นี่เป็นครั้งแรกที่เว่ยเชียนชิวได้เผชิญหน้ากับคนคนหนึ่งที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงมากและสามารถทำให้เขาโกรธได้มากขนาดนี้
ข้อความในจดหมายของอี้กุยไม่ได้เขียนอะไรมากมาย ในนั้นเขียนเพียงแค่คำว่า: หญ้าอสุรา
นี่คือคําสั่งของเซียวเฉวียน หลังจากออกจากเมืองหลวงไปหลายวัน เซียวเฉวียนขอให้อี้กุยเลือกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสและส่งจดหมายฉบับนี้ให้เว่ยเชียนชิว
อี้กุยรู้สึกแปลกมาก ทําไมต้องเลือกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส? วันที่มีฝนตกไม่ได้หรือ? แล้วถ้ามีหมอกหล่ะ?
เซียวเฉวียนก็ยิ้มขึ้นในตอนนี้ : “ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เพียงแค่เลือกวันนี้เพื่อให้เว่ยเชียนชิวจําได้ว่าในวันสุดท้ายของเขานี่คือวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสที่สุด”
โอ้พระจ้า!
ท่านปู่น้อยยังคงมีพิธีรีตอง
เซียวเฉวียนก็กล่าวขึ้นมาว่า : “หลังจากนี้ ถ้าเว่ยเชียนชิวก็จะเงยหน้าขึ้นและแม้ว่าเขาจะเห็นแสงแดดที่เจิดจ้า มันก็จะรู้สึกเย็นไปจนถึงกระดูกดำและรู้สึกเหมือนโดนเข็มกำลังทิ่มแทง”
เซียวเฉวียนได้ทำมันแล้ว
เมื่อเว่ยเชียนชิวเห็นข้อความนั้น แน่นอนว่าเขาต้องโกรธมากจนแทบบ้า
เป็นไปได้อย่างไร?
หญ้าอสุราไม่ได้ถูกกําจัดจนหมดสิ้นไปนานแล้วหรือ?
เซียวเฉวียนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แล้วทำไมเขาถึงหามันเจอ?
เว่ยเชียนชิวเชื่อว่าเซียวเฉวียนจะไม่เขียนจดหมายนี้ขึ้นมามั่วๆเพื่อบอกให้รู้ว่าตัวเองเองรู้เรื่องหญ้าอสุราแล้ว
หญ้าอสุราต้องอยู่ในมือของเซียวเฉวียนแล้วเป็นแน่
หญ้าอสุราหายสาบสูญไปตั้งนานแล้ว
ถึงแม้ว่าหนังสือจะยังมีข้อมูล แต่ก็ถูกลบนานแล้วเช่นกัน
เซียวเฉวียนรู้เรื่องหญ้าอสุราแล้ว เวรหล่ะ... เขารู้เรื่องนี้แล้วจริงๆ
สถานการณ์เยี่ยงนี้ทำให้เว่ยเว่ยเชียนชิวคิดอะไรบางอย่างได้ ตอนนี้ฮ่องเต้และเซียวเฉวียนกําลังกล่าวเป็นนัยน์ๆว่า : “ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าเจอเจ้าแล้ว ส่วนจะฆ่าเมื่อใด ที่ไหน ข้าจะไม่บอกเจ้า”
ตอนนี้ค่ายของฮ่องเต้กําลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ
ค่อยๆเผยไพ่ไม้ตายออกมา
เว่ยเชียนชิวกล่าวว่า มันทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหก
ไอ้สารเลว!
หญ้าอสุรา!
เซียวเฉวียนหาพบที่ไหน? มีมากแค่ไหน?
ไม่น่าแปลกใจที่เว่ยเชียนชิวจะร้อนรนมากถึงเพียงนี้ เพราะหญ้าอสุรานั้นเป็นดั่งฝันร้าย
การพบหญ้าอสุราจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องบังเอิญ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชาวยุทธ์แท้ได้ออกไปปฏิบัติงานข้างนอก และเนื่องจากสถานที่ที่ไปนั้นรกร้างมาก ห่างไกลจากภูเขาและแม่น้ำ บริเวณรอบๆก็ไม่มีอะไรที่สามารถกินได้
โดยปกติเมื่อพบกับสถานการณ์นี้ ทุกคนต้องกินอาหารแห้งและขุดผักป่าเพื่อประทังชีวิต และครั้งนั้นก็เป็นเช่นนั้น
โดยไม่คาดคิด พวกเขาก็ได้กินหญ้าอสุราเข้าไป
หญ้าอสุราดูผิวเผินเหมือนหญ้าธรรมดา ซึ่งเป็นอาหารของวัวและแแกะในท้องถิ่น ดังนั้นความระมัดระวังของทุกคนจึงต่ำมาก
สิ่งที่สัตว์กินได้ไม่ควรเป็นอันตรายต่อผู้คนที่จะกิน
หลังจากที่พวกเขาเผลอกินมันเข้าไป ลําไส้ของพวกเขาก็เน่าเสีย ผิวหนังทั้งร่างกายก็แห้งเหี่ยวจนเหลือแต่กระดูก
นี่เป็นสิ่งที่น่าตกใจและน่ากลัวมาก
เว่ยเชียนชิวเองก็ตกใจมากเช่นกัน เมื่อได้ยินว่าหญ้านี้มีพิษต่อคนได้มากขนาดนี้
เขาจึงสั่งให้คนเก็บมันกลับมาและทําการทดลอง เพื่อที่จะกำจัดให้สูญพันธุ์
และเขาก็พบว่าหญ้าอสุราไม่ได้เป็นอันตรายมากนักกับคนธรรมดา
อีกทั้งวัวและแกะในท้องถิ่นกินเข้าไปก็ไม่ได้รับอันตรายเช่นกัน
แต่ถ้าชาวยุทธ์แท้หรือวัวและแกะต่างถิ่นกินมันเข้าไปจะต้องตายเป็นแน่!
ให้ตายสิ! หญ้านี้มันเป็นกับดัก!
เว่ยเชียนชิวดูเหมือนจะได้ยินหญ้าพวกนั้นกำลังจะด่าเขา : “เจ้าพวกชาวยุทธ์แท้และสัตว์ร้ายนั้นก็ไม่ได้ต่างกัน!”
เพียงเพราะการกินหญ้าอสุราโดยไม่ได้ตั้งใจ ชาวยุทธ์ครึ่งหนึ่งในรุ่นของเว่ยเชียนชิวที่ได้รับการฝึกฝนมาหลายปีก็ได้ตายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...