ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 870

เรื่องคาถาสะกดจิต เว่ยเป้ยที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่อาจทราบ แต่เซียวเฉวียนดันล่วงรู้เสียแล้วว่าเว่ยเป้ยคือคนของฮวาเซี่ย จนถึงเรื่องที่นำพาชาวยุทธ์แท้ประชันกลอน เว่ยเป้ยยังคงเข้าใจอะไรสักอย่าง

เมื่อพระอาทิตย์วนขึ้นกลับมาใหม่ เว่ยเป้ยเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เสแสร้งเริ่มต้นวันใหม่ๆ ระมัดระวังตนเป็นอย่างมากกับฐานะท่านอ๋องรอง ใช้ชีวิตอู้ฟู่แบบมีฐานะไปวันๆ

ด้วยความที่เว่ยเป้ยเป็นคนใสซื่อ แถมยังไม่ได้เก็บเรื่องเว่ยเชียนชิวไปคิดให้หนักหัว ความคิดที่เซียวเฉวียนวางแผนไว้ว่าจะเปิดโปงเว่ยเป้ยต้องชะงักชั่วคราว แต่สายตายังคงจับจ้องการกระทำของเว่ยเป้ยทุกย่างก้าว

ดังนั้น การมีอยู่ของเว่ยเป้ยนับจนถึงบัดนี้มีเพียงแค่เซียวเฉวียนและท่านฮ่องเต้ที่รับรู้!

ท่านฮ่องเต้เมื่อได้รับฟังก็ตะลึงงัน

กฎที่ว่าสามารถลองประชันกลอนได้ จนถึงตอนที่ใกล้จะเริ่มก็มีเซียวเฉวียนเป็นคนประกาศ

นั่นก็หมายความว่า ในขณะที่เว่ยเชียนชิวกำลังงงงันกับกฎของการประชันกลอน เขาก็ได้ปล่อยให้ลูกชายนำตัวชาวยุทธ์แท้ที่ปลอมแปลงเป็นผู้อารักขาเข้ามาในที่นี้อย่างนั้นหรือ?

เว่ยเชียนชิวลอบมองสีหน้าจวนเจียนกั๋วมาตลอด ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ล้วนทำอย่างลับๆ ระมัดระวังโดยไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย

ถึงแม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นฝีมือของเว่ยเชียนชิว แต่เขาดันทำได้แนบเนียนไร้ร่องรอย ไม่ทิ้งเบาะแสไว้แม้แต่น้อย แนบเนียนเสียจนคนตามหาร่องรอยการกระทำของเขาไม่เจอ จนหมดหนทางที่จะกำหราบเขา

แต่การจลาจลทดลองประชันกลอนที่ถูกทุกสายตาจับจ้องอยู่นั้น เพียงโดนจับได้ว่าคนที่เว่ยเชียนชิวนำมาลงสนามประชันคือเหล่าชาวยุทธ์แท้ ก็อาจะทำให้จวนเจียนกั๋วอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจากเมืองหลวงเรียกเว่ยเชียนชิวว่าฆาตกร หนำซ้ำยังบอกว่าเขาขาดสามัญสำนึกอีกด้วย

เพียงแต่ที่เว่ยเชียนชิวต้องทำแบบนั้นก็เพราะอนาคตของเว่ยเป้ย เพื่อเบิกทางให้เว่ยเป้ย เขาต้องประชันหน้ากับคนของจวนเจียนกั๋วที่ได้รับบาดเจ็บนามว่าต้าเหว่ย แถมยังต้องจัดสรรนำชาวยุทธ์แท้เข้าร่วมการทดลองประชันกลอนให้เว่ยเป้ยอีกด้วย

ดูๆแล้ว เว่ยเชียนชิวโอ๋เว่ยเป้ยมากกว่าที่คิด เว่ยเป้ยก็คือกระดูกอ่อนของเว่ยเชียนชิวนี่เอง!

แต่เดี๋ยวก่อน….

ชาวยุทธ์แท้ที่เว่ยเชียนชิวจัดสรรให้เว่ยเป้ย คือหนึ่งในมือฉมังของชาวยุทธ์แท้เป็นแน่แท้

แต่เว่ยอู๋จี้ไม่เกี่ยงชาวยุทธ์แท้ แถมไม่เกี่ยงว่าใครจะชนะหรือแพ้กันหรือ?

ไม่ใช่ว่าหลังผนึกจูเสินถูกทำลายไปแล้ว ความแข็งแรงของผู้อารักขาก็ได้ถูกปลดปล่อยหรอกหรือ อีกอย่าง ทักษะการประชันกลอนอันโดดเด่นของนายท่าน ไหนจะทักษะการออกรบขององครักษ์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาวยุทธ์แท้สักเท่าไหร่นี่?

“ดี! ดีมาก!”

เมื่อท่านฮ่องเต้นึกคิดถึงจุดนี้ ดวงตาพลันเปร่งประกาย ตื่นเต้นดีใจจนทุบโต๊ะไปที

เซียวเฉวียนหัวเราะหึ “ท่านฝ่าบาท ก่อนจะเดินทางมุ่งสู่ซินเจียงครั้งนี้ ข้ามีความคิดว่าก่อนจะมีการทดสอบระดับพระราชวัง ในบรรดาบัณฑิตรุ่นนี้ ข้าจะเลือกมาสักสิบกว่าคนเดินทางไปพร้อมข้า”

“ยกเว้นฉินซูโหรว”

แม่นางฉินซูโหรวก็เป็นแม่หญิงนางหนึ่ง ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลซ้ำยังยากลำบากกับเหล่าชายฉกรรจ์นับสิบชีวิตหรอก

นอกจากนี้แล้วนั้น ฉินซูโหรวก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ให้แม่นางอยู่เมืองหลวงรับก้านมะกอกที่เว่ยเชียนชิวโยนมาให้ ให้แม่นางไปมาหาสู่กับเว่ยเชียนชิวเถิด

ท่านฮ่องเต้ลังเลสักครู่ก็เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย “เว่ยเป้ยก็ไปด้วยหรือ?”

เว่ยเป้ยถึงแม้จะเป็นลูกรักที่เว่ยเชียนชิวเอ็นดูเป็นอย่างมาก แต่เว่ยเชียนชิวกับเซียวเฉวียนก็มีความคับแค้นต่อกันมานานแสนนาน

อย่าพึ่งพูดถึงเซียวเฉวียนนำเว่ยเป้ยเดินทางไปซินเจียงด้วยเลย เพียงเซียวเฉวียนเข้าใกล้เว่ยเป้ยเพียงนิด ก็ทำให้เว่ยเชียนชิวคิดว่าเขาจะฆ่าเว่ยเป้ยให้จงได้

พูดแบบไม่เกินจริง เว่ยเป้ยคือของหวงแหนของเว่ยเชียนชิวดีๆนี่เอง!

เพียงข่าวนี้ถูกแพร่สะพัดออกไป เว่ยเชียนชิวก็เปิดโหมดมารดาหวงแหนลูก ต้องหาทางปลิดชีพเซียวเฉวียนให้จงได้เป็นแน่แท้

ถึงแม้ที่ผ่านมาเว่ยเชียนชิวไม่เคยทำอะไรเซียวเฉวียนได้ แต่เรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเหล่านี้เซียวเฉวียนเลี่ยงได้ก็เลือกที่จะเลี่ยง ใช้ชีวิตแบบมีความสุขไร้กังวลไม่ดีกว่าหรือ?

เรื่องที่ท่านฮ่องเต้ครุ่นคิดเซียวเฉวียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกคิดตามนิดหน่อย

นัยน์ตาเซียวเฉวียนฉายแววเจ้าเล่ห์ พูดอย่างมั่นใจว่า “ท่าน แต่มีอีกเรื่องที่สำคัญอย่างมาก จะขาดเว่ยเป้ยไปได้อย่างไร?”

เว่ยเป้ยถือว่าเป็นคนฮวาเซี่ย ต้องเข้าใจการเก็บมันเทศเป็นแน่แท้

เพิ่มคนที่รู้ลึกเรื่องการค้าเข้ามาช่วย ก็สามารถตามหามันเทศได้อย่างรวดเร็ว

ใครๆก็รู้ว่าหากเว่ยเป้ยมีโอกาสได้ทดลองประชันกลอนก็คว้าอันดับหนึ่งมาไว้ในมือได้ไม่ยาก เบิกทางให้บัณฑิตได้อีกเยอะ บุคคลที่ทรงพลังเช่นนี้หากกิจกรรมสักอย่างก็ไม่เข้าร่วม แต่ก็ไม่ต้องการให้ผู้คนนินทาลับหลังย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!

ถึงตอนนั้นแล้ว ข้อสงสัยที่ผู้คนอยากรู้ก็อาจเปลี่ยนเป็น ทำไมเว่ยเป้ยมีทักษะไม่เพียงพอ? ทำไมไม่กล้าร่วมเดินทางกับกองกำลังไปซินเจียง?

แต่ชาวบ้านชาวช่องมักนึกอะไรออกแบบที่ใครก็คิดไม่ถึง เพียงไม่นานข่าวที่เว่ยเป้ยได้ที่หนึ่ง ต้องเป็นฝีมือของเหล่าบัณฑิตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเว่ยเชียนชิวเป็นแน่ ที่พวกเขาอาศัยช่วงโกลาหลพร้อมกันปล่อยกลอนน้ำช่วยเว่ยเป้ย

ยิ่งประชันกลอนยิ่งสุดจะทน

ถึงบอกว่าคำพูดของคนนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!

ข่าวเล่าข่าวลือนั้นเว่ยเชียนชิวไม่กลัว

แต่เว่ยเชียนชิวรู้ได้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน’เว่ยเป้ย’ของเขาอ่านหนังสือแห่งปราชญ์จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ มีความเคารพตัวเองอย่างแข็งแกร่งในจิตใจ แต่ความอดทนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เว่ยเป้ยไม่เคยทนได้เลย

ในฐานะบิดาที่รักบุตรสุดหัวใจ ย่อมทำการเบิกทางไว้ให้ลูกมีอนาคตที่สดใสกว่าตนอย่างแน่นอน!

เว่ยเชียนชิวโอ๋เว่ยเป้ยเช่นนี้ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ล้วนเตรียมการเพื่อเว่ยเป้ยไว้ทุกอย่างแล้ว

เพื่อให้เว่ยเป้ยเติบโตแบบแข็งแรงและมีความสุข ต่อให้เว่ยเชียนชิวลังเลแค่ไหน ก็ต้องส่งเว่ยเป้ยไปซินเจียงให้จงได้

ตามที่กล่าวไป หากต้องเดินทางไปซินเจียง ให้เว่ยเป้ยยินยอมไปเองจะดีเสียกว่า หากไม่ยินยอมไปก็ต้องจำยอมไปให้ได้!

เมื่อถึงเวลาเว่ยเป้ยอยู่ในความดูแลของเซียวเฉวียน เว่ยเชียนชิวมีความกังวลที่เซียวเฉวียนจะทำร้ายลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนให้ปวดใจ จักทำการส่งคนไปแอบดูแลเว่ยเป้ยอยู่ห่างๆ

หากระหว่างทางไปซินเจียงพบเจอกับภัยอันตรายอันใด ขอแค่เพียงเซียวเฉวียนจับเว่ยเป้ยไว้ได้ทัน คนที่ลอบมองอยู่ต้องฟังคำสั่งของเซียวเฉวียน พลันช่วยพวกเขาพลิกเหตุร้ายให้กลายเป็นดีให้ได้!

ยังมีอีกเรื่อง แม้อยู่ในความมืดมิดเซียวเฉวียนยังสามารถล่วงรู้ถึงความเป็นมาของเว่ยเป้ยจากฮวาเซี่ย เขามองเว่ยเป้ยเป็นทั้งศัตรูและเพื่อนในคนเดียวกัน

ประโยชน์ของการนำเว่ยเป้ยไปซินเจียง เรียกได้ว่าเซียวเฉวียนคิดมาอย่างถี่ถ้วนและเฉลียวฉลาดแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย