การปรากฏของคนสองคนโดยที่ไม่หน้าคุ้นตา ทำให้นักเรียนหลายคนอดไม่ได้ที่จะมองไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แม้ว่าใบหน้าของนายน้อยจะดูกล้าหาญ แต่ผิวของเขาก็บอบบางและขาวซีด นอกจากนี้ร่างกายของเขายังดูเหมือนซูบผอมและอ่อนแอ ยิ่งมองมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่ต่างอะไรกับผู้หญิง
เห็นว่านักเรียนพากันขนลุกประหลาดใจ พวกเขามองนักเรียนผอมบางด้วยความดูถูกอย่างยิ่งและพูดในใจว่า เขาช่างผอมเหมือนไม้ขีด ผู้ชายที่มีเกียรติรูปร่างจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
เมื่อพวกเขาคิดไปคิดไป นักเรียนทุกคนก็กลับมาหันมองอีกและความคิดกลับตาลปัตรไปชื่นชมแทน นักเรียนคนนี้ถ้าเขาเป็นผู้หญิงคงจะสวยและมีเสน่ห์มาก
พระเจ้าผู้สร้างคงเล่นตลก เขาจึงเกิดมาเป็นผู้ชาย!
น่าเสียดาย!
น่าเสียดายจริงๆ!
ณ ขณะนี้เอง นักเรียนคนนี้พูดขึ้นมาด้วยความสุภาพ : “ทุกท่านข้าคือฉินซูมาจากเมืองเล็กๆทางใต้ของต้าเว่ย ผู้อารักษ์ขาข้าคืออาเว่ย"
“ข้าได้เข้าทดสอบระดับชนบทของเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากความเมตตาของฮ่องเต้ เขาโชคดีที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแต่เนื่องจากสุขภาพของเขา เขาจึงไม่สามารถไปสอบที่เมืองหลวงได้”
“ปีนี้ข้าร่างกายแข็งแรง ไม่กล้าเลยที่จะพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไป ข้าจึงรีบเข้ามาที่เมืองหลวงเพื่อมาสอบทันที ช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ข้าจะพลาดได้เยี่ยงไร”
เสียงของฉินซูเป็นอะไรที่น่าฟังมาก นักเรียนทุกคนจึงละเลยรายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอกทันที
นักเรียนทุกคนเข้าใจทันที ไม่แปลกที่ร่างกายของฉินซูมีลักษณะแบบนี้เพราะว่าเขามีปัญหาทางสุขภาพนี่เอง
นักเรียนทุกคนล้วนเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่มีใครทราบถึงความยากลำบากในการเรียนรู้มากเท่าพวกเขาอีกแล้ว
การขยันหมั่นเพียรศึกษาอย่างหนัก เพื่อวันนึงจะได้เป็นที่หนึ่งอย่างที่ใจปรารถนาไว้
แต่ชีวิตของฉินซูนี่มีเส้นทางที่ลำบากมาก มีโรคภัยไข้เจ็บมาปิดกั้นโอกาส และต้องสูญเสียเวลาไปถึงสองปีโดยที่ไม่ได้ทำให้สำเร็จตามหวัง
นักเรียนทุกคนต่างพากันเห็นใจเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฉินซู พวกเขายังให้กำลังใจด้วย : “ในความโชคร้าย ก็ยังไม่ความโชคดีอยู่ วันนี้เจ้าก็ได้รับโอกาสในการสอบครั้งนี้แล้ว”
แต่ไม่เลย จริงๆแล้วฉินซูก็เกือบพลาดโอกาสในการสอบของปีนี้
ไม่รู้ว่าเลยว่าที่ผ่านมาฉินซูพลาดอะไรมาบ้าง ดังนั้นก่อนจะถึงวันสอบหนึ่งวัน เขาจึงรีบมาที่เมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการสอบใหม่ให้ทันครั้งนี้
ถ้าฉินซูมาช้าไปแค่ก้าวเดียว ทุกอย่างที่ต้องใจก็คงจะไร้ประโยชน์
ในเวลานั้น ถ้าไม่ใช่เซียวเฉวียนที่ตั้งคำถามให้ยุ่งยากในคร่านั้น เพื่อให้นักเรียนทุกคนสอบตกคะแนนเป็นศูนย์ ฉินซูก็คงมาไม่ถึงเมืองหลวงตามที่หวัง
ฉินซูฟังสิ่งที่นักเรียนพูดและแอบยิ้มในใจ
ฉินซูจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
เรื่องใหญ่และเรื่องเล็กในเมืองหลวงที่เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน ฉินซูรู้เป็นอย่างดี
เพราะเมื่อฉินซูอาศัยอยู่ในศาลาคุนหวู่ อี้กุยชื่นชอบเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก มักจะมาเล่นหมากรุกและพูดคุยสาระทุกข์สุขดิบกับฉินซูทุกวัน ในขณะที่มาก็มีผู้คนมาคอยรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองหลวง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียนอย่างละเอียด
นั่นเลยเป็นเรื่องยากสําหรับฉินซูที่จะไม่รู้
ใช่ คิดไม่ผิด!
ฉินซูเป็นนามแฝงของฉินซูโหรวและอาเว่ยก็เป็นนามแฝงของเว่ยอู่จี้ที่ปลอมตัวมา
นางมาในครั้งนี้ในนามของฉินซูพร้อมกับอาเว่ย เพื่อเข้าร่วมการสอบ วัตถุประสงค์เหมือนกับของเซียวเฉวียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนหลีกเลี่ยงการถูกฆ่าโดยเว่ยเชียนชิว
ในขณะที่มีการทดสอบ เมื่อฉินซูได้ใช้ความสามารถของนางในการทดสอบอันน่าทึ่งนี้ เพื่อเอาชนะนักเรียนทุกคน ฉินซูจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ และเป็นดาวเด่นที่สุดในเมืองหลวง และเว่ยเชียนชิวจะจับตามาที่นางอย่างแน่นอน
ดังนั้นชีวิตของนักเรียนเหล่านั้นจึงสามารถรอดพ้นได้และได้รับโอกาสที่ควรได้
สำหรับเรื่องนี้เซียวเฉวียนเตรียมตัวล่วงหน้ามานานแล้ว
เซียวเฉวียนและฮ่องเต้จัดการทดสอบเหมือนเพื่อให้โอกาสแก่นักเรียน แต่ในทางกลับกันนั้นเซียวเฉวียนยังคงมีจุดประสงค์แฝงคือการรักษาชีวิตของนักเรียน
"ถ้าเป็นท่านราชครู ท่านจะสามารถนั่งเฉยๆได้รึเปล่า?"
ฉินซูโหรวมองไปที่เซียวเฉวียนอย่างเข้มขรึม
เซียวเฉวียนคิดเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด เพราะที่ฉินซูโหรวกล่าวมาก็สมเหตุสมผล
ภายใต้คําขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าของฉินซูโหรว เซียวเฉวียนจึงไม่สามารถต้านทานนางได้ ดังนั้นเขาจึงขอให้นางปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไปประชันกลอน
เซียวเฉวียนเป็นผู้วางแผนของเรื่องนี้ และฮ่องเต้เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
เรื่องการปลอมตัวเป็นคนอื่นของนาง ได้รับเกียรติจากฮ่องเต้เป็นผู้จัดการให้
ฮ่องเต้เป็นผู้ปกครองประเทศ การปลอมตัวเป็นอีกบุคคลหนึ่งเช่นนี้จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำ
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุที่ฉินซูไปที่สำนักมนตรีพิธีการในตอนนี้
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว มีแต่เพียงรอลมฝั่งตะวันออก!
ตราบใดที่ฉินซูชนะนั้น เว่ยเชียนชิวก็จะทำให้ฉินซูพ่ายแพ้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลานั้นฉินซูจะหยิบสิ่งที่วิเศษที่สุดมาเล่นกับเว่ยเชียนชิว ด้วยวิธีนี้เว่ยเชียนชิวก็จะตกอยู่ในความโกลาหลและตื่นตระหนก!
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเว่ยเชียนชิวก็จะส่งชาวยุทธุ์แท้จํานวนมากของเขามา
ดังนั้นเซียวเฉวียนก็จะสามารถไปตามสืบสวนหาเบาะแสได้อย่างง่ายดาย!
ในครั้งนี้เซียวเฉวียนจะไม่ทิ้งแผนที่ตัวเองวางไว้แน่นอน!
แม้แต่บทกวีที่ใช้ในการต่อสู้ประชันกลอน เซียวเฉวียนได้เขียนขึ้นให้กับฉินซูโหรวเรียบร้อยแล้ว
การโกหกครั้งนี้ที่เซียวเฉวียนและฮ่องเต้ทำขึ้นนับได้ว่ากล้าหาญมากและไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...