ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 917

คนอื่น ๆ เห็นเพียงแต่เซียวเฉวียนเดินเข้าไปในห้อง แต่ในนั้นกลับไม่มีเสียงใด ๆ ดังออกมาเลย

“เมื่อครู่ราชครูสีหน้าไม่ดีเลย เกิดอะไรขึ้นหรือ?” เว่ยเป้ยถามฉินซูโหรว

ทุกคนต่างก็รู้สึกว่า เซียวเฉวียนปฏิบัติกับฉินซูพิเศษกว่าคนอื่น ๆ

กับคนอื่น ๆ เซียวเฉวียนไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อไหร่ที่ฉินซูมีคำถาม เซียวเฉวียนก็พร้อมจะตอบคำถามนั้นเสมอ

อีกทั้งความอดทนที่เซียวเฉวียนมีต่อฉินซูก็มากกว่าคนอื่น ๆ มาก

หรือเป็นเพราะว่า ฉินซูอยู่อันดับต้น ๆ ของการสอบ จึงได้รับการชื่นชมจากราชครูงั้นหรือ?

“เรื่องของราชครู ข้าคนนี้ไม่รู้จริง ๆ ทุกคนต่างก็ผ่านการทดสอบและได้ผ่านโลกมาบ้างแล้ว ซุบซิบนินทาคนแบบนี้ ไม่เคารพกันเกินไปไหม?”

ฉินซูโหรวไม่มีความสุข เมื่อก่อนคนเหล่านี้เคยก่อกวนเซียวเฉวียนอย่างไร ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ แต่ก็เป็นแค่กลุ่มอันธพาลกลุ่มหนึ่ง เธอดูถูกคนเหล่านี้

คำว่าผ่านเข้ารอบนี้ สำหรับเหล่าวิชาการในปีนี้ ก็เป็นแค่เพียงความอัปยศอดสูก็เท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้คะแนนเป็นศูนย์ในการสอบ แต่เขาก็ยังผ่านเข้ารอบมาได้

หลังจากที่เข้ารอบมาแล้ว ไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ ไม่ได้มีหน้ามีตาเหมือนคนอื่น

ดังนั้น ประชาชนของต้าเว่ยจึงบอกว่า ปีนี้ดูเหมือนจะง่ายเหมือนหญ้าข้างทาง แค่เข้าร่วมการทดสอบก็เข้ามาได้แล้ว ไม่ได้มีความสามารถจริง ๆ เลย

ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องออกมาฝึกฝน

เรื่องแบบนี้ มีตรงไหนที่เหมือนผ่านการทดสอบหรือ

“ฟังจากน้ำเสียงของเจ้า ทำไมมันถึงเหมือนว่ากำลังดูถูกเราอยู่ เจ้าเองก็ผ่านการทดสอบมาเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”

มีคนโต้กลับแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ฉินซูโหรวไม่พอใจมากขึ้นไปอีก แต่คนพวกนี้กลับพูดถึงการผ่านเข้ารอบ ที่จริงแล้วคนที่ด้อยกว่าก็ต้องยิ่งหวาดกลัวและไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ดูถูกงั้นหรือ?” ฉินซูโหรวพูดขึ้นเบา ๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้คบค้าสมาคมกับคนมากมายแบบนี้มานานแล้ว แต่ยังไงซะเธอก็เป็นคนในตระกูลขุนนาง ผ่านโลกมาก็ไม่น้อย “ฉินคนนี้ไม่กล้า ทุกคนในที่นี้ล้วนแต่เป็นคนที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งขึ้นมา ทุกคนก็มีรายชื่อ ข้าหมายถึง ทุกคนก็ผ่านเข้ารอบเหมือนกัน พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”

"เจ้า..."

หลายวันมานี้ ฉินซูโหรวทนกับกลุ่มคนน่ารังเกียจนี้มามากพอแล้ว การพูดคุยกันในตอนนี้ก็ไม่มีความสุข เธอได้แต่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ และไม่ต้องการจะพูดคุยกับพวกเขาอีก

เมื่ออาจื่อเห็นฉินซูโหรวแบบนี้ เขาก็เอนเข้าตัวมา

เซียวเฉวียนมีความรู้สึกพิเศษกับฉินซูมาก ได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น อาจทำให้ได้รับความโปรดปรานจากเขามากขึ้น

อยากจะดีกับเซียวเฉวียน ก็ต้องทำดีกับคนที่เขาชอบ เกลียดคนที่เขาเกลียด

แต่อาจื่อกลับไม่ทันได้คิดเลยว่า ในโลกนี้ ฉินซูคือคนที่เธอไม่ควรเข้าใกล้มากที่สุด

“คุณชายฉิน” อาจื่อนั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ “พอได้เห็นคุณชายฉินแล้ว รู้สึกสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ ไม่ทราบว่าบ้านของคุณชายฉินอยู่ที่ไหนหรือ?”

ฉินซูโหรวไม่พูดอะไรตอบ

แค่มองเธอนิ่ง ๆ

ฉินซูโหรวไม่อยากสนทนากับอาจื่ออีก

ฉินซูโหรวรู้ดีว่า คนตรงหน้าเธอนี้ปลอมตัวเป็นอาจื่อ

คนนี้แหละ ที่ปลอมเป็นเธอมานานหลายปี

ระหว่างทางนี้ ไม่รู้ว่าฉินซูโหรวทนต่อความคิดที่อยากจะฆ่ามามากน้อยแค่ไหนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเฉวียนบอกว่า อาจื่อและหมิงเจ๋อมีประโยชน์กับการตามหานักบุญ อาจื่อก็คงตายไปนานแล้ว จะมานั่งคุยต่อหน้ากันแบบนี้ได้ที่ไหนกัน

"บ้านเกิดเจ้า อยู่ที่ไหนหล่ะ?"

ฉินซูโหรวถามกลับ

อาจื่อก็เป็นแค่หนู ไม่เคยได้เห็นแสงสว่างแบบนี้มาก่อน เธอก็ต้องคิดว่าตนเป็นเจ้าหญิงที่ได้ประสบพบเจอปัญหา “บ้านเกิดของข้าอยู่ในเมืองหลวง”

"ที่บ้านมีพี่น้องไหม?"

“มีพี่ชายหนึ่งคน น้องชายสองคน ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ อาจื่อก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ส่วนน้องชายคนที่สาม มองแวบแรก ก็คล้ายกับคุณชายฉินมากทีเดียว”

คนที่อาจื่อหมายถึงก็คือ ฉินหนาน

พูดถึงครอบครัวขึ้นมา บนหน้าของอาจื่อก็เห็นรอยยิ้มได้อย่างชัดเจน

ราวกับว่านั่นเป็นครอบครัวของเธอจริงๆ

อาจื่ออยู่ในตระกูลฉินก็ไม่ได้มีฐานะอะไร

ถึงแม้ว่าทุกคนจะสุภาพกับเธอมาก แต่สิ่งที่อยู่ในแววตานั้น ช่างเป็นอะไรที่เย็นชาและดูห่างเหินมากเสียจริง

แม้แต่ฉินหนานที่เคยติดเธอหนึบ ตอนนี้ก็ห่างจากเธอมาก

เพราะอย่างนั้น อาจื่อเลยแอบตามเซียวเฉวียนออกมา

ในใจของเธอ ได้คิดอย่างตลกขบขันว่า มีแค่เซียวเฉวียนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอได้ แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นคู่รักที่คบกันไม่นานแต่รู้ใจกันทุกอย่างงั้นหรือ

แต่ไม่ว่าอาจื่อจะพูดอะไร ฉินซูโหรวก็ไม่ตอบอะไรกลับมาเลยแม้แต่น้อย

เธอเกลียดน้ำเสียงของอาจื่อมาก แต่จะว่าไปพอฟังไปแล้วมันก็คล้ายกับเธอมากเลยทีเดียว ยั่นทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก

ฉินซูโหรวพูดอย่างใจร้อนว่า “เอาหล่ะ ฉินคนนี้ไม่มีเวลามาฟังเรื่องพวกนี้แล้ว ข้าง่วงเต็มทีแล้ว”

"โอ้ ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ รบกวนท่านแล้ว คุณชายฉินพักผ่อนเสียเถอะ"

ในตอนแรกอาจื่อหยิ่งผยองมากแค่ไหน แต่ตอนนี้กลับถ่อมตัวมาก “ข้ายังนอนไม่ได้ ยังต้องคอยปรนนิบัติท่านราชครู”

เมื่อพูดจบ อาจื่อก็มองเซียวเฉวียนที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง

ฉินซูโหรวรู้สึกเบื่อหน่ายมาก จึงได้หันไปพิงกำแพงพักผ่อนแล้ว

ฉินซูที่มีจิตใจงดงามและคุณธรรมสูง ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่พอใจอย่างมาก นอกเสียจากเว่ยเป้ย

ที่เขากลับรู้สึกว่า ฉินซูนั้นเป็นคนดีมาก ลมหายใจที่ใสบริสุทธิ์

ไม่มีใครรู้เลยว่า เซียวเฉวียนจะออกมาเมื่อไหร่

เมื่อถึงรุ่งเช้า ตอนที่พวกเขาตื่นขึ้นมา เซียวเฉวียนก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เตรียมทานอาหารแล้ว

"ดวงอาทิตย์หรือ? ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว!”

ในเวลานี้ แสงแดดก็ส่องเข้ามาในบ้าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย