จวนเจี้ยนกั๋ว
ภาพของเซียวเฉวียนแขวนอยู่บนผนัง
ภาพถูกฟันและฉีกขาด เว่ยเชียนชิวกำลังขว้างมีดบิน ใบมีดตัดผ่านใบหน้าของเซียวเฉวียน เพื่อระบายความโกรธของเขา! ระบายความแค้นของเขา!
เว่ยเชียนชิวรู้สึกโกรธแค้นในระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนั้น
เดิมที คนของเขาได้ค้นหาทั่วทั้งเมืองหลวง แต่ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่พบหญ้าอสุรา พวกเขาไม่พบแม้แต่เส้นขนแม้แต่เส้นเดียว!
อารมณ์เสีย!
มันโคตรอารมณ์เสีย!
พวกเขาค้นหาศาลาคุนหวู่ด้วยซ้ำ และอี้กุยก็อนุญาตให้พวกเขาค้นหา แต่พวกเขาก็ยังไม่พบอะไรเลย!
“เจียนกั๋ว มีคนจากวังมาที่นี่ บอกว่าพวกเขามีพระราชกฤษฎีกา”
เว่ยเชียนชิวรู้สึกรำคาญแล้ว และหมาป่าดำก็เข้ามารายงาน
เขาโบกมือปฏิเสธ “ไม่อยากพบ!”
หมาป่าดำลังเลเล็กน้อย “แต่ขันทีบอกว่ามันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด”
“มันสำคัญขนาดไหน? มันสำคัญพอๆกับหญ้าอสุราที่คุกคามชีวิตของข้าหรือเปล่า?”
เว่ยเฉียนชิวตะคอกด้วยความโกรธ หมาป่าดำพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ขันทีบอกว่ามันสำคัญขนาดนั้น”
จริงหรือ?
ดวงตาของเว่ยเชียนชิวเบิกกว้าง
เป็นไปได้ไหมที่เซียวเฉวียนกำลังเล่นกลอุบายอีกครั้ง?
ถ้าเซียวเฉวียนไปที่ซินเจียง ก็ให้เขาไปที่ซินเจียง ทำไมต้องสร้างปัญหาให้เขาทุกวัน!
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เว่ยเชียนชิวจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินไปที่ประตูหลักอย่างหยิ่งผยอง มองดูขันที “พูดมา! มีอะไรสำคัญขนาดนั้น!”
“ถ้าเจียนกั๋วคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญและทำให้เวลาของข้าล่าช้า ข้าจะเฆี่ยนตีเจ้า!”
ขันทีเป็นคนของฮ่องเต้ ย่อมไม่กลัวเขา เขายิ้ม “ใต้เท้าเจียนกั๋ว ข้าเพียงมาที่นี่เพื่อส่งข้อความ ฮ่องเต้ตรัสว่า ปราณสีดำปรากฏขึ้นทางทิศตะวันตก ดูเหมือนจะเปลี่ยนจากปราณแห่งการสังหาร”
ฮะ?
ฟังไม่เข้าใจ?
“เรื่องไร้สาระแบบนี้! จะมาบอกข้าทำไม!” เว่ยเชียนชิวตะโกนอย่างเย็นชา “ลืมปราณสีดำและปราณแห่งสังหารไปได้เลย แม้ว่าสัตว์ประหลาดและปีศาจจะมา มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”
“แท้จริงแล้ว ใต้ท่านเจี้ยนกั๋วทรงฉลาดและกล้าหาญ เปี่ยมด้วยคุณธรรม ไม่มีสิ่งใดจะทำให้ท่านหวาดกลัวได้” ขันทียิ้ม “แต่มีข่าวลือแพร่สะพัดในหมู่คนทั่วไป และองค์ฮ่องเต้ทรงไม่สบายใจอย่างยิ่ง”
“ถ้าไม่สบายใจก็ควรขอชาผ่อนคลายจากหมอ! การมาบอกข้าก็ไม่มีประโยชน์!”
เว่ยเชียนชิวพบว่ามันแปลก คนพวกนี้พูดอ้อมค้อมตลอดว่าพวกเขาต้องการพูดอะไรกันแน่
ขันทียิ้ม โค้งคำนับ แล้วเดินจากไป
หมาป่าดำขมวดคิ้ว “ใต้เท้าเจียนกั๋ว ข้าจะไปตรวจสอบข่าวลือ"
“ไป ไป ข้าจะไปอาบน้ำ! น่ารำคาญ!”
ด้วยเหตุนี้ เว่ยเชียนชิวจึงเรียกสาวงามออกมาและกลับไปที่จวนอย่างไม่อดทนเพื่อเตรียมอาบน้ำกับสาวงาม
ตาข่ายขนาดใหญ่โฉบไปทางจวนของเจียนกั๋วอย่างเงียบ ๆ
...
...
เมืองอีหลิน ในซินเจียง
“……”
“……”
ความเงียบที่น่าอึดอัดแขวนอยู่ในอากาศ
ทหารของซินเจียงจ้องมองที่เซียวเฉวียน
คนทั่วไปก็จ้องมองที่เซียวเฉวียนเช่นกัน
ริบบิ้นสีในมือของพวกเขาหยุดโบก
ไม่มีการเสิร์ฟชานมอีกต่อไป
พวกเขาจ้องมองที่เซียวเฉวียนอย่างตั้งใจ
นี่คือราชบุตรเขยขององค์หญิงเหรอ?
สูงขนาดนั้นเลยเหรอ?
หุ่นดีมากเหรอ?
หล่อเหลามากเหรอ?
ไม่ใช่ว่าราชบุตรเขยขององค์หญิงเป็นคนเตี้ยเหรอ?
ยังเต็มไปด้วยรอยเปื้อนใช่ไหม?
หรือคนแห่งงานใหม่ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...