เมื่อฟังคำที่เซียวเฉวียนเอ่ยฮ่องเต้ก็มีสีหน้าตกตะลึง ในใจลึกๆคิดว่าคำที่เซียวเฉวียนพูดก็มีเหตุผล แถมอดประหลาดใจไม่ได้ เซียวเฉวียนท่านนี้ฉลาดเฉลียวแบบมีชั้นเชิง เก่งกาจดั่งเทพเจ้า!
เคารพเซียวเฉวียนเป็นท่านราชครูเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดที่เขาทำเลยล่ะ!
นั่นน่ะสิ? ไม่ใช่หรือ?
แม้แต่ผนึกจูเสินเซียวเฉวียนก็จัดการมาแล้ว หากเซียวเฉวียนนับท่านฮ่องเต้เป็นศัตรู เซียวเฉวียนก็เป็นคนที่รับมือได้ยากกว่าเว่ยเชียนชิวเป็นร้อยเท่า!
ยังดีที่เซียวเฉวียนเป็นแค่ราชครู!
ฮ่องเต้รู้สึกมีความสุขอยู่ในใจพลางพูด “หากท่านราชครูวางแผนไว้แล้ว ตัวข้าก็วางใจ”
“ถ้าอย่างนั้นแล้ว ท่านราชครูคิดว่าจัดการทดสอบระดับพระราชวังขึ้นตอนไหนถึงเหมาะสมหรือ?”
คำพูดที่มีความหมายแฝงของฮ่องเต้ คือกำลังลอบถามเซียวเฉวียนว่าเมื่อใดที่จะเลือกนักเรียนสิบคนแรกจากการสอบ ให้พูดแบบเจาะจงก็คือสิบเอ็ดคนแรก ปัดฉินซูโหรวออกไปก็เหลือสิบคนพอดิบพอดี
เซียวเฉวียนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “วันมะรืน”
เวลาไม่เคยคอยท่า ยิ่งลงมือเร็วก็ยิ่งสำเร็จเร็ว
เซียวเฉวียนคิดว่าจะทำการสอบหน้าพระที่นั่งพรุ่งนี้ แต่เกรงว่าจะกะทันหันเกินไป เขาต้องกระตุ้นนักเรียนสักหน่อย
ระหว่างที่รอรายชื่ออกมา เซียวเฉวียนยังคงต้องวางแผนฝึกฝนเรื่องบทกวีให้นักเรียนตามรายชื่ออย่างเข้มข้น ใช้แก่นสารบทกวีของฮวาเซี่ยมาสอน เพื่อเพิ่มพูนระดับความสามารถในด้านบทกวีให้แก่พวกเขา!
ฮ่องเต้ตอบรับอย่างมีความสุข “ดีมาก!”
เรื่องนี้ก็จบที่ตัดสินใจอย่างมีความสุขไปเรียบร้อยแล้ว!
การสอบหน้าพระที่นั่ง คือหลุมพรางครั้งสุดท้ายของการสอบขุนนางระดับเคอจี่ มีท่านฮ่องเต้อยู่ในตำหนักใหญ่ควบคุมการสอบด้วยตัวท่านเอง จัดการเลือกนักเรียนหัวกะทิในการทดสอบระดับมณฑลปรับเป็นตัวจริง
ตามทฤษฎีแล้ว เหล่านักเรียนที่สอบได้ระดับต้นๆในการทดสอบระดับมณฑลก็เท่ากับก้าวเท้าเข้าตำหนักใหญ่ไปแล้วข้างหนึ่ง ไม่มีทางที่จะสอบตกได้อีก
แต่การทดสอบระดับมณฑลในปีนี้แปลกไป
ในการทดสอบระดับมณฑลครั้งแรกผู้เข้าสอบล้วนสอบตกแถมได้คะแนนน้อยทั้งหมด
การประชันบทกลอนครั้งที่สอง ความเหลื่อมล้ำของคะแนนระหว่างผู้ที่สอบได้ที่หนึ่งกับที่สองมีอยู่มาก ขณะที่ผลการทดสอบของสามคนแรกออกมา นักเรียนที่เหลือก็ไม่ได้สอบตก แต่ทุกคนล้วนต้องเข้าไปยังสถานศึกษาชิงหยวนเพื่อสอบซ่อม
ใครจะไปรู้ว่าในการทดสอบหน้าพระที่นั่งจะมีเหตุการณ์แผลงๆแบบนี้เกิดขึ้นได้!
เมื่อข่าวการทดสอบหน้าพระที่นั่งที่จะจัดขึ้นในวันมะรืนได้ถูกปล่อยออก นักเรียนทั้งหมดตกอยู่ในภาวะอยู่ไม่สุข พร้อมใจกันนั่งรถขึ้นเขาเพียงชั่วคราวเดียวก็ทะยานขึ้นไปยังจุดสูงสุดบนเขาเรียบร้อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเชียวนะ ลำบากพากรเพียรเรียนมานาน จะกินข้าวกินน้ำก็ยังนึกถึงการสอบ!
เหล่านักเรียนก้าวเข้าไปยังสถานที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยความตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ความตั้งใจแรกของเซียวเฉวียนคืออยากให้เวลาเหล่านักเรียนผ่อนคลายจิตใจด้วยความหวังดี แต่คาดไม่ถึงว่าความสามารถในการรับความกดดันของเหล่านักเรียนยังสู้เด็กที่ต้องสอบเข้ามหาลัยไม่ได้เลย!
เหล่านักเรียนตื่นเต้นจนถึงขีดสุดถึงขั้นนอนไม่หลับไปเต็มๆสองคืน!
กินข้าวไม่อร่อย นอนก็ไม่หลับ แต่ละคนมีท่าทางเหนื่อยล้าจนแทบดูไม่ได้ สภาพจิตใจเทียบกับตอนประชันกลอนต่างกันราวฟ้ากับเหว!
แทบอดใจรอวันทดสอบหน้าพระที่นั่งไม่ไหว เหล่านักเรียนฮึบสู้ เรียงแถวหน้าตำหนักใหญ่อย่างเป็นระเบียบ รอท่านฮ่องเต้ออกมาจากตำหนักใหญ่ด้วยความเคารพอย่างใจจดใจจ่อ
ในที่สุดก็จะได้แสดงฝีมือแล้ว!
ความตื่นเต้นในใจของเหล่านักเรียนที่มีทำให้ลืมความกังวลตั้งแต่แรกไปจนหมด
ถึงแม้ที่นี่จะเป็นตำหนักใหญ่ที่อยู่ในอาณาบริเวณของฮ่องเต้ที่เคร่งขรึมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เหล่าผู้น้อยจาบจ้วงท่านไม่ได้เด็ดขาด เหล่านักเรียนกังวลว่าจะเผลอล่วงเกิน ล้วนก้มหน้า ไม่กล้าเงยหน้ามองสักคนและนั่งรอการทดสอบอย่างระมัดระวัง
ไม่อาจทราบว่าท่านฮ่องเต้จะออกมาประทับบนพระที่นั่งอันสูงส่งของท่านเมื่อใด เหล่านักเรียนไม่สามารถรับรู้ได้
นักเรียนทุกท่านพลาดมองท่าทางอันสง่าผ่าเผยของฮ่องเต้เมื่อออกมาประทับพระที่นั่งจนได้
เมื่อรอมาเนิ่นนาน เหล่านักเรียนเริ่มอยู่ไม่สุข เมื่อไหร่ฝ่าบาทจะออกมาเสียที?
พวกเขาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แต่บ่นอยู่ในใจ เสมือนทำการสะกดจิตตน ถึงแม้จะยืนอยู่ก็คงยืนแบบโงนเงน ง่วงงันจนประครองตัวไม่ไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...