ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 913

“ท่านพ่อเชิญกล่าว”

เซียวเฉวียนกระซิบข้างหูเสี่ยวเซียนชิวอีกรอบหนึ่ง เสี่ยวเซียนชิวยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเก่า จิตสังหารกลางหว่างคิ้วของนางยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เอาละ เอาละ ถึงกับมีคนวางแผนจะลงมือกับร่างกายของกองทัพตระกูลเซียว กระทั่งตายแล้วยังไม่เลิกรา ช่างเป็นการหมิ่นหยามคนพวกนี้เหลือเกิน

ไม่สิ ตามที่ท่านพ่อกล่าว คนพวกนี้ไม่ถือว่าเป็นคน มันเป็นเดรัจฉาน แต่ละตัวล้วนเป็นสิ้น!

“เจ้าค่ะ เสี่ยวเซียนชิวจะทำตามที่ว่า จะต้องเจรจาเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ดีได้แน่เจ้าค่ะ”

เสี่ยวเซียนชิวพยักหน้า ร่างของนางพลันหายออกจากห้องไป

ภารกิจที่เซียวเฉวียนมอบให้เสี่ยวเซียนชิวนั้นก็คือโน้มน้าวให้วิญญาณวีรบุรุษนับห้าหมื่นรายจากไป หลังจากนั้นเซียวเฉวียนค่อยคิดหาพิธีส่งวิญญาณพวกเขาไป

“ฉินซู เจ้ามานี่”

เซียวเฉวียนขยับนิ้วเรียกฉินซูโหรว เรื่องโลหิตพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วสอบถามจากฉินซูโหรวก็เหมาะสมเป็นที่สุดแล้ว

ฉินซูโหรวในฐานะเป็นธิดาตระกูลขุนศึกแถมยังได้ศึกษาเล่าเรียน นางจะต้องเข้าใจเรื่องเลือดพิสุทธิ์เป็นอย่างดีแน่

เลือดพิสุทธ์หยดหนึ่ง ต้องกระจายหยดเลือดออกไปและผสมมันเข้ากับหยดสายน้ำ ให้มันกลับสู่ความเป็นน้ำ

ทว่าเลือดพิสุทธิ์ที่เซียวเฉวียนจัดการก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเลือดพิสุทธิ์ที่สกัดอย่างมั่วๆ ทั้งสิ้น ยามนี้เลือดพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วของทหารนับห้าหมื่นนายได้ถูกกลั่นออกมาเป็นจิตสังหาร บ้างกลายเป็นเมฆกลายเป็นฝน แสดงว่าวิธีการก่อนหน้านี้เกรงว่าคงไม่สะดวกใช้แล้ว

เซียวเฉวียนกับฉินซูโหรวหลบอยู่ตรงหัวมุม พวกเขาปรึกษากันด้วยน้ำเสียงที่เบาเป็นที่ยิ่ง

ฉินซูโหรวโมโหหนักจนกำหมัดแน่น นางโมโหแทบไม่ไหว!

ฉินซูโหรวเกิดจากตระกูลแม่ทัพ นับตั้งแต่เล็กก็มักเห็นอกเห็นใจทหารที่รบทัพจับศึกอยู่ข้างนอก ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายนั้นช่างเถอะ แถมยังต้องเสียสละเลือดเนื้อชีวิตไปอีก กองทัพตระกูลเซียวยิ่งเป็นชายหนุ่มกล้าหาญที่สุดในต้าเว่ยปีนั้น ยามนี้กลับต้องมาตายอย่างไม่สงบเพียงนี้!

“เกินไปแล้ว...”

ฉินซูโหรวสูดลมหายใจหนาวเหน็บ นางเอ่ยเสียงเบา “ท่านราชครู...แม้ว่าข้าจะเรียนหนังสือมาน้อย แต่ว่าก็ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ในบันทึกประวัติศาสตร์ใดมาก่อน ทว่าอาศัยจากที่ข้าเห็น ผู้ที่สามารถกระทำเรื่องถึงขั้นนี้ได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดา”

ถึงกับขุดเอาเลือดพิสุทธิ์กลางหว่างคิ้วของคนนับห้าหมื่นคนมาได้ ดูจากตัวเลขแล้วต้องเป็นกระบวนการอันโอฬารและซับซ้อนยิ่ง

อีกทั้งวิธีการที่แล้งน้ำใจแถมยังอำมหิตปานนี้ ไม่คล้ายเป็นฝีมือของคนต้าเว่ยเลย

เว่ยเชียนชิวนั้นคือบุคคลที่มีความสามารถมากที่สุดในต้าเว่ย หากเอามารสังหารคนผู้นี้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าเว่ยเชียนชิวจะสังหารคนดุจมดปลวก แต่ส่วนมากก็แค่ฆ่าคนก็เท่านั้น วางแผนหาความสำราญสักหน่อย ไม่ยุ่งยากลงมืออะไรปานนี้

อีกทั้งหากว่านี่เป็นฝีมือของเว่ยเชียนชิวจริงๆ ก็ไม่ต้องสังสัยเลยว่าเขาจับจุดอ่อนถึงตายของเซียวเฉวียนไว้ได้เรื่องหนึ่ง ทว่าตอนนี้เว่ยเชียนชิวกลับทำอะไรเซียวเฉวียนไม่ได้ และยังไม่ได้เผยไพ่ใบนี้ออกมา การหลบซ่อนหวั่นเกรงนั้นไม่คล้ายเป็นวิธีการลงมือของเว่ยเชียนชิว

ดังนั้นแล้ว จึงมีความเป็นไปได้เดียวก็คือเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เว่ยเชียนชิวกระทำ

สถานที่อย่างซินเจียงนี้มีผู้มีความสามารถพักอยู่มาก ซินเจียงนั้นอยู่ติดกับเทือกเขาคุนหลุน สองสถานที่ดินน้ำใกล้เคียง วิธีการลงมือของคนพวกนี้แต่ไหนแต่ไรมาก็แตกต่างกับชาวต้าเว่ย

ในยามนี้วิญญาณของผู้กล้านับห้าหมื่นราย ล่องลอยไร้จุดหมาย พุ่งชนกันสับสน ดูคล้ายเป็นวิธีการลงมือของคนนอกด่าน

“ท่านหมายความว่าเป็นคนซินเจียงหรือ?”

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกกดดันหนักอึ้ง

ฉินซูโหรวขมวดคิ้วงดงามของนาง “ก็ไม่แน่หรอก ยิ่งไม่มีหลักฐานใดๆ เลยด้วย เพียงแต่ว่าการลงมือกับวิธีเช่นนี้ ไม่คล้ายเหมือนการกระทำของคนต้าเว่ยเลย หากตัดตัวเลือกออก คนซินเจียงหรือกระทั่งคนคุนหลุนล้วนยากจะพ้นข้อสงสัย”

นั่นสิ เซียวเฉวียนเพิ่งจะใจเย็นลงได้

ตระกูลเซียวนั้นถูกคนต้าเว่ยรังแกจนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว นับประสาอะไรกับการลงมืออีกสักครั้งกัน?

ทำให้เหล่าทหารไม่อาจจะอยู่อย่างสงบได้ นับเป็นการหมิ่นหยามประเภทหนึ่ง

การหมิ่นหยามต่อต้าเว่ยประเภทนี้

เป็นทั้งการดูถูกและเย้ยหยันทำนองหนึ่ง

ในต้าเว่ย หากเรื่องนี้แม้เป็นเว่ยเชียนชิวยังไม่ทำ เช่นนั้นก็ไม่มีผู้อื่นกระทำได้แล้ว

เซียวเฉวียนกำหมัดแน่น

เขาได้ยินมาว่าผู้ปกครองซินเจียง หรือก็คือท่านอ๋องบิดาขององค์หญิงต้าถง เป็นผู้ปกครองทรงคุณธรรมรายหนึ่ง

อีกทั้งเรื่องที่หมิงเจ๋อกระทำต่อกองทัพตระกูลเซียว เขาก็ไม่เหมือนจะไม่รู้ หรือว่า เรื่องที่ชาวซินเจียงไม่ได้ทำ จะเป็นฝีมือของชาวคุนหลุนเสียแทน?

พวกนักปราชญ์หรือ?

เซียวเฉวียนจำต้องคิดถึงตำแหน่งสถานะของผู้เป็นนักปราชญ์ขึ้นมา

แล้วยิ่ง ในหลายปีที่ผ่านมานี้ ตามวันปรกติเซียวเฉวียนมักถูกเพ่งเล็งโดยไร้เหตุผล ล้วนเป็นเพราะคำพยากรณ์หนึ่งของนักปราชญ์พวกนี้ด้วย

และเพราะนักปราชญ์พยากรณ์ว่าเซียวเฉวียนจะทำให้ซินเจียงดับสูญ เซียวเฉวียนถึงได้ลำบากลำบนปานนี้

หาสาระไม่ได้!

หากไม่หาเจ้าตัวก่อเรื่องคนนี้ให้พบ เซียวเฉวียนไม่มีทางเลิกราแน่!

รอจนกระทั่งข้ามเส้นชายแดนซินเจียง เอาปืนกับเถาวัลย์ต้นมันฝรั่งกลับมา เขาจะกลับคุนหลุนสักรอบ

ไม่อย่างนั้น เจ้านักปราชญ์ที่ว่านี่มันจะได้ใจมากนานเกินไปแล้ว มันนึกว่าตระกูลเซียวไม่มีผู้ใดจึงคิดรังแกได้ตามใจสินะ!

ไม่อย่างนั้น นักปราชญ์ผู้นี้มันคงยังคิดว่าจะเหยียบย่ำกองทัพตระกูลเซียวอย่างไรก็ได้สินะ!

“ไป๋ฉี่! เหมิงเอ้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย