ความกังวลและความโมโหของเว่ยเชียนชิว ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล
ที่จริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดเหมาะสมแล้ว ทันใดนั้นโดนขุดคุ้ยขึ้นมาอีก และเป็นเรื่องที่ไม่ดี ใครจะทนได้
ตอนนี้ ไม่เพียงแค่เว่ยเชียนชิวที่รู้สึกเสียใจมาก
ฮ่องเต้ก็รู้สึกเสียพระทัยมาก
“แม่ทัพฉิน ข้าควรจะบอกเรื่องนี้ต่อเหล่าขุนนางทั้งหลายหรือไม่?”
ฮ่องเต้มีสีพระพักตร์ที่ไม่ค่อยดี ไม่ได้บรรทมตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน พระองค์มีสีหน้าดูหวาดกลัว
เป็นเพราะราชวงค์ของข้าทำผิดต่อกองทัพตระกูลเซียว เป็นเพราะพระมหากษัตริย์จัดการเรื่องไม่ถูกต้อง ทำให้นักรบทั้งหลายตายไปอย่างไม่สงบสุข
ถ้าบอกให้เหล่าขุนนางรู้ ราชวงศ์ก็จะต้องอับอายเสียหน้า
แต่ถ้าไม่บอก เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปิดเอาไว้ได้ไม่นาน
เพียงแต่ว่า เมื่อบอกคนพวกนั้นไปแล้ว ก็จะมีประโยชน์อะไร?
พูดก็ไม่ได้ ไม่พูดก็ไม่ได้
ฮ่องเต้กำลังคิดถึงภาพรวม กำลังคิดทบทวนว่าสมควรหรือไม่
และฉินเซิง กำลังโกรธโมโหอย่างมาก
เขาคิดว่า ไม่เพียงแต่ต้องบอกพวกเขา และยังต้องหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้ด้วย!
การลบหลู่กองทัพตระกูลเซียวอย่างนี้!เป็นการไม่เคารพต่อต้าเว่ยอย่างมาก!เป็นการละเมิดต่อความเชื่อของประชาชน!เป็นการดูถูกกองทัพตระกูลเซียว!
กองทัพตระกูลเซียวรุ่นต่อรุ่นส่งต่อมา นองเลือดในสนามรบ ทำไมจะต้องถูกคนดูถูกเช่นนี้!
พวกเขาเป็นนักรบตระกูลเซียว และก็เป็นคนของต้าเว่ยด้วย!และเป็นประชาชนของต้าเว่ย!ยิ่งไปกว่านั้นเป็นลูกชายของพ่อแม่ของคนมากมาย!
“ฝ่าบาท!เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยให้จบลงไปอย่างเงียบๆแบบนี้ได้!”
“กองทัพตระกูลเซียวเสียสละไปมากพอแล้ว!ตายไปแล้วยังถูกคนอื่นดูถูกอีก!”
คำพูดของฉินเซิงมีความนัยแอบแฝง เขากำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ ในตามีน้ำตาคลอ
เขาและเซียวเฉวียนเป็นพันธมิตรที่ดีมากต่อกัน และก็ยังเป็นเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกันมาก
ฉินเซิงในฐานะแม่ทัพคนหนึ่ง และความรู้สึกที่มีต่อเหล่าบรรดาทหารลึกซึ้งยิ่งกว่าลูกสาวลูกชายของเขาเสียอีก!
ตอนที่กองทัพตระกูลเซียวถูกฆ่าจนหมดสิ้น ฮ่องเต้และฉินเซิงไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร!
นั่นเป็นเพราะเว่ยเชียวชิวต้องการจะเป็นใหญ่เพียงคนเดียว ถึงทำเรื่องเลวร้ายนี้!
เพียงแค่ เว่ยเชียนชิวเป็นใหญ่ตลอดไป ทุกคนก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้!
“ฝ่าบาท ตอนนี้โอกาศมาถึงแล้วไม่ใช่หรือพระเจ้าค่ะ!ในเมื่อวิญญาณของผู้กล้าทั้งห้าหมื่นคนยังอยู่!ก็จะต้องให้เว่ยเชียนชิวได้รับผลของสิ่งที่การกระทำลงไป!”
“เขาฆ่ากองทัพตระกูลเซียว!นี้มันเป็นการก่อกบฏ!ไม่สามารถละเว้นโทษได้!”
ความหมายของฉินเซิงชัดเจน ต้องการทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ให้รู้โดยทั่ว จัดการกำจัดเว่ยเชียนชิว
“แต่ราชครูยังไม่กลับมา ปืนยังหาไม่เจอจนถึง..........ตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่จะจัดการกับเว่ยเชียนชิว!”
ฮ่องเต้ปวดหัวอย่างมาก
“สิ่งที่สะสมก่อตัวมานานไม่สามารถจัดการได้ในเวลาเพียงแค่วันเดียว” ฉินเซิงถวายคำนับ “ฝ่าบาทต้องการจะกำจัดเว่ยเชียนชิว ก็ไม่สามารถที่จะฆ่าได้ภายในวันเดียว”
“ปล่อยให้ประชาชนถกเถียงถึงกองทัพตระกูลเซียว รอวันที่ราชครูกลับมา เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเหมาะสมแก่เวลาพอดี”
“เมื่อถึงตอนนั้น ความพยายามของเว่ยเชียนชิว ก็จะต้องหมดลงพ่ายแพ้ไปในที่สุด”
“......” ฮ่องเต้กัดฟัน “ในเมื่อเป็นอย่าง งั้นก็ดี ข้าจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับการถูกประชาชนตำหนิติเตียน!”
ฉินเซิงตื่นเต้นโค้งคำนับ:“ฝ่าบาททรงมีพระเมตตา ปกป้องประชาชนทั้งหลาย ต่อไปในอนาคตพวกเขาจะต้องเข้าพระทัยความลำบากของพระองค์”
“ออกไปทำเถอะ”
ใบหน้าที่หนุ่มแน่นของฮ่องเต้ ถึงแม้ว่าจะอ่อนเพลีย และมีความแน่วแน่:“ในเวลาเดียวกัน ก็จะต้องตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาด้วย ข้าต้องอัปยศอดสูต่อเหล่าทหารต้าเว่ยของข้า ยอมทุ่มเทให้ประเทศถูกทำลาย!”
ดวงตาทั้งสองข้างของฮ่องเต้ แสดงพลังออกมาอย่างรุนแรง
ฉินเซิงพยักหน้าตาม:“พ่ะย่ะค่ะ!ข้าจะยินยอมจะค่อยติดตามฝ่าบาท!”
หนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดฉินเซิงก็ออกมาจากห้องหนังสือ
ตามมาด้วย เกี่ยวกับตระกูล“ข่าวลือ” ของตระกูลเซียงเริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วเมืองต้าเว่ย
ทำให้ทั่วทั้งประเทศเกิดความโกลาหลไปทั่ว
ครอบครัวของเหล่าผู้กล้าทั้งห้าหมื่นคน ต่างร้องไห้กันขึ้นมาอีกครั้ง
เหล่าทหารไม่มีความผิดอะไร แต่ทำเพื่อความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อต้าเว่ย
ไม่ว่าจะเป็นทหารของเว่ยเชียวชิว หรือว่าฮ้องเต้ เพียงแค่ต้องการปกป้องต้าเว่ย ทั้งหมดก็เป็นทหารที่ดี
ทั่วทั้งต้าเว่ย โกลาหลมีเสียงดังโวยวายไปทั่ว
คนที่หงุดหงิดที่สุด ก็คือเว่ยเชียนชิว
ก่อนหน้านี้ทำเรื่องไม่ดีไว้มากมาย เขาก็ไม่เคยร้อนรนอย่างนี้
ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาทำ เขากลับร้อนรน ในเมื่อมีส่วนเกี่ยวของกับเขา
เว่ยเชียนชิวฉลาดขนาดนี้ นี่แสดงว่า ฮ่องเต้ต้องการจัดการเขาแล้ว
ประชาชนสะท้อนใจอย่างมาก ขวัญกำลังใจของทหารก็สั่นคลอนเช่นกัน
เพราะชาวยุทธ์แท้ก็เป็นคนต้าเว่ย พ่อแม่ขอองพวกเขาก็เติบโตมาเป็นคนต้าเว่ย
เพียงแต่เป็นคนต้าเว่ย ก็จะมีความรู้สึกต่อการตายของกองทัพตระกูลเซียว มีความเสียใจ มีความสงสาร ยิ่งไปกว่านั้นมีความโกรธแค้นศัตรู
แต่ก่อนเว่ยเชียนชิวเลวทรามไร้ยางอาย นั่นก็เป็นเพราะกองทัพตระกูลเซียวตายหมดแล้ว เรื่องที่เขาทำ แน่นอนว่าไม่มีใครพูดออกมา
นั่นก็ตายไปโดยที่ไม่มีหลักฐาน
เว่ยเชียนชิวไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องเลือดบริสุทธิ์มาก่อน แต่ความลับของราชวงศ์ แน่นอนไม่สามารถใช้ได้อย่างง่ายๆ
ทางด้านของฮ่องเต้ทำเพื่อให้เกียรติต่อเหล่าทหารที่ตายไป ก็จะไม่ทรงตรัสถึงเรื่องเลือดบริสุทธิ์ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นทหารคนใดก็ตามต่างเข้าสู่วงจรแห่งความตายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้น เว่ยเชียนชิวไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้
และอีกอย่าง เพื่อเป็นการป้องกันเรื่องที่คาดไม่ถึง เขายังสั่งให้กิเลนจุดไฟเผาด้วย พื้นที่ของเย่วไป๋กวนถูกไฟเผาจนแดงไปทั่วพื้นที่ แม้แต่หิมะยังละลายไปหมด ดินโคลนหลอมละลายกลายเป็นขี้เถ้า ศพที่ถูกฝังก็โดนเผาจนเป็นเถ้าผง
ถึงแม้ว่าจะมีใครพูดถึงเรื่องเลือดบริสุทธิ์ มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
สิ่งที่เว่ยเชียนชิวคาดไม่ถึงก็คือ หลังจาที่ตัวเขาให้กิเลนไปจุดไฟเผา ก็มีคนนำเอาเลือดบริสุทธิ์ออกมาจากร่างของเหล่าผู้กล้าทั้งห้าหมื่นคนแล้ว
สิ่งที่คาดไม่ถึงกว่านั้นคือ ไปช้ากว่าคนนั่นเพียงแค่ก้าวเดียว
ตอนนี้เว่ยเชียนชิวเข้าใจเจตนาของฮ่องเต้อย่างชัดเจนว่า ฮ่องเต้ต้องการกำจัดเขา
และก็ใช้เรื่องนี้เป็นสัญญาณบอกเขา :ข้าต้องการฆ่าเจ้า และวางแผนที่จะฆ่าเจ้าโดยที่เจ้าไม่มีโอกาศที่จะป้องกันได้ แต่เมื่อไรที่จะเป็นเวลาตายของเจ้านั้น ข้าไม่บอกเจ้า
เป็นครั้งแรกที่เว่ยเชียนชิวรู้สึกว่าความตายอยู่ไม่ไกลแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...