เหล่าเสนาบดีไม่อยากไป เซียวเฉวียนมีพลังที่ยอดเยี่ยม ไม่มีฮ่องเต้ค่อยปกป้อง พวกเจ้าก็รู้ดีไปทำเองก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไม่แน่ว่าแม้แต่เงาของเซียวเฉวียนก็ไม่มีทางได้เห็น
ไม่ต้องไปแล้ว เสนาบดีสองคนนั้นไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นขี้ขลาดหวาดกลัว ไม่มีความพยายามตั้งใจที่จะทำ และยังเสียชื่อเสียงเพราะไม่สนใจต่อความเป็นความตายของเพื่อนพ้อง
แต่เซียวเฉวียนมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้านายกับคนใช้ก็เห็นกันอยู่ พวกข้าไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ พวกข้าไม่ต้องการจะทรมานอีกครั้งแล้วจริงๆ......
เหล่าเสนาบดีคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายมีจิตใจตรงกันสายตาต่างมองตรงไปที่จางจิ่น สายตาแสดงออกถึงว่าได้เวลาสำหรับเจ้าแล้ว ที่จะเป็นตัวแทนอัครเสนาบดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะทำให้พวกเราพอใจที่เลือกเจ้า
เจ้าเป็นขุนนางที่ดีก็ควรมีท่าทีลักษณะของขุนนางที่ดี มีจิตใจที่สัมผัสกับประสบการณ์ช่างสังเกต เป็นผู้นำ เป็นโล่ค่อยกำบังของเหล่าขุนนาง......
จางจิ่นต้องการเลื่อนตำแหน่ง ก็ต้องแสดงความจริงใจออกมา
เหล่าเสนาบดีหน้าด้านไร้ยางอาย ทิ้งหัวข้อที่ยากไว้ให้กับจางจิ่ง
แต่ไหนแต่ไรจางจิ่งเรียนรู้การจับสังเกตสีหน้าคน สามารถคาดเดาใจคนได้ เหล่าเสนาบดีเชื่อมั่นว่าจางจิ่นจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง
แต่หารู้ไม่ว่าในบางครั้งสมองของจางจิ่นก็ช้าคิดไม่ออกเช่นกัน จางจิ่นรู้สึกได้ว่ามีสายตาจ้องมองมาที่เขา ในใจเขาก็คิดว่า ทุกคนจับจ้องมาที่เขาอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะมีอะไรสกปรกติดอยู่บนใบหน้าของเขา?
เขาหน้าตามึนงงลูกจับใบหน้าของตัวเอง หลังจากนั้นก็ดูบนฝ่ามือก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีอะไร ใบหน้าสะอาดสะอ้านมาก
เขามีสีหน้าสงสัยมองเหล่าเสนาบดีและพูดว่า :“พวกท่านทำไมจึงมองข้าด้วยสายตาเช่นนี้?”
ในเวลาขับขันเช่นนี้?เหล่าเสนาบดีพูดเตือนสติคาดหวังว่าเขาจะดีขึ้น:“จากที่ใต้เท้าจางเห็น ข้าควรจะตามต่อไปหรือไม่?”
พูดจบก็ยังส่งสายตาเป็นเชิงบอกจางจิ่น แสดงออกให้จางจิ่นรู้ว่าอย่าทำให้พวกเขาผิดหวังเป็นอันขาด
จางจิ่นเข้าใจขึ้นมาทันที:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”
“จางจิ่นก็นึกว่ามีเรื่องอะไร!”
“ตามไป!แน่นอนต้องตามไป!”
“พวกเราไม่สามารถยอมให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะได้ใช่ไหม?”
จางจิ่งดูสถานการณ์แล้วไม่ค่อยดีนัก ในใจคาดเดาว่า ตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือไม่?หรือว่าไม่ควรทำตามเสนาบดีทั้งสองคนตามเซียวเฉวียนไป?
ตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เหล่าเสนาบดีพวกนี้ไม่ควรมีเรื่องกับพวกเขา ในเมื่อต้องการเป็นอัครเสนาบดี ก็จะต้องพึ่งพาพวกเขาเหล่านี้เพื่อลงคะแนนให้
ดังนั้นจางจิ่งฟังและพูดว่า :“ในความคิดของใต้เท้าทุกท่าน พวกเราควรตามไปหรือไม่?”
ไม่เข้าใจก็ต้องถาม ไม่มีอะไรน่าอาย จางจิ่งสีหน้าดูพึงพอใจ
เมื่อเขาถามออกไป ทำให้เหล่าเสนาบดียิ่งรู้สึกลำบากใจ สีหน้าดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก กรนด่าในใจ ตามที่พวกข้าคิด แน่นอนไม่ตามไป!ไม่รู้จักทำไปตามสถานการณ์เลยจริงๆ!ถ้าพวกข้าต้องการจะตามไป แล้วทำไมจะต้องถามเจ้าอีกละ?
มาถึงตอนนี้จางจิ่นเข้าใจแล้วว่า เหล่าบรรดาเสนาบดีพวกนี้ไม่ต้องการตามไป
งั้นก็เป็นเรื่องง่าย ในตาของจางจิ่นแฝงไปด้วยรอยยิ้มพูดว่า:“ข้าเลอะเลือนไปแล้ว เมื่อครู่พูดผิดไป จากที่ข้าดูแล้ว เพื่อนพ้องทั้งสองคนมีความสามารถยอดเยี่ยม พวกเราจะตามไปก็คงตามไม่ทัน สุดท้ายต้องให้พวกเขามาตามหาพวกเราอีก พวกเรารอค่อยอยู่ที่นี่จะดีกว่า อย่าไปเพิ่มความยุ่งยากอีกเลย”
เห้อ!
จางจิ่นแสดงความฉลาดของตัวเองออกมาแล้ว!
ช่างเป็นเพื่อนพ้องที่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นดีจริงๆ คำพูดทำให้คนอื่นฟังแล้วรู้สึกสบายใจ!
ความไม่พอใจของทุกคนเมื่อครู่ได้จางหายไปหมด ต่างพากันพยักหน้าอย่างพอใจ:“อื้ม!
คำพูดของใต้เท้าจางมีเหตุผล!”
มีความฉลาดมากจริงๆ สามารถแทนที่ข่งเบ่งได้เลย!
ที่ผ่านมาจางจิ่งรู้ฉลาดมีไหวพริบมองการณ์ไกล ตอนนี้เพิ่งรู้ตัวเองว่าตกอยู่ในกลุ่มเพื่อนพ้องนี้แล้ว!
รู้ตัวเองว่ากลายเป็นโล่กำบังไปแล้ว!
เมื่อจางจิ่งรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก แต่ก็หวังว่าเมื่อเสนาบดีทั้งสองท่านกลับมาจะไม่เอาเรื่องกับเหล่าขุนนางพวกนี้ มิฉะนั้น พฤติกรรมที่ไม่ดีของพวกเขาเหล่านี้ จะต้องได้รับการล้างแค้นคืนอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น เรื่องนี้รุกลามไปถึงราชสำนัก จางจิ่นก็ไม่สามารถรับผิดชอบได้
เงาร่างสูงของเซียวเฉวียนยืนอยู่ข้างหน้าเหล่าบัณทิตจอหงวน พูดขึ้นว่า :“พวกเราพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อน หลังจากนี้หนึ่งชั่วโมงค่อยออกเดินทางต่อ”
นี่ไม่ใช่เส้นทางที่จะเดินทางไปซินเจียง เพื่อเป็นการป้องกันคนมาขัดขวาง เซียวเฉวียนตั้งใจอ้อมเส้นทาง อ้อมมาทางนี้ และเพิ่งจะรอดพ้นจากการตามฆ่าจากเสนาบดีทั้งสองคนมาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อครู่เซียวเฉวียนหลบอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ข้างเส้นทางหลัก เห็นเสนาบดีทั้งสองคนเร่งรีบไล่ตามมาตรงเส้นทางหลัก ยังคงไม่เห็นแม้แต่เงาของเซียวเฉวียนและคนอื่นๆ จึงโกรธอย่างมากและกลับไป
ให้เหล่าบัณทิตจอหงวนได้พักผ่อนครู่หนึ่งและรีบเดินทางต่อ และเป็นการหยุดยั้งเหล่าขุนนางที่ไม่พอใจแล้วอาจจะกลับมาโจมตีอีกโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
การเดินทางไปซินเจียงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในเวลาเพียงแค่สองสามวันเท่านั้น หยุดพักเสียเวลาไปครู่หนึ่งก็ไม่เป็นไร
เซียวเฉวียนหย่อนตูดลงนั่งลงบนก้อนหิน เหลือบมองดูทุกคน ทุกคนต่างพากันหาที่นั่งลง มีเพียงหมิงเจ๋อที่มองซ้ายทีขวาที สีหน้าดูลังเลยืนอยู่
เป็นเพราะก้อนหินที่สามารถนั่งพักได้ถูกคนที่เคลื่อนไหวรวดเร็วจับจองนั่งไปหมดแล้ว เขาเป็นถึงองค์ชายแห่งซินเจียง ไม่อาจนั่งลงที่พื้นได้ มันน่าอับอายอย่างมาก!
แต่ในมือของเขาถือห่อผ้าสองใบเดินมาตลอดทาง ยืนอยู่นาน ก็รู้สึกเหนื่อยจริงๆ เขาคิดอยากนั่ง.........
เมื่อสายตาของหมิงเจ๋อมองไปที่เซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็กวักมือเรียก ส่งสายตาให้ เหมือนเรียกให้หมิงเจ๋อมานั่งด้วยกันกับเขา
ก้อนหินที่เซียวเฉวียนนั่งอยู่ใหญ่พอที่ให้ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนั่งได้
หมิงเจ๋อเชื่อคิดว่าเป็นจริง หยิบถุงผ้าทั้งสองแบกขึ้นพาดไหล่ และเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกดีใจ เซียวเฉวียนได้แต่งงานกับน้องสาวของเขา ยังรู้สึกกลัวข้าที่เป็นพี่เขยคนนี้!
นี่มัน ในที่สุดก็คิดได้ ต้องการจะเอาใจพี่เขยอย่างข้าคนนี้แล้ว!
หมิงเจ๋อกำลังคิดจะนั่งลง ทันใดนั้นรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแทงที่ก้นของเขา เมื่อหันหน้าไปดู เป็นเท้าของเซียวเฉวียน!
หมิงเจ๋อตกใจตาโต กำลังจะถามเซียวเฉวียนว่านี่มันหมายความว่าอย่างไร?
ก็เห็นเพียงเซียวเฉวียนยิ้มตอบกลับเป็นรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาได้ ดูแล้วทำให้ใจของหมิงเจ๋อสั่น มีความรู้สึกไม่ดีอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...