ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 852

กระดาษเหล่านี้เป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนเตรียมการมาอย่างดีแต่แรก สิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษนั้นคือคำตอบของคำถาม

เดิมทีเซียวเฉวียนไม่ยินดีจะอธิบายให้บัณฑิตหัวคร่ำครึกลุ่มนี้ฟัง ทว่ายามนี้ต่อให้มีจ้าวหลานมาช่วยเซียวเฉวียนกู้วิฤต ทว่านักเรียนกลุ่มนี้ก็ยังคงมีคนที่พูดจาไร้สาระ แถมยังกัดเซียวเฉวียนไม่ปล่อยด้วย

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เซียวเฉวียนย่อมจะต้องทำให้พวกเขาสมประสงค์ ไม่อาจทำให้พวกเขาผิดหวัง!

เหล่านักเรียนพากันมาออมุงดูเป็นก้อน พวกเขามองกระดาษไม่กี่แผ่นที่เซียวเฉวียนเหวี่ยงลงมาด้วยสีหน้าตระหนกถอดสี!

นี่....

คำตอบก็เหมือนกับที่จ้าวหลานเขียนไม่ผิดเพี้ยน!

เมื่อเห็นลายมือนั้น ย่อมเป็นเซียวเฉวียนแน่นอน!

อีกทั้ง ดูจากลายมือแล้วหมึกเพิ่งจะแห้ง เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะเขียนเสร็จ เป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนเพิ่งจะเขียนเมื่อครู่ ไม่อาจจะแสร้งทำหลอกขึ้นมาได้!

ในเวลานี้ เหล่านักเรียนในที่สุดก็ต้องยอมสยบให้เซียวเฉวียน!

มีคนลังเลเล็กน้อย เขาเริ่มเป็นฝ่ายนำขอโทษเซียวเฉวียนก่อนอย่างจริงใจ “อาจารย์เซียว ข้าขอโทษ ข้ามองท่านผิดไป”

“ขออภัยด้วยขอรับ!”

เสียงขอโทษขอโพยดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน เซียวเฉวียนพยักหน้าอย่างพอใจ

มีนักเรียนแซ่หวังเพียงคนเดียวที่มองเซียวเฉวียนด้วยอารมณ์โมโหไม่สงบยิ่ง ทว่าเขาไม่อยากเป็นศัตรูกับคนทั้งกลุ่ม แถมยังไม่มีเรี่ยวแรงจะก่อหวอด แม้จะไม่พอใจเซียวเฉวียน แต่ก็ทำได้แค่เดินจากจวนเซียวตามพวกนักเรียนคนอื่นไปอย่างไม่ยินยอมยิ่งเท่านั้น

นักเรียนแซ่หวังสาบานอย่างทรงคุณธรรมว่า นับแต่นี้ต่อไปเขาจะไม่สอบราชการและแสวงหาเกียรติยศในอาชีพนี้อีก!

เมื่อเป็นเช่นนี้ สำหรับเว่ยเชียนชิวแล้ว นักเรียนหวังก็เหมือนขาดประโยชน์ใช้สอยไป

พอเป็นเช่นนี้ก็จากไปเสียแล้ว เขาย่อมถูกละทิ้ง!

ส่วนนักเรียนแซ่หวังก็ถือว่าล่วงรู้ความลับของพรรคพวกเว่ยเชียนชิวไม่มากก็น้อย เว่ยเชียนชิวไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน

เช่นนั้นไม่สู้ คิดหาวิธีอะไรสักอย่าง จัดการกับเซียวเฉวียนแล้วค่อยกลับไปขอรางวัลความชอบ

ขอเพียงกอดแข้งขาเว่ยเชียนชิวเอาไว้ได้ ก็จะมีทรัพย์สินให้ใช้สอยมากมายนับเป็นเรื่องน่ายินดี อาชีพการงานนับเป็นสิ่งใดได้!

และโดยช้าๆ ก็ไม่เห็นเงาร่างของนักเรียนคนอื่นๆ อีก ต่างคนต่างแยกกันกลับบ้าน ส่วนนักเรียนแซ่หวังกลับแอบดอดกลับจวนเซียวคนเดียว

เขากำลังตรึกตรอง ขอเพียงเขาหาข้ออ้างเข้าจวนเซียวได้ก็จะสามารถฉวยโอกาสทำความเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของเซียวเฉวียนได้

เซียวเฉวียนนั้นเป็นคนที่เว่ยเชียนชิวเอาแต่คิดอยากสังหารตลอดเวลา ขอเพียงสังหารเซียวเฉวียนได้ นักเรียนแซ่หวังก็จะกลายเป็นคนโปรดข้างกายเว่ยเชียนชิว มีตำแหน่งสูงส่ง!

พอถึงเวลานั้น นักเรียนแซ่หวังก็นับว่าได้กลายเป็นคนที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ในเมืองหลวง

คิดๆ แล้วเขาก็รู้สึกสบายใจนัก ดังนั้นแล้ว นักเรียนแซ่หวังก็ไปเคาะประตูใหญ่จวนเซียวด้วยหัวใจเบิกบาน เขาคิดหาเหตุผลเอาไว้ดีแล้ว

เซียวเฉวียนเป็นประมุขแห่งสำนักศึกษาชิงหยวน เขาคืออาจารย์ของนักเรียนทั้งหมดในเมืองหลวง เมื่อนักเรียนประสบปัญหายากๆ ก็สามารถเคาะประตูขอให้อาจารย์สอนได้ อาจารย์ก็ไม่อาจจะปิดประตูปฏิเสธ

ดังนั้นแล้ว นักเรียนจึงพยายามเคาะบานประตูอย่างรุนแรงหลายครั้ง พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังว่า “อาจารย์เซียว ข้าแซ่หวังมีปัญหาอยากขอให้ท่านชี้แนะ”

“ปัญหาข้อนี้ข้านักเรียนขบคิดมาเนิ่นนาน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้แนวทางเลย จึงจำเป็นต้องมารบกวนท่านอาจารย์ หวังแต่ว่าท่านอาจารย์จะไม่รังเกียจที่ข้ามารบกวน ช่วยเปิดประตูสั่งสอนด้วยขอรับ”

น้ำเสียงทั้งหมดที่เอ่ยนั้น จริงใจอย่างมาก

น้ำเสียงที่ดังนี้ยังดึงดูดความสนใจจากคนรอบด้านมา เหล่าประชาชนต่างมาช่วยกันเคาะประตูด้วยความมีน้ำใจเพราะเห็นแก่ที่นักเรียนหวังมีใจรักการเรียนอยากถามปัญหา

เสียงเคาะประตูที่ดังท่วมชั้นฟ้านั้น สั่นสะเทือนจนจวนเซียวเกิดไม่สั่นไหวขึ้นเล็กน้อย

พระเจ้า!

นักเรียนแซ่หวังไม่ยอมแพ่ เขาถึงกับปลุกระดมให้ฝูงชนมาช่วยเขาเคาะประตู!

บัณฑิตที่ใจแคบเช่นนี้ เซียวเฉวียนย่อมต้องหลบเลี่ยง

ทว่าหากเป็นวาจาของประชาชน เซียวเฉวียนยากจะห้าม

ด้วยสถานการณ์คับขัน เซียวเฉวียนจึงทำได้แค่ส่งไป๋ฉี่ไปถ่ายทอดคำพูด “คุณชายหวัง ขออภัย นายท่านของพวกข้าเพิ่งจะออกไปธุระข้างนอก บัดนี้ไม่อยู่ในจวน และจะไม่กลับมาอีกหลายวันด้วยขอรับ”

ไป๋ฉี่ถ่ายทอดคำพูดเสร็จก็ปิดประตูลง

และในเวลานี้เอง อาจื่อก็พากลุ่มคนรีบร้อนพุ่งตัวเข้ามากลุ่มหนึ่ง

ยังไม่ทันเห็นตัวคนก็ขอเพียงได้ยินเสียงก่อนแล้วกัน

เสียงฝีเท้าเหล็กกระทบอันทรงพลังดังขึ้นทั้งใกล้และไกล มุ่งหน้ามายังจวนเซียว

ไป๋ฉี่มองนักเรียนแซ่หวังครั้งหนึ่งพลางส่ายหน้าเอ่ย “ย่อมไม่ใช่ จวิ้นจู่มีใจคิดถึงนายท่าน นายท่านย่อมซาบซึ้งอย่างมาก เหตุใดต้องหลอกท่านด้วยขอรับ?”

“แต่ว่านักเรียนท่านนี้ เมื่อครู่ก่อเรื่องทำให้นายท่านลำบากใจยกใหญ่ นายท่านเกือบจะตกหลุมพรางเขาแล้ว หากมิใช่เพราะนายท่านหัวไว จวิ้นจู่ก็คงอาจจะไม่ได้พบนายท่านแล้วขอรับ”

กล่าวจบแล้ว ไป๋ฉี่ก็ยืนเอามือไพล่หลังส่งสายตาดุดันให้กับนักเรียนคนนั้นไปครั้งหนึ่ง หากว่าเจ้าพูดมาก เช่นนั้นก็อย่าได้โทษที่ข้ายืมมืออาจื่อกำจัดเจ้าเลยนะ!

ไป๋ฉี่เป้นผู้อารักขา อาจื่อเข้าใจผู้อารักขาดีเป็นอย่างยิ่ง มีหนึ่งพูดหนึ่ง ไม่มีทางเอ่ยเป้นสอง

ดังนั้นแล้ว อาจื่อจึงเชื่อวาจาของไป๋ฉี่สนิทใจ สายตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธ นางไม่มอบโอกาสในการแก้ตัวอะไรให้นักเรียนแซ่หวังทั้งนั้น นางขยับกระบี่ในมือตัวเองชักออกมาด้วยท่าทางปราดเปรียว ตวัดไปทางนักเรียนแซ่หวัง เสียงฉึบดังขึ้นครั้งหนึ่ง นักเรียนแซ่หวังก็ล้มลงไม่ขยับอีก

นักเรียนผู้นั้นมองไป๋ฉี่ ตายโดยที่ไม่อาจหลับตา

อาจื่อเองก็ส่งเสียงเพ้ยดุดันครั้งหนึ่ง ผู้ชายของนางใช่สิ่งที่ผู้อื่นคิดลงมือก็ลงมือได้กระนั้นหรือ?

พวกไม่รู้จักชั่วดี!

หลังจากจัดการนักเรียนแซ่หวังแล้ว อาจื่อก็เอ่ยกับไป๋ฉี่ว่า เซียวเฉวียนจะกลับมาเมื่อไหร่ เรียกเซียวเฉวียนไปหานางที่จวนฉินด้วย

ดังนั้นแล้ว อาจื่อก็เลยพากลุ่มคนออกจากจวนเซียวไปอย่างเอิกเกริด

...

...

ศาลาคุนหวู่

การที่เซียวเฉวียนมาเยี่ยมเยือนกะทันหัน ทำเอาอี้กุยกับฉินซูโหรวตกใจยิ่ง

อี้กุยดีใจจนคล้ายเป็นเด็กๆ “ท่านปู่น้อย เหตุใดท่านมาได้กัน?”

ยังไม่ทันรอให้เซียวเฉวียนเอ่ยวาจาใด อี้กุยก็เอ่ยอย่างรู้ความ “ท่านปู่น้อยมิใช่ว่ามาดูหญ้าอสุราหรอกหรือ? ท่านปู่น้อยวางใจ หญ้านี้ข้าดูแลไว้เป็นอย่างดี!”

“หากไม่เชื่อ ท่านลองดูได้”

กล่าวจบแล้ว อี้กุยก็ชี้ไปยังทิศของหน้าต่าง เซียวเฉวียนมองตามไปครั้งหนึ่ง ที่แท้แล้วพวกเขาดูแลได้ดียิ่ง ดอกไม้นี้กำลังออกดอกตูมแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย