รถม้าส่งเซียวเฉวียนมาถึงหอจืออี้ จากที่ห่างไกล เซียวเฉวียนก็มองเห็นเว่ยชิงมารับเขา
หลังจากเซียวเฉวียนส่งกระดาษเปล่า มีข่าวลือในหมู่ผู้คนว่าลูกเขยของตระกูลฉินนั้นไร้ความสามารถ ดังนั้นเว่ยชิงจึงรู้ได้ทันทีว่าตัวตนของเขานั้นคือลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ท้ายที่สุดแล้วเป็นถึงคนที่มีความรู้ เว่ยชิงเดาว่าเซียวเฉวียนก็เป็นคนที่เอาหน้าเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีการพูดถึงเรื่องลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านแม้แต่คำเดียว เชิญเขาเข้าไปดื่มชาโดยตรง
หอจืออี้เป็นสถานที่ชุมนุมของเหล่าผู้มีความรู้ในเมืองหลวง จะมีการแข่งขันโต้วาทีเป็นครั้งคราว เวลาที่เหลือไม่มีอะไรมากไปกว่าการดื่มชา และแต่งบทกวีแข่งขันกัน คอยติดตามคนที่มีฐานะสูงส่ง
สถานที่แบบนี้ ล้วนแล้วเป็นที่สำหรับผู้อวดรู้ของเหล่าผู้มีความรู้ เซียวเฉวียนไม่ชอบผู้ที่วางมาดเคร่งขรึมพูดจาเลอะเทอะเหล่านี้เป็นอย่างมาก
แต่เว่ยชิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่ามีคุณหนูมากมายจากตระกูลขุนนางจะมาที่นี่เช่นกัน มาจากต่างแดน และยังมีหญิงสาวต่างชาติ ผู้คนที่มาเมืองหลวง ถ้ายังไม่เคยมาหอจืออี้ก็อย่าพูดว่าเคยมาเมืองหลวง
เมื่อได้ยินเว่ยชิงพูดเช่นนี้ จากนั้นเซียวเฉวียนค่อยมองดูดินแดนสาวงามแสนวิเศษด้วยความสนใจอย่างมาก
หอจืออี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับเหล่าผู้มีความรู้
มีหญิงสาวไม่น้อยมาที่นี่ เพียงเพื่อต้องการมาดูท่วงท่าอันสง่างามของชายผู้มีปัญญา เพียงแค่คุณหนูจากตระกูลขุนนางสนใจชายผู้มีปัญญาคนไหน ก็จะมีคนไปสู่ขอชายผู้มีปัญญาที่จวน ที่นี่สร้างเรื่องราวดีๆมากมายเกี่ยวกับชายผู้มีปัญญาและสาวงามไม่น้อย
และเหล่าชายผู้มีปัญญาไม่น้อยล้วนแล้วหวังว่าจะได้พบคนเส้นทางเดียวกันที่นี่ พูดคุยและดื่ม แต่งบทกวีแข่งขันกัน ก็เป็นเรื่องที่มีความสุขเช่นกัน
เซียวเฉวียนลงจากรถ ก็ถูกดึงดูดแล้ว ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมานั้นไม่เข้าตาเขาเลย แต่เป็นสวนสาธารณะศิลปะโบราณที่สามารถเห็นได้ในหนังสือประวัติศาสตร์ต่างหาก ที่ทำให้เขาตกใจ
ทั่วทั้งสวน มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์สีเขียว ผืนน้ำสีเขียวขจี
มองไปรอบ ๆ ยอดเขาและสันเขาถูกเรียงตัวกันราวกับธรรมชาติ
เดินอยู่บนถนน ทั้งมีชั้นเชิงและน่าสนใจ และมีทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล
ช่างมีความละเอียดอ่อนเสียจริง ทางเขาคดเคี้ยวเลี้ยวลด
คนอ่านหนังสือสถานที่แห่งนี้ ต้องเพลิดเพลินอย่างมากแน่นอน
“พี่น้องเซียวเฉวียน นี่ก็คือสถานที่เสพสุขของเหล่าผู้มีความรู้ในเมืองหลวง เป็นอย่างไร”
“ไม่ผิด มาถูกแล้ว” เซียวเฉวียนมองซ้ายมองขวา ถ้าหากสวนสาธารณะแห่งนี้ถูกย้ายไปในศตวรรษที่ 21จะต้องกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน เก็บค่าตั๋วเข้าชมล้วนแล้วสามารถเก็บจนมือไม้อ่อน
ทั้งสองดื่มชาอยู่ในศาลาแห่งหนึ่ง สวนสาธารณะมีคนเยอะมาก กลับไม่มีใครเดินไปที่ศาลา
“พี่น้องเซียว ตอนนี้จักรพรรดิถูกเว่ยเจียนกั๋วแย่งชิง เว่ยเจียนกั๋วมีรากฐานที่แข็งแกร่งและทรงพลัง จักรพรรดิควรทำอย่างไรถึงจะสามารถช่วงชิงอำนาจที่เป็นของตัวเองกลับมา.....”
เซียวเฉวียนระมัดระวังอย่างมาก ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปทันที หยุดเขา
ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ไหนก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถพูดคุยเรื่องการเมืองได้ เขาและเว่ยชิงพบกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ค่อยคุ้นเคยกัน แน่นอนไม่สามารถพูดอะไรไปเรื่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...