ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 753

เห็นคนพวกนี้ตื่นตระหนกตกใจ ในที่สุดเซียวเฉวียนจึงตระหนักได้ว่าคนกลุ่มนี้คิดว่าพู่กันเฉียนคุนอยู่ในมือของไทเฮาอีนางเลวนั่น จึงทำให้พวกเขากล้าที่จะเหิมเกริมขนาดนี้

“แล้วจะทำยังไงต่อเนี่ย ? เว่ยเป่าหลอกพวกเจ้าแล้ว”

เซียวเฉวียนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และมองไปที่เว่ยเป่าอย่างไร้เจตนา ด้วยคำพูดเหล่านี้เขาหันหัวหอกไปให้เว่ยเป่าแล้วทันที

ภายใต้แสงสีแดงของพู่กันเฉียนคุน เซียวเฉวียนยืนอยู่ในนั้น ราวกับเป็นปีศาจและยมทูตที่มาจากนรก

เว่ยเป่ารู้ว่าเซียวเฉวียนมีลูกเล่นมากมาย แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวเฉวียนจะมีมากถึงขนาดนี้ !

"ข้าไม่ได้หลอกพวกเจ้า ข้าไม่ได้หลอก!" เว่ยเป่ายังเป็นเด็ก ถึงจะโหดร้ายแค่ไหน เกลือก็ยังกินน้อยกว่า เขามอง เซียวเฉวียนด้วยดวงตาเกลือกกลิ้งและตะโกน "พู่กันเฉียนคุนอยู่กับไทเฮาโน่น ! ข้าเห็นกับตาด้วยตัวเอง!”

เว่ยเป่าเห็นกับตาเองจะมีประโยชน์อะไร ไม่ว่าเว่ยเป่าพูดจริงหรือพูดเท็จ ที่เห็นๆ อยู่ตอนนี้พู่กันเฉียนคุนก็อยู่ในมือของเซียวเฉวียน อยู่ตรงหน้าของพวกเขา

ทั้งยังกะพริบไฟแสงสีแดงอยู่ต่อหน้าพวกเขา!

“ฮึ !” เจว๋ซาซึ่งเย่อหยิ่งอย่างยิ่งในเมื่อกี้สูดลมหายใจเย็นๆ และจ้องมองไปที่เว่ยเป่าอย่างดุร้าย “เจ้าถูกไทเฮาต้าเว่ยหลอกไปแล้วมังเนี่ย?”

เว่ยเป่ามองดูรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเซียวเฉวียน ไม่ใช่เขาถูกไทเฮาหลอก แต่เซียวเฉวียนหลอกไทเฮาแล้วต่างหาก!

ไทเฮาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพู่กันเฉียนคุนในมือของนางเป็นของปลอม!

เว่ยเป่าตกใจจนฉี่ราด เขาฉี่ออกมาจริงๆ เซียวเฉวียนและพู่กันเฉียนคุนยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย พวกเขาแค่ปรากฏตัวแค่นั้น ขากางเกงของเขาก็เริ่มฉี่ไหลย้อย จบกันที เว่ยเป่ารู้สึกตกใจมองไปยังเซียวเฉวียน ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าชาวบ้านหายเป็นปลิดทิ้ง ดูท่าทางวันนี้จะออกจากต้าเว่ยน่าจะยากพอดู

“อายุห้าขวบแล้ว ยังฉี่เปียกกางเกงอยู่อีก” เซียวเฉวียนจงใจมองไปที่เว่ยเป่าด้วยความรังเกียจ "ท่านอ๋อง ดูท่าท่านจะต้องโตขึ้นอีกหน่อย จะได้ไม่ต้องมาขายขี้หน้าขนาดนี้"

”แต่...ท่านยังมีโอกาสไหม?” ดวงตาของเซียวเฉวียนชะงัก ภายใต้แสงสีแดง สัญลักษณ์ระหว่างคิ้วของเขายิ่งดูแดงขึ้นและทรงพลังขึ้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเซียวเฉวียนนั้นยิ่งดูเหมือนยมทูตในสภาพบ้าคลั่ง "ข้าคิดว่าเจ้าไม่มีโอกาสแล้วมัง ในเมื่อตะกี้ ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้าบอกว่าไม่เอาเอง...... "

เสียงของเซียวเฉวียนเบาและล่องลอยมาก แต่เว่ยเป่าและเจว๋ซาได้ยินอย่างชัดเจน

เซียวเฉวียนเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว ตาของเขาจับจ้องไปที่เว่ยเป่าเท่านั้น พวกของเจว๋ซาเหล่านั้นยังไม่คู่ควรถูกรวมอยู่ในสายตาของเซียวเฉวียนด้วยซ้ำ

เว่ยเป่าขนลุกไปทั้งตัวและหลบซ่อนตัวที่ข้างหลังเจว๋ซาอย่างแนบสนิท "อย่าปล่อยให้เขาเข้ามา! อย่าปล่อยให้เขาเข้ามาเด็จขาด! เขาจะฆ่าพวกเราแน่นอน!"

เจว๋ซากัดฟันและตะโกนด้วยความโกรธ "ชักดาบ!"

พวกของเจว๋ซาเจ็ดคนชักดาบชีวันที่เย็นยะเยือกออกมาทันที แสงของดาบชีวันส่องประกายผ่านดวงตาทั้งคู่ที่มืดมนของเซียวเฉวียน "สี่ร้อยสามสิบเก้า"

”สี่ร้อยสามสิบเก้าอะไร!” อันที่จริง เจว๋ซารู้สึกกลัวเล็กน้อยในใจ เพราะเซียวเฉวียนที่ปกคลุมด้วยแสงสีแดง ดูน่ากลัวมาก น่ากลัวยิ่งกว่าเจ้านายภูเขาของพวกเขาอีก!

เพราะเซียวเฉวียนบนใบหน้ามีแต่ความเย็นชา ไม่มีอารมณ์อื่นใดแม้แต่นิด!

“สี่ร้อยสามสิบเก้าคืออะไรงั้นหรือ?” เซียวเฉวียนหัวเราะเยาะ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 15 คนในจวนเซียว

สิบห้าคนนี้มีบาดแผลจากดาบชีวันสี่ร้อยสามสิบเก้าแผล

เฉลี่ยแล้วแต่ละคนมียี่สิบเก้าจุดสองแผล

ในนั้น มีร่างกายของเจี้ยนเหล่าที่ดูน่าอนาถที่สุด เนื่องจากเจี้ยนเหล่ามีกำลังมาก กลุ่มเด็ก ๆ จากภูเขาจงหนานซานเหล่านี้จึงร่วมกันรุมล้อมโจมตีเจี้ยนเหล่าในเวลานั้น

ในนั้น จิ่นเซ่อมีรอยแผลน้อยที่สุด แต่ถูกย่ำยีทรมานก่อนตาย

รอยดาบสี่ร้อยสามสิบเก้าแผล เป็นบาดแผลที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

และรอยแผลความอัปยศอดสูที่มองไม่เห็นของจิ่นเซ่อ ทำให้เซียวเฉวียนพี่ชายคนนี้โกรธแค้นจนสุดที่จะหักห้ามได้ !

คนพวกนี้อยากตายง่ายๆ สบายๆ หรือ ? ไม่มีทาง

เซียวเฉวียนเอนศีรษะเล็กน้อย ตระกูลเซียวพิถีพิถันที่สุดกับฟันต่อฟัน หนึ่งแลกสิบ!

”พู่กันเฉียนคุน ! ฆ่ามัน ! ”

เซียวเฉวียนคำรามด้วยความโกรธ เสียงคำรามนั้นสะท้านทั้งแก้วหูของเว่ยเป่าและเจว๋ซา!

สิ่งเดียวที่ดีก็คือในฐานะอาวุธของคนยุคใหม่ ถึงแม้มีชื่อเสียงสู้พู่กันเฉียนคุนไม่ได้ หรือทรงพลังสู้พู่กันเฉียนคุนไม่ได้ แต่อย่างน้อยในบรรดาอาวุธที่มีอยู่ ดาบชีวันก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ชนิดของอาวุธที่สามารถต่อกรกับพู่กันเฉียนคุนได้

ดังนั้น พวกเจว๋ซาจึงไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ทีเดียว แต่พู่กันเฉียนคุนก็ไม่สามารถเอาเปรียบได้เช่นกัน

พู่กันเฉียนคุนขนาดมหึมากำลังใกล้เข้ามาหาพวกเขา แต่แรงอาฆาตยังถูกต้านทานด้วยดาบชีวัน เจว๋ซาจับดาบชีวันไว้แน่น เส้นเลือดเขียวที่ต้นคอนูนขึ้น "ให้ตายเถอะ!"

พู่กันเฉียนคุนปล่อยแสงสีแดงและสีขาวทะลุทะลวงในเวลาเดียวกัน แสงสีแดงที่เจว๋ซาและพวกเห็นเมื่อกี้ ตอนนี้มีแสงสีขาวที่ทำให้ตาพร่าเข้ามาแทรกอีก

มันแย่มากทำให้เจว๋ซามองไม่เห็นว่าตอนนี้เซียวเฉวียนอยู่ที่ไหน

ตั้งแต่พู่กันเฉียนคุนเปลี่ยนจากหนึ่งกลายเป็นสองด้าม แสงที่พวกมันปล่อยออกมาก็เหมือนกับแสงจากดิสโก้ มันกะพริบ สว่างไสว ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ

คงจะดีไม่น้อยถ้าให้เจว๋ซาและพวกได้สัมผัสความสนุกสนานกับดิสโก้ของอารยธรรมสมัยใหม่

หลังจากที่เซียวเฉวียนได้เรียนรู้การปราบด้วยคำพูด ไม่มีประโยชน์อื่นใด มีแค่ข้อดีอย่างหนึ่งที่สำคัญคือบทกวีของเขาสามารถใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง

เมื่อก่อนยามเซียวเฉวียนแข่งขันบทกวี เขาต้องแต่งบทกวีในสนาม และต้องไม่ทำซ้ำบทกวีที่ซ้ำกับเมื่อก่อน

หลังจากได้เรียนรู้การปราบด้วยคำพูด บทกวีที่เคยใช้ ก็นำมาใช้ซ้ำได้

ดังนั้น ในลำแสงที่เหมือนดิสโก้ พวกเจว๋ซาที่มองไม่เห็นเซียวเฉวียน แต่ได้ยินเสียงท่องบทกวีทุ้มๆ ของเซียวเฉวียน "หัวขาดวันนี้คิดอย่างไร?"

”สร้างกิจลำบากมากท้าทาย”

อะไร? พวกเด็กนักพเนจรทั้งหลายมึน ฟังไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว

เสียงของเซียวเฉวียนราวกับเสียงที่มาจากนอกโลก ดังขึ้นๆ ลงๆ ราวกับเสียงเรียกของพระพุทธเจ้าในหู

"จะไปใต้พิภพถิ่นเก่า ชวนแสนนักรบ......มาสู้ศึก!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย