ขันทีหม่ากงกงรอเป็นเวลานาน แต่เขาไม่รีบร้อน เขาคุยเรื่องมโนสาเร่กับมารดาของเซียวเป็นเวลานาน
คอยอยู่ในบ้านของเซียวเป็นเวลานาน กลิ่นของสุราก็อบอวลในลานบ้าน ขันทีหม่ากงกงขยับจมูกรับดมได้ถึงกลิ่นหอมฉุนของสุรา
”ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเซียวฮุ่ยหยวนยังชอบกลั่นเหล้าด้วย”
มารดาเซียวพยักหน้าและยิ้ม พูดถึงลูกคนนี้ เขามีลูกเล่นเยอะจริง เดี๋ยวก็กลั่นเหล้า เดี๋ยวก็ปลูกพริก นอกจากการอ่านและเขียนแล้ว เขาชอบทำเรื่องหยุมๆ หยิมๆ แบบนี้ .
”หรือว่า ให้ฉันรินเหล้าสักแก้วให้กงกงลองชิมดูดีไหมคะ”
มารดาของเซียวกำลังจะลุกขึ้น แต่หม่ากงกงโบกมือและยิ้มอย่างใจดี "คุณผู้หญิงไม่ต้องเกรงใจ ข้าพเจ้ากำลังปฏิบัติงานราชการ ดื่มเหล้าไม่ได้ครับ"
”ฉันคิดสะเพร่าเอง ขอกงกงจงให้อภัยด้วยคะ”
ขันทีหม่าโบกมืออย่างไม่ถือสาและยิ้ม เซียวเฉวียนมีอนาคตที่สดใส และมารดาเซียวแน่นอนจะมีเกียรติสูงส่งอย่างยิ่ง เขาจะมาถือสาเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้กับนางทำไม?
”ลูกออกไปฟังการประกาศตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่กลับมาเลย รบกวนให้กงกงมาคอยอยู่ตรงนี้เป็นเวลานาน ช่างมิควรเสียจริง”
”ฮุ่ยหยวนเป็นศิษย์ขององค์จักรพรรดิ ยังเป็นบุคคลที่เปี่ยมด้วยภูมิปัญญา ข้าพเจ้ามีโอกาสได้รอฮุ่ยหยวน ถือเป็นบุญวาสนาของข้าพเจ้าแล้ว”
ขันทีหม่ากงกงยิ้ม ดูเหมือนว่าที่เซียวเฉวียนไปอาละวาดบ่อนการพนัน มารดาของเซียวเฉวียนยังไม่รับรู้ เขาไปที่บ่อนโดยปิดบังมารดา เพื่อไม่ให้มารดาเป็นห่วง ถือเป็นลูกที่มีความกตัญญู
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน เซียวเฉวียนก็กลับมาพอดี
เขาอารมณ์ฮึกเหิมและโค้งคำนับ "หม่ากงกง โปรดยกโทษให้เซียวที่มาช้าด้วยครับ"
เขาไม่ได้ถูกทำร้ายและจิตใจวิบวับ ดูท่าทางเรื่องของบ่อนพนัน เขารวบได้ทั้งชื่อเสียงเงินทอง ขันทีหม่ากงกงยิ้มเบาๆ "ในวันแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่ของฮุ่ยหยวน หามีโทษอยู่ไม่? พระราชโองการมาถึงแล้ว ให้เซียวติ้งจงน้อมรับพระราชโองการ!"
ตอนที่ลงทะเบียนสอบขุนนางตั้งแต่แรก ข้อมูลทะเบียนบ้านที่กรอกคือเซียวติ้ง ดังนั้นพระราชโองการจึงยังคงเป็นชื่อเซียวติ้ง ไม่ใช่เซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนนำฝูงชนคุกเข่าลงและฟังขันทีหม่ากงกงอ่านด้วยเสียงดัง ”ด้วยพรจากพระเจ้า พระราชโองการของจักรพรรดิรับสั่งไว้ว่า! ในปีที่ 41 ของราชวงศ์ต้าเว่ย ลูกหลานที่เปี่ยมด้วยพรสรรค์ เซียวติ้งของเมืองหลวงนี้ สอบได้ในอันดับที่หนึ่ง ในการสอบแข่งขันคณะเอนระดับเมืองหลวงนี้ จงหมั่นศึกษาเพื่อความก้าวหน้ายิ่งขึ้น ไม่ให้ข้าพเจ้าผิดหวัง จึงขอประกาศให้ทั้งโลกาได้รับรู้ ได้เฉลิมฉลองกันทั้งประเทศเทอญ!"
นอกจากแก้ระดับสอบจากระดับชนบทเป็นระดับเมืองหลวง เนื้อหาอื่นๆ ของพระราชโองการมิได้ต่างอะไรกับของครั้งที่แล้ว
เซียวเฉวียนเข้าใจ เปล่งขอให้อายุยืนหมื่นๆ ปีสามครั้ง และรับมอบพระราชโองการมา
ครั้งนี้ จักรพรรดิไม่ได้ทรงประทานสิ่งใดอื่นนอกจากทองคำหนึ่งพันตำลึง
กล่องทองคำถูกขนเข้ามาที่บ้านเซียว ครั้งนี้ไม่มีพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกเหมือนในเที่ยวที่สอบระดับชนบท
หม่ากงกงเห็นเขาสงสัย จึงกระซิบที่หูของเซียวเฉวียนว่า "พระราชประสงค์ของฝ่าบาท ฮุ่ยหยวนคงเข้าใจแล้วว่าต้าเว่ยในขณะนี้ หยินและหยางพลิกขั้ว พู่กันและหมึกของคุณจะต้องเปื้อนเลือดก่อนที่จะขึ้นไปยังราชสำนัก ฝ่าบาทจึงไม่ตรัสสั่งในนี้อีก"
พระราชประสงค์ เหมือนดั่งตอนแรก
เซียวเฉวียนพยักหน้าและตกใจขึ้นมาทันที เขาเดาถูกแล้ว
การสอบระดับชนบท ระดับเมืองหลวงมีอะไร รางวัลต่างหากเป็นการทดสอบของจักรพรรดิ
คนโบราณมีคำพูดที่สละสลวย เป็นเรื่องจริงที่ว่าอยู่กับกษัตริย์ก็เหมือนอยู่กับเสือ หากเซียวเฉวียนไม่ได้เดาถูกความหมายของจักรพรรดิ ถึงจะสอบได้เป็นจ้วงหยวนจักรพรรดิก็ไม่ให้ความสำคัญ
หลังจากขันทีหม่าทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว มารดาเซียวในฐานะเจ้าบ้าน เที่ยวที่แล้วให้รางวัลขันทีหม่าเป็นทองคำสิบตำลึง ครั้งนี้ให้เป็นห้าสิบตำลึง หนักพอๆ กับห้าชั่ง และทองสองตั้ง
ขันทีหม่าผงะ แม้แต่ตระกูลขุนนางก็ไม่ใจกว้างขนาดนี้ เขาโบกมือ "คุณผู้หญิงให้เกียรติเกินไปแล้ว"
”กงกงทราบว่าตระกูลเซียวตกต่ำ วันนี้เป็นวันแห่งมหามงคลที่หาได้ยากในรอบร้อยปี กงกงมาเที่ยวนี้เหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษ อย่าปฏิเสธเลยนะค่ะ”
มารดาเซียวยิ้มอย่างอ่อนโยน เซียวเฉวียนพยักหน้า "กงกงโปรดรับไว้เถอะครับ ถือเสียว่าบ้านเซียวเลี้ยงน้ำชา เลี้ยวข้าวกงกงก็แล้วกันนะครับ"
ยกเว้นจักรพรรดิและรัฐมนตรีไม่กี่คน ไม่เคยมีลูกหลานกุลชาติคนไหนที่ใจกว้างขนาดนี้ ขันทีหม่าพยักหน้าและพูดต่อไปว่า "เซียวฮุ่ยหยวนใจกว้างอย่างนี้ ข้าพเจ้าก็ขอรับไว้โดยมิอาจปฏิเสธแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...