อะไรกัน ?
ฮ่องเต้ นี่... มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมข้าจำไม่ได้เลยว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?
นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้ว!
เสนาบดีทั้งสองต้องหยุดถวายอารักขาชั่วคราวเพื่อมอบหมายภารกิจและได้ถามว่า : “ฝ่าบาทรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือพะย่ะค่ะ?”
ฮ่องเต้พยักหน้าแล้วตอบว่า : "ไม่มี"
ผู้คนมากมายต่างก็สบตากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร มันช่างแปลกมากเสียจริงๆ
แม้แต่จางจิ่นเองเองก็ยังมองฮ่องเต้ด้วยความสงสัย มีหรือฮ่องเต้จะไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร สมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า ถึงจำไม่ได้ว่าทำไมตนถึงมาอยู่ที่นี่?
แปลกเสียจริง
จางจิ่นกระซิบด้วยเสียงเบาๆ : “ฝ่าบาททรงไตร่ตรองดูอีกครั้งเถิดพะย่ะค่ะ?”
ทุกคนในที่นั้นต่างก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน
ในสายตาของทุกคน ฮ่องเต้มีท่าทีคิดหนัก พยายามนึกถึงความทรงจำ บางครั้งก็ขมวดคิ้ว บางครั้งก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาของฮ่องเต้ก็ส่องประกายขึ้น เหล่าเสนาบดีต่างก็คิดว่าฝ่าบาทต้องนึกอะไรได้แล้ว แต่ฮ่องเต้กลับพูดว่า : “ข้าจำอะไรไม่ได้เลย”
ทุกคนต่างตกตะลึงและมองหน้ากัน
ฮ่องเต้ความจำเสื่อมงั้นหรือ?
ให้ตายสิ !
อย่าล้อกันเล่นได้ไหม?
เสนาบดีทั้งสองร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาออกมา ต่างก็พากันชี้ไปที่ร่างของหยวนเหยาและพูดว่า “ฝ่าบาททรงมองไปที่หยวนเยาสิพะย่ะค่ะ เผื่อจะนึกอะไรออกมาได้บ้าง”
ฮ่องเต้ได้มองไปตามมือทั้งสอง เห็นเพียงแต่หยวนเยาที่นอนแน่นิ่ง ดวงตาสองข้างปิดสนิท เลือดบนอกยังไม่ทันแห้งด้วยซ้ำ ปิ่นกลัดผมยังปักอยู่กลางอกของเขา มือขวาคนสนิทจากไปเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็รู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก
เขาดึงผ้าสองผืนจากรถม้ามาคลุมร่างของหยวนเยาด้วยความโศกเศร้า
คนโบราณว่าไว้ ความตายเป็นหนทางสู่ความสงบ
ฮ่องเต้สั่งทหารสองนายที่อยู่ข้างๆว่า : “ใช้รถม้านี้ส่งผู้ตรวจการหยวนเยากลับไปที่จวนหยวน”
เมื่อทหารสองนายนั้นได้รับคำสั่ง ก็ได้ลงมืออย่างรวดเร็ว นำร่างไร้วิญญาณของหยวนเยาขึ้นรถม้าและขับออกไป
ฮ่องเต้มองรถม้าที่ค่อยๆเลือนหายไป เขาหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ดีว่าเส้นทางของฮ่องเต้ยากมาก อีกทั้งต้าเว่ยเองก็อยู่ในสภาพที่พังยับเยินมานานแล้ว ต้องการให้ต้าเว่ยพัฒนาขึ้น มันก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า!
แต่ฮ่องเต้เป็นประมุขของประเทศๆหนึ่ง หน้าที่ของฮ่องเต้ก็คือ ต้องช่วยประชาชนให้พ้นจากความยากลำบาก ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องเจออุปสรรค์มากมายแค่ไหน ก็ต้องทำให้ได้!
และเส้นทางนี้ ก็มีคนที่เสียสละตนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่น เหวินฮั่น ปีศาจกวี เฉาสิงจือ ฉินปาฟาง.....ยังมีหยวนเยา
และสิ่งที่ฮ่องเต้และเซียวเฉวียนพอจะทำได้ในตอนนี้ ก็คือ ต้องรักษาเสนาบดีทั้งสองนี้ไว้
เสนาบดีทั้งสองเห็นฮ่องเต้เหมือนคิดอะไรอยู่ เพื่อไม่ให้ฮ่องเต้กลัว หนึ่งในนั้นก็ได้ถามขึ้นเบาๆว่า : “ฝ่าบาทกำลังคิดอะไรอยู่ขอรับ?”
ฮ่องเต้เห็นว่า ด้วยกลยุทธ์ที่เซียวเฉวียนมี แม้ว่าจะยังไม่ได้ไปไกลมาก แต่เขาก็สามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม ให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้หาที่อยู่ของพวกเขาไม่พบ
ดังนั้น การแสดงของฮ่องเต้ก็คล้ายกัน เขาก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น : “ข้านึกออกแล้ว”
จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆแล้วถามว่า : “ราชครูล่ะ?”
ต่อหน้าเหล่าเสนาบดีได้มีกาดำบินผ่าน . . . .
ไม่ใช่เพราะฮ่องเต้สลบไป ปล่อยให้เซียวเฉวียนหนีไป!
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้เป็นถึงฮ่องเต้ พวกเขาไม่กล้ารุกราน นอกจากนี้ ฮ่องเต้พึ่งจะฟื้นขึ้น พวกเขาก็กลัวว่าจะไปทำอะไรที่กระทบกระเทือนฮ่องเต้ แล้วถ้าฮ่องเต้เป็นอะไรปอีกจะทำอย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...