านหลังสุดด้วย

“ฮ่าๆๆๆ!” เจวี๋ยซาถูกมองจนใจสะท้าน แต่กลับยังหัวเราะบ้าคลั่ง “เพ้ย วาจายิ่งใหญ่นัก! เป็นแค่กระสอบทรายใบหนึ่งก็เท่านั้น! ยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล!”

เซียวเฉวียนที่เพิ่งจะดื่มชาถ้วยนั้นเสร็จ ก็เอาน้ำชากระแทกลงกับโต๊ะโดยรง สายตาของเขากวาดมองกลุ่มอันธพาลอายุเยาว์พวกนี้ทีละคนจนกระทั่งถึงคนที่หลบอยู่คนสุดท้าย “เว่ยเป่า ส่งเลือดพิสุทธ์ของเย่าเหล่ากับจิ่นเซ่อมานี่!

“ข้าให้โอกาสเจ้าเป็นฝ่ายมอบออกมาเองก่อน ไม่อย่างนั้น เจ้าคงรู้ผลลัพธ์ดี”

เซียวเฉวียนมองเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมรายนี้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจเสียเลย ใครจะไปรู้ว่าใบหน้าที่ดูไร้พิษสงดวงนี้ ที่แท้ซ่อนปีศาจร้ายเอาไว้กัน?

เว่ยเป่ากอดขวดที่บรรจุเลือดพิสุทธิ์เอาไว้สองขวดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุร้าย “อ๋องเช่นข้าไม่มอบให้เจ้า!”

“เจ้าสังหารบิดาของข้า! เจ้าสังหารพี่ชายของข้า! แล้วข้าจะให้เจ้าทำไม!”

เซียวเฉวียนสายตากดลึก “บิดาแท้ๆ ของเจ้าตายอย่างบุรุษ! ตายเพราะต้องการช่วงชิงอาวุธของตระกูลฉิน! เว่ยเชียนชิวเป็นคนสังหารพี่ชายของเจ้า! แล้วเจ้าจะมาชำระแค้นอะไรกับข้ากัน! แถมยังจะมาชำระแค้นอะไรกับคนในครอบครัวและพี่น้องของข้า!”

“ถ้าไม่มีเจ้า! เรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น!” เว่ยเป่าส่งเสียงอ้อแอ้ เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงเดือดสุดขีด “ล้วนเป็นเจ้า ล้วนเป็นเพราะเจ้า!”

เสียงกรีดร้องของเด็กดื้อรายนี้ ช่างพาให้คนชิงชังยิ่งนัก

ใบหน้าของเว่ยเป่านั้นแดงเก่า เขาอาศัยว่าพวกเจวี๋ยซาล้วนอยู่ตรงนี้ เขาย่อมไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด เขาไม่เชื่อหรอกว่า เซียวเฉวียนกับสาวน้อยรายนั้นจะสู้กลุ่มคนที่สังหารล้างตระกูลพวกนี้ได้!

“เจ้าไม่ให้ใช่ไหม”

เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเบาเสียงหนึ่ง เว่ยเป่ายังคงส่ายหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่! ข้าจะไม่มอบให้เจ้า! นี่คือสิ่งที่ตระกูลเซียวพวกเจ้าติดค้างพวกข้า! เจ้าอย่าได้หวังจะเอาเลือดพิสุทธิ์ของสองคนนี้ไปได้เลย!”

“ให้พวกมันทั้งสองคนชดใช้หนี้ของตระกูลเซียวเจ้าเสียเถอะ!”

เซียวเฉวียนไม่ได้สนใจคำพูดมากความของเว่ยเป่า เขาเพียงแค่ถามเว่ยเป่าคำถามเดียว “เป็นเจ้าใช่หรือไม่ที่สั่งให้คนหมิ่นหยามทำลายจิ่นเซ่อน้องสาวของข้า?”

ในยามนี้เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้น ประกายความเย็นชาในดวงตาทำเอาเว่ยเป่าตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ “ใช่ ใช่แล้วอย่างไร! คนตระกูลเซียวเช่นพวกเจ้าเป็นคนต่ำช้า! เดิมควรจะเป็นบ่าวเป็นทาส ข้าทำเช่นนี้แล้วมีปัญหาอะไร!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย