“ท่านพ่อเชิญกล่าว”
เซียวเฉวียนกระซิบข้างหูเสี่ยวเซียนชิวอีกรอบหนึ่ง เสี่ยวเซียนชิวยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเก่า จิตสังหารกลางหว่างคิ้วของนางยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เอาละ เอาละ ถึงกับมีคนวางแผนจะลงมือกับร่างกายของกองทัพตระกูลเซียว กระทั่งตายแล้วยังไม่เลิกรา ช่างเป็นการหมิ่นหยามคนพวกนี้เหลือเกิน
ไม่สิ ตามที่ท่านพ่อกล่าว คนพวกนี้ไม่ถือว่าเป็นคน มันเป็นเดรัจฉาน แต่ละตัวล้วนเป็นสิ้น!
“เจ้าค่ะ เสี่ยวเซียนชิวจะทำตามที่ว่า จะต้องเจรจาเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ดีได้แน่เจ้าค่ะ”
เสี่ยวเซียนชิวพยักหน้า ร่างของนางพลันหายออกจากห้องไป
ภารกิจที่เซียวเฉวียนมอบให้เสี่ยวเซียนชิวนั้นก็คือโน้มน้าวให้วิญญาณวีรบุรุษนับห้าหมื่นรายจากไป หลังจากนั้นเซียวเฉวียนค่อยคิดหาพิธีส่งวิญญาณพวกเขาไป
“ฉินซู เจ้ามานี่”
เซียวเฉวียนขยับนิ้วเรียกฉินซูโหรว เรื่องโลหิตพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วสอบถามจากฉินซูโหรวก็เหมาะสมเป็นที่สุดแล้ว
ฉินซูโหรวในฐานะเป็นธิดาตระกูลขุนศึกแถมยังได้ศึกษาเล่าเรียน นางจะต้องเข้าใจเรื่องเลือดพิสุทธิ์เป็นอย่างดีแน่
เลือดพิสุทธ์หยดหนึ่ง ต้องกระจายหยดเลือดออกไปและผสมมันเข้ากับหยดสายน้ำ ให้มันกลับสู่ความเป็นน้ำ
ทว่าเลือดพิสุทธิ์ที่เซียวเฉวียนจัดการก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเลือดพิสุทธิ์ที่สกัดอย่างมั่วๆ ทั้งสิ้น ยามนี้เลือดพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วของทหารนับห้าหมื่นนายได้ถูกกลั่นออกมาเป็นจิตสังหาร บ้างกลายเป็นเมฆกลายเป็นฝน แสดงว่าวิธีการก่อนหน้านี้เกรงว่าคงไม่สะดวกใช้แล้ว
เซียวเฉวียนกับฉินซูโหรวหลบอยู่ตรงหัวมุม พวกเขาปรึกษากันด้วยน้ำเสียงที่เบาเป็นที่ยิ่ง
ฉินซูโหรวโมโหหนักจนกำหมัดแน่น นางโมโหแทบไม่ไหว!
ฉินซูโหรวเกิดจากตระกูลแม่ทัพ นับตั้งแต่เล็กก็มักเห็นอกเห็นใจทหารที่รบทัพจับศึกอยู่ข้างนอก ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายนั้นช่างเถอะ แถมยังต้องเสียสละเลือดเนื้อชีวิตไปอีก กองทัพตระกูลเซียวยิ่งเป็นชายหนุ่มกล้าหาญที่สุดในต้าเว่ยปีนั้น ยามนี้กลับต้องมาตายอย่างไม่สงบเพียงนี้!
“เกินไปแล้ว...”
ฉินซูโหรวสูดลมหายใจหนาวเหน็บ นางเอ่ยเสียงเบา “ท่านราชครู...แม้ว่าข้าจะเรียนหนังสือมาน้อย แต่ว่าก็ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ในบันทึกประวัติศาสตร์ใดมาก่อน ทว่าอาศัยจากที่ข้าเห็น ผู้ที่สามารถกระทำเรื่องถึงขั้นนี้ได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดา”
ถึงกับขุดเอาเลือดพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วของคนนับห้าหมื่นคนมาได้ ดูจากตัวเลขแล้วต้องเป็นกระบวนการอันโอฬารและซับซ้อนยิ่ง
อีกทั้งวิธีการที่แล้งน้ำใจแถมยังอำมหิตปานนี้ ไม่คล้ายเป็นฝีมือของคนต้าเว่ยเลย
เว่ยเชียนชิวนั้นคือบุคคลที่มีความสามารถมากที่สุดในต้าเว่ย หากเอามารสังหารคนผู้นี้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะสังหารคนดุจมดปลวก แต่ส่วนมากก็แค่ฆ่าคนก็เท่านั้น วางแผนหาความสำราญสักหน่อย ไม่ยุ่งยากลงมืออะไรปานนี้
อีกทั้งหากว่านี่เป็นฝีมือของเว่ยเชียนชิวจริงๆ ก็ไม่ต้องสังสัยเลยว่าเขาจับจุดอ่อนถึงตายของเซียวเฉวียนไว้ได้เรื่องหนึ่ง ทว่าตอนนี้เว่ยเชียนชิวกลับทำอะไรเซียวเฉวียนไม่ได้ และยังไม่ได้เผยไพ่ใบนี้ออกมา การหลบซ่อนหวั่นเกรงนั้นไม่คล้ายเป็นวิธีการลงมือของเว่ยเชียนชิว
ดังนั้นแล้ว จึงมีความเป็นไปได้เดียวก็คือเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เว่ยเชียนชิวกระทำ
สถานที่อย่างซินเจียงนี้มีผู้มีความสามารถพักอยู่มาก ซินเจียงนั้นอยู่ติดกับเทือกเขาคุนหลุน สองสถานที่ดินน้ำใกล้เคียง วิธีการลงมือของคนพวกนี้แต่ไหนแต่ไรมาก็แตกต่างกับชาวต้าเว่ย
ในยามนี้วิญญาณของผู้กล้านับห้าหมื่นราย ล่องลอยไร้จุดหมาย พุ่งชนกันสับสน ดูคล้ายเป็นวิธีการลงมือของคนนอกด่าน
“ท่านหมายความว่าเป็นคนซินเจียงหรือ?”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกกดดันหนักอึ้ง
ฉินซูโหรวขมวดคิ้วงดงามของนาง “ก็ไม่แน่หรอก ยิ่งไม่มีหลักฐานใดๆ เลยด้วย เพียงแต่ว่าการลงมือกับวิธีเช่นนี้ ไม่คล้ายเหมือนการกระทำของคนต้าเว่ยเลย หากตัดตัวเลือกออก คนซินเจียงหรือกระทั่งคนคุนหลุนล้วนยากจะพ้นข้อสงสัย”
นั่นสิ เซียวเฉวียนเพิ่งจะใจเย็นลงได้
ตระกูลเซียวนั้นถูกคนต้าเว่ยรังแกจนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว นับประสาอะไรกับการลงมืออีกสักครั้งกัน?
ทำให้เหล่าทหารไม่อาจจะอยู่อย่างสงบได้ นับเป็นการหมิ่นหยามประเภทหนึ่ง
การหมิ่นหยามต่อต้าเว่ยประเภทนี้
เป็นทั้งการดูถูกและเย้ยหยันทำนองหนึ่ง
ในต้าเว่ย หากเรื่องนี้แม้เป็นเว่ยเชียนชิวยังไม่ทำ เช่นนั้นก็ไม่มีผู้อื่นกระทำได้แล้ว
เซียวเฉวียนกำหมัดแน่น
เขาได้ยินมาว่าผู้ปกครองซินเจียง หรือก็คือท่านอ๋องบิดาขององค์หญิงต้าถง เป็นผู้ปกครองทรงคุณธรรมรายหนึ่ง
อีกทั้งเรื่องที่หมิงเจ๋อกระทำต่อกองทัพตระกูลเซียว เขาก็ไม่เหมือนจะไม่รู้ หรือว่า เรื่องที่ชาวซินเจียงไม่ได้ทำ จะเป็นฝีมือของชาวคุนหลุนเสียแทน?
พวกนักปราชญ์หรือ?
เซียวเฉวียนจำต้องคิดถึงตำแหน่งสถานะของผู้เป็นนักปราชญ์ขึ้นมา
แล้วยิ่ง ในหลายปีที่ผ่านมานี้ ตามวันปรกติเซียวเฉวียนมักถูกเพ่งเล็งโดยไร้เหตุผล ล้วนเป็นเพราะคำพยากรณ์หนึ่งของนักปราชญ์พวกนี้ด้วย
และเพราะนักปราชญ์พยากรณ์ว่าเซียวเฉวียนจะทำให้ซินเจียงดับสูญ เซียวเฉวียนถึงได้ลำบากลำบนปานนี้
หาสาระไม่ได้!
หากไม่หาเจ้าตัวก่อเรื่องคนนี้ให้พบ เซียวเฉวียนไม่มีทางเลิกราแน่!
รอจนกระทั่งข้ามเส้นชายแดนซินเจียง เอาปืนกับเถาวัลย์ต้นมันฝรั่งกลับมา เขาจะกลับคุนหลุนสักรอบ
ไม่อย่างนั้น เจ้านักปราชญ์ที่ว่านี่มันจะได้ใจมากนานเกินไปแล้ว มันนึกว่าตระกูลเซียวไม่มีผู้ใดจึงคิดรังแกได้ตามใจสินะ!
ไม่อย่างนั้น นักปราชญ์ผู้นี้มันคงยังคิดว่าจะเหยียบย่ำกองทัพตระกูลเซียวอย่างไรก็ได้สินะ!
“ไป๋ฉี่! เหมิงเอ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...