อ่านสรุป บทที่ 783 ผนึกจูเสินปรากฏชัด จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 783 ผนึกจูเสินปรากฏชัด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เมื่อมองเช่นนี้แล้ว ศักยภาพของเซียวเฉวียนแตกต่างจากนักปราชญ์อยู่มาก!
กล่าวได้ว่า หากเซียวเฉวียนสู้กับนักปราชญ์ขึ้นมา เซียวเฉวียนยังไม่ทันได้เห็นขนของนักปราชญ์ชัดเจน ก็คงต้องรายงานตัวกับยมบาลเสียแล้ว
สู้บ้ากระไรกัน! ล้างแค้นบ้าบอกระไร!
เซียวเฉวียนวุ่นวายใจไม่หยุด เซียวเฉวียนอยู่ที่ต้าเว่ยนานขนาดนั้น เป็นครั้งแรกที่เขาอยากพัฒนาศักยภาพและความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างมาก!
ทำลายผนึกจูเสินเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้! และต้องทำในทันทีรอช้าไม่ได้!
เซียวเฉวียนหันตัวกลับมา ถามชิงหลงด้วยสีหน้าที่ไม่ดีมากนัก “ชิงหลง เจ้าเห็นรูปร่างของนักปราชญ์หรือไม่?”
เซียวเฉวียนรู้ว่า ชิงหลงอยู่ข้างเขามาเสมอ
ชิงหลงส่ายหน้า “ไม่เห็นขอรับ”
คำตอบของชิงหลงเป็นไปตามที่เซียวเฉวียนคาดการณ์ไว้! เซียวเฉวียนตัดสินตามประสบการณ์การดูละครหลายปีในฮว๋าเซี่ย นักปราชญ์ผู้นี้ต้องเป็นผู้ที่คุณธรรมและบารมีสูงส่งแห่งเทือกเขาคุนหลุนอย่างแน่นอน และเป็นคนที่ชิงหลงคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่นักปราชญ์ไม่ลงมือต่อลูกน้องของเซียวเฉวียน เป็นเพราะว่าชิงหลงอยู่ข้างกายเซียวเฉวียน หากนักปราชญ์ลงมือต่อสู้ กระบวนท่าการต่อสู้ของนักปราชญ์ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของชิงหลงไปได้แน่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ตัวตนของนักปราชญ์จะถูกเปิดเผยเท่านั้น ชิงหลงก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้นักปราชญ์ฆ่าเซียวเฉวียน
เมื่อถึงเวลานั้น ก่อนที่เซียวเฉวียนจะตาย ตัวตนของนักปราชญ์ก็จะถูกเซียวเฉวียนป่าวประกาศออกไปจนรู้กันทั่ว ภาพลวงตาของเทือกเขาคุนหลุนที่ไม่เคยต่อกลอนกับโลกภายนอก ก็จะไม่ทำให้ผู้คนภายนอกต้องสับสนมึนงงอีกต่อไป!
อย่างไรเสีย เมื่อมีชิงหลงอยู่ด้วย นักปราชญ์ไม่มีทางทำร้ายเซียวเฉวียนได้!
เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริง ๆ!
ทว่านักปราชญ์ผู้นี้ช่างน่าแปลกเสียจริง หากเขาเป็นชาวคุนหลุน ตอนนี้เซียวเฉวียนก็นับว่าเป็นของล้ำค่าของชาวคุนหลุน นักปราชญ์ผู้นี้กลับคิดจะฆ่าเขางั้นหรือ?
แต่ว่า เซียวเฉวียนไม่อยากสนใจเรื่องปวดประสาทนี่ นักปราชญ์ต้องการฆ่าเขา เช่นนั้นนักปราชญ์และชิงหลงจักต้องไม่ใช่พวกเดียวกัน ไม่สนเขาล่ะ เวลาไม่คอยท่าแล้ว เซียวเฉวียนต้องนำร่างของแม่เซียวกลับไปประดิษฐานยังจวนเซียวที่เสื่อมโทรม และนำชิงหลงรุดหน้าไปรับฮ่องเต้ เพื่อไปยังเกาะจูเสิน
ผนึกจูเสินบนเกาะจูเสินเป็นมือปราบชาวคุนหลุน ชิงหลงไม่อาจเข้าใกล้ได้ และทำได้เพียงโยนตัวฮ่องเต้และเซียวเฉวียนทิ้งไว้บนเกาะจากระยะทางไกล ๆ
ชิงหลงก็ช่างมีความสามารถจริง ๆ ระยะทางห่างไกลเช่นนี้ยังโยนคนเข้าไปได้ หากกระโจนเข้าไปกินอึ เส้นผมก็ไม่ยุ่งเหยิงเลยแม้แต่น้อย ฮ่องเต้และเซียวเฉวียนทั้งสองถูกโยนเข้าไปเป็นเส้นโค้ง เซียวเฉวียนอยู่ด้านหน้า ฮ่องเต้อยู่ด้านหลัง ราวกับมนุษย์ที่บินบนฟากฟ้า และยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง
นับตั้งแต่หนึ่งปีก่อน เซียวเฉวียนพาสิบแปดอรหันต์ออกจากเกาะจูเสิน บนเกาะจูเสินจึงไม่มีใครอาศัยอยู่อีกเลย
ตลอดจนภายหลัง เซียวเฉวียนได้ช่วยเสิ่นฉี หนึ่งในสิบแปดอรหันต์แก้แค้น เซียวเฉวียนนำตัวผู้ร้ายอย่างฉินหลังเนรเทศมายังเกาะจูเสิน ที่นี่จึงมีมนุษย์อาศัยอยู่เพียงคนเดียว
เวลาผ่านไปนานเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่รู้ว่าฉินหลังยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
“ฮัดชิ้ว!” เสียงของฉินหลังที่จามติดต่อกันสองที ดังมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ไกล ๆ ดวงตาสีดำทะมึนคู่หนึ่งมองดูคนสองคนที่เพิ่งมาถึงเกาะด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล ฉินหลังจึงมองเห็นไม่ค่อยชัด
รอจนเซียวเฉวียนและฮ่องเต้ขยับเข้ามาใกล้ฉินหลังมากขึ้น ฉินหลังมองเห็นเซียวเฉวียนเป็นคนแรก ในใจของฉินหลังผุดดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก! ทำดีย่อมได้ดี! เซียวเฉวียนเจ้าจอมก่อเรื่อง เกรงว่าจะจงใจหาเรื่องอะไรอีก จึงถูกเนรเทศมายังเกาะจูเสินอีกครั้งสิท่า!
สวรรค์มีตาจริง ๆ! ฉินหลังหยิบท่อนไม้ที่หนาเท่าข้อมือขึ้นมา และอ้อมไปที่ตําแหน่งด้านข้างของเซียวเฉวียน พร้อมกับกระโจนเข้าหาเซียวเฉวียนอย่างอาฆาต!
ท่อนไม้ท่อนนี้เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวที่ฉินหลังมีอยู่บนเกาะ ท่อนไม้เกลี้ยงเกลาไปหมด ทำให้รู้ได้ว่า ชีวิตบนเกาะของฉินหลังไม่ได้สุขสบายมากนัก
ดังนั้น ฉินหลังจึงเคียดแค้นเซียวเฉวียนมากจริง ๆ
เซียวเฉวียนหูไวตาไว เขารู้อยู่นานแล้วว่าฉินหลังแอบอยู่ในพุ่มไม้ และรู้ว่าฉินหลังกำลังจะพุ่งเข้าหาเขาด้วยความดุร้ายและเดือดดาล
ในขณะที่ฉินหลังห่างจากเซียวเฉวียนเพียงแค่ก้าวเดียว เขาชูท่อนไม้สูงขึ้น เตรียมจะฟาดลงบนศีรษะของเซียวเฉวียน ทันใดนั้นเซียวเฉวียนก็ดึงตัวฮ่องเต้มาขวางไว้ข้างหน้า
ขณะนั้นเองฉินหลังจึงเห็นชัดว่าผู้ที่มากับเซียวเฉวียนก็คือฮ่องเต้! แต่ก็สายไปเสียแล้ว ฉินหลังยั้งมือไว้ไม่ทัน ท่อนไม้เคาะลงบนศีรษะของฮ่องเต้
เซียวเฉวียนไม่ดูเสียยังดีกว่า เมื่อมองดูเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้ว!
ตอนนี้ฉินหลังไม่ต่างจากคนบ้านป่าเมืองเถื่อนเลย ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดวิ่นเป็นริ้ว ๆ และมีรอยแผลเต็มตัวไปหมด
ความสามารถในการเอาชีวิตรอดเช่นนี้ของฉินหลัง ช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่ยังรอดชีวิตมาได้!
เป็นปัญญาชนเหมือนกัน ปัญญาชนท่ามกลางสิบแปดอรหันต์ ระยะเวลาที่ถูกเนรเทศบนเกาะจูเสิน ยังยาวนานกว่าฉินหลังเสียอีก แต่ไม่มีผู้ใดมีสภาพแย่เท่าฉินหลังถึงเพียงนี้เลย
ฉินหลังก็ไม่ได้สนใจการเย้ยหยันของเซียวเฉวียน การเอาตัวรอดบนเกาะจูเสินได้ถือว่าดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องห่วงภาพลักษณ์กระไรเลย
“ฝ่าบาท... ราชครู...” ฉินหลังมองไปยังฮ่องเต้อย่างนึกกลัว และเอ่ยถามเซียวเฉวียนเสียงอ่อน เขาอยากรู้จากปากของเซียวเฉวียนว่าอาการบาดเจ็บของฮ่องเต้สาหัสหรือไม่ “ราชครู ฝ่าบาท ปะ เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”
ฉินหลังพบเจอกับสัตว์ป่าหลายหลายชนิดบนเกาะในทุก ๆ วันและหวาดกลัวกับทุกสิ่ง ท่าทีที่แสดงออกมาอ่อนแอเสียยิ่งกว่าตอนอยู่ในเมืองหลวงมากโข ถึงขนาดที่พูดจาไม่คล่องแคล่วฉะฉาน ไร้ซึ่งความสูงสักดิ์ไปเสียหมด
“หลบไปทางนั้นเลย ถูกเจ้าฟาดจะยังดีอยู่งั้นรึ?” เซียวเฉวียนท่าทีไม่ดีนัก และไม่ได้สงสารฉินหลังแม้เพียงนิด
คนที่น่าเวทนา อาจเป็นคนที่กำลังชดใช้กรรมของตัวเองก็เป็นได้!
หากมีใจเวทนาต่อคนเช่นนี้ และจักได้รับความนับถือจากผู้คนได้อย่างไร? จักนำความบริสุทธิ์มาสู่โลกได้อย่างไร!
เซียวเฉวียนเก็บความรู้สึกสงสารนั้นไว้ และนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังฮ่องเต้ เซียวเฉวียนกระตุ้นกำลังภายในเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของฮ่องเต้
ฉินหลังมองเซียวเฉวียนอย่างกระตือรือร้น หลังจากนั้นไม่นาน เซียวเฉวียนก็ค่อย ๆ เก็บกำลังภายในกลับมา พร้อมกับกระโดดลงจากก้อนหิน บาดแผลของฝ่าบาทไม่สาหัสนัก เมื่อกำลังภายในกระจายเข้าไป รอยฟกช้ำก็จะหายไปทั้งหมด
“ฝ่าบาท ดูนั่น ผนึกจูเสินพะยะค่ะ!”
เซียวเฉวียนชี้ ผนึกจูเสินรู้ว่ามีคนนอกเข้ามา จึงเริ่มปรากฏชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...