“กึก!”
“กึก!”
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะชมนางจบ เสี่ยวเซียนชิวก็พุ่งลงน้ำเสียงก่อน
นางลงน้ำไม่ได้!
หนองน้ำที่คล้ายกับฉากกำบังที่มั่นคง ในฐานะที่ดาบวิญญาณ แม้ว่านางจะไม่มีร่างที่แท้จริง แต่ถึงอย่างไรก็เข้าไปไม่ได้!
“นายท่าน!หนองน้ำนี้ไม่ชอบมาพากล!”
เหมิงเอ้าตะโกนอย่าง ‘ชาญฉลาด’
“.....”
ทุกคนมองเขาอย่างเงียบ ๆ ใช่ เราเห็นแล้ว
เหมิงเอ้าปิดปากอย่างไม่สบอารมณ์
แค่ขยิบตาเดียวของเซียวเฉวียน ไป๋ฉีก็เข้าใจแล้ว กระทั่งขว้างดาบจิงหุนออกไป!
ขว้างลงไปในบ่อปลา!
“กึก!”
เสียง ‘เคล้ง’ ของดาบจิงหุนดังขึ้น ก่อนจะเด้งกลับมา
ไป๋ฉีคว้าดาบจิงหุน ก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ถอย!”
เหมิงเอ้ารีบรุดเข้าไปขวางเบื้องหน้าของเซียวเฉวียน ปกป้องเซียวเฉวียนพร้อมกับถอยหลังไปหลายก้าว
“นี่มันอะไรกัน?” เสี่ยวเซียนชิวกุขมับอย่างปวดหัว จากนั้นก็ลอยตัวขึ้นไปในอากาศอย่างหัวเสีย
บ่อปลาแห่งนี้ก็ดูเหมือนบ่อปลา แต่กลับไม่มีปลา
น้ำหนองนี้ก็เหมือนน้ำ แต่กลับไม่ใช่น้ำ
“อย่าเสี่ยงเข้าไป ถอยออกมาก่อน”
เซียวเฉวียนสั่งให้ทุกคนล่าถอย
ในตอนนี้เอง เสียงห้าร้องดัง ครืน ๆ ก็ดังขึ้น ตามมาด้วยฝนที่พากันเทลงมาฉาดใหญ่
น้ำฝนต่างพากันเทลงมา
เป็นน้ำฝนที่ดูไม่นักหนัก ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
เซียวเฉวียนยื่นมือออกไป หยาดฝนอันเย็นยะเยือกสัมผัสบนหลังมือของเขา ซึ่งก็เป็นรสสัมผัสทั่วไป
กระทั่งเกิดคลื่นระลอกหนึ่งในบ่อปลา เซียวเซียนชิวลงน้ำไม่ได้ ดาบจิงหุนก็เข้าไม่ได้ แต่หยาดฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้ากลับซึมลงบ่อปลา และกลายเป็นน้ำผืนเดียวกับบ่อปลา
ฝนตกครานี้กินเวลาไปสองสามชั่วโมง และไม่มีท่าทีจะหยุดด้วย
เซียวเฉวียนพรวดลุกขึ้น ทุกคนต่างพากันลุกพรึบพรับไปตาม ๆ กัน “ราชครู !เป็นอะไรไปหรือ!”
“กลับไปกินข้าวกันเถอะ”
เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงเรียบ
“.....”
ทุกคนหมดคำพูด นี่...นี่ก็ตรงเวลาเกินไป
“ดีเลย!ข้าเองก็หิวแล้ว!” เซียวเซียนชิวกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ นางไม่อยากเหม่อมองดูบ่อปลาอยู่ที่นี่
“เช่นนั้น....ก็ต้องสนใจบ่อปลานี้แล้วนะสิ ?” เว่ยเป้ยตะลึงงัน เห็นได้ชัดว่าบ่อปลานี้ดูหัวโบรารณมาก เลือกกันแบบนี้คิดว่าจะได้รางวัลอะไร?
สนใจทำไม ไม่ต้องเฝ้าที่นี่ก็ได้
“พู่กันจินหลุนเฉียนคุน!”
เซียวเฉวียนตะโกนเรียกเสียงดัง จากนั้นพู่กันจินหลุนเฉียนคุนก็ลอยออกมา ตวัดวาดรูปโค้งอย่างสวยงามอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ปล่อยลงตรงหน้าของเซียวเฉวียน
นี่คือพู่กันจินหลุนเฉียนคุน!
จิ้นซื่อมองอ้าปากตาค้าง ผลปรากฏว่ามันดูน่าเกรงขามและไม่ธรรมดา เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พู่กันด้ามนี้ต้องเป็นอาวุธของเทพแน่นอน คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นมัน
น้ำตาแห่งความอิจฉาไหลอาบ อายุระหว่างของเซียวเฉวียนและคนอื่นไล่เลี่ยกัน พอเห็นอาวุธของทุกคนก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นอาวุธที่ดี
แต่พวกเขากลับมือเปล่า
“เฝ้าที่นี่ คอยรายกงานความผิดปกติ!”
ท่าทางออกคำสั่งพู่กัน ช่างหล่อเหลายิ่งนัก
จิ้นซื่อโลภมาก ไม่แปลกใจที่พวกเขาจะมีท่าทีไร้อนาคตเช่นนี้ แม้แต่เว้ยเชียนชิวที่มักจะคุ้นเคยกับสมบัติหายากอยู่แล้ว ก็ยังโลภอยากได้พู่กันจินหลุนเฉียนคุนเลย นับประสาอะไรกับคนทั่วไป
นัยน์ตาของฉินซูโหรวฉายแววชื่นชม และเลื่อมใสศรัทธา
พ่อเคยบอกว่าเซียวเฉวัยนเป็นคนที่มีพรสวรรค์ นางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะควบคุมพู่กันเฉียนคุนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...