ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 872

เว่ยเป้ยยกมือลูบใบหน้าของตัวเองโดยไม่ให้ทิ้งร่องรอย กระทั่งแน่ใจว่าหน้าของเขาเริ่มเย็น อีกทั้งปลายนิ้วก็ยั่งสัมผัสได้ถึงเม็ดเหงื่อ...

เขาอดตื่นตระหนกไม่ได้ เหตุใดตัวเองถึงได้เปียกเช่นนี้!

รู้สึกแย่ยิ่งนัก!

“แฮ่ก!”

เว่ยเป้ยปิดปากไอเบา ๆ เสียง แกล้งทำเป็นกังวล พลางพูดตะกุกตะกัก “ไม่...ไม่เป็นไร น่าจะกังเวลเกินไป”

ความจริงแล้วฉินซูโหรวไม่รู้เรื่องที่เว่ยเป้ยโกงการประชันกลอน รู้แค่ว่าเว่ยเป้ยมีศักยภาพเช่นนั้นจริง ๆ

ผู้อารักขาผลักดันด้วยกลอนของเว่ยเป้ย ไม่ต่างกับเว่ยอู๋จี้

เนื่องจากศักยภาพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ส่งผลให้ติดอันดับหนึ่งของการทดสอบ เว่ยเป้ยเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ตอนนี้เขาบอกกับฉินซูโหรวว่าเขากังวล ฉินซูโหรวจึงตีเขาและไม่เชื่อเขา!

แต่เว่ยเป้ยไม่อยากพูด ต่อให้ฉินซูโหรวซักถึงต้นสายปลายเหตุไปก็ไม่มีประโยชน์ไหม?

ใคร ๆ ต่างก็มีความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้กันทั้งนั้นไหม?

ฉินซูโหรวยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดปลอบใจว่า “จริง ๆ แล้วอ๋องรองก็ถ่อมตัวเกินไป ดูอย่างหม่อมฉันสิ ศักยภาพของหม่อมฉันสู้ท่านไม่ได้ ไม่เห็นจะกังวลเลย หม่อมฉันหน้าหนาจะตายไป”

“อ๋องรอง อย่าทรงกังวลไปเลย ท่านกระวนกระวายใจเช่นนี้ แล้วหม่อมฉันและคนอื่นจะดีขึ้นได้อย่างไร?”

เว่ยเป้ยไม่มีกระจิตกระใจจะพูดคุยกับฉินซูโหรว เขาได้แต่พยักหน้าอย่างเหม่อลอยพลางเอ่ยว่า “เอาเถอะ น้องฉินช่างจิตใจดี”

กล่าวจบ เว่ยเป่ยก็จ้องไปยังฮ่องเต้อย่างอาลัยอาวรณ์ พยายามมองหาความปลอดภัยจากตัวของฮ่องเต้ หวังว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตาของเขา ฮ่องเต้กับเซียวเฉวียนไม่ทราบสถานะที่เขาปกปิดไว้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนฮวาเซี่ย

แต่เหมือนว่าฮ่องเต้จะมีความฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อย ๆ ความตื่นเต้นและความมืดมนภายนัยน์ตาของฮ่องเต้ก็ยิ่งทวีคุณมากขึ้น...

ดูท่าในใจของเว่ยเป้ยน่าจะมีพลังมหาศาล

ให้ตายเถอะ!

ดูท่าฮ่องเต้และเซียวเฉวียนจะค้นพบสถานะของตัวเองแล้ว!

เขาคิดว่าตัวเองปลอมตัวได้เก่งมาก แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกเซียวเฉวียนจับพิรุธได้

เขาต้องตกใจความน่ากลัวทางสายตาและความละเอียดของเซียวเฉวียน

แต่เว่ยเป้ยเป็นคนฮวาเซี่ยที่เคยผ่านช่วงมัธยมปลายที่สุดแสนจะลำบากมาแล้ว ได้เข้าสอบมานับครั้งไม่ถ้วน จนฝึกฝนให้เขารู้จักสงบจิตสงบใจ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคอะไรก็สามารถฟันฝ่าผ่านไปได้

ถึงอย่างไรก็ถูกเปิดเผย ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว วิธีการเดียวที่ทำได้คือก้าวต่อไป ถึงอย่างไรต่อให้กังวลไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้

เว่ยเป้ยปลอบใจตัวเอง ความกังวลถูกซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้านี้ มือวางแนบข้างลำตัว เหมือนกับคนอื่น ๆ พร้อมกับปรายตามองฮ่องเต้ตลอดเวลา

“บัดนี้ข้าได้ประกาศถึงปัญหาของการทดสอบระดับพระราชวังแล้ว”

ในตอนนี้เอง เสียงของฮ่องเต้ก็ดังขึ้นทั้งตำหนัก เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็มองไปทางเว่ยเป้ยแวบหนึ่งเหมือนกำลังยิ้มเยาะที่เว่ยเป้ยขี้ขลาด ไม่กล้าใช้ความรู้ที่มี ขี้อาย แตกต่างจากเซียวเฉวียนที่ทั้งป่าเถื่อนและกล้าได้กล้าเสีย!

เว่ยเป้ยละอายใจตลอดเวลา รู้สึกละอายใจที่ตัวเองโกงการประชันบทกลอน

เว่ยเป้ยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นอาจารย์ท่านหนึ่ง มักจะไม่ชอบคนที่โกงข้อสอบและบ่อนทำลายความยุติธรรม

บัดนี้ตัวเองกลับเอาเรื่องโกหกมาเป็นเรื่องจริง ทำเรื่องที่ไร้ยางอายด้วยการเอาผู้บริสุทธิ์มาแทนที่ผู้อารักขา

ในใจของเวยเป้ย แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ผู้เรียนก็ยังเคารพในตัวเอง ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นเรื่องขาดความเชื่อมั่นเอามาก ๆ ...

ยิ่งไปกว่านั้น ความเฉลี่ยวฉลาดของเซียวเฉวียน แม้ว่าจะมองเห็นสถานะของเว่ยเป้ยได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องสังเห็นว่าเว่ยเป้ยนำพามาเป็นชาวยุทธิ์แท้

สายตาของฮ่องเต้คล้ายกับกำลังมองเว่ยเป้ยนั่งอยู่กองไฟ สีหน้าเป็นกังวล

มุมปากของฮ่องเต้เผยรอยยิ้ม ก่อนพูดต่อ “ปัญหาของการสอบหน้าพระที่นั่งคืออะไร หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับเท่าไหร่? ใครเร็วกว่าใคร”

ว่าอย่างไรนะ?

พอทุกคนได้ยินปัญหานี้ก็พากันตะลึงงัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย