“ข้าเอง! ข้าเอง”
แม้ว่าทั่วร่างของเซียวเฉวียนจักเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งรังสีฆ่าฟันก็ตาม ทว่า ยามที่เขาอยู่ต่อหน้าองค์หญิงนั้น ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งการฆาตกรรมที่ท่วมท้นในหัวใจของเขา ฉากหน้าของเซียวเฉวียนก็ยังคงเจือปนไปด้วยความอ่อนหวานและความรู้สึกรักใคร่ห่วงใยที่มีให้เพียงองค์หญิงอยู่เสมอ
มีไว้แต่เพียงองค์หญิงเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ถึงแม้ว่าระยะเวลาที่เซียวเฉวียนและองค์หญิงจักใช้เวลาร่วมกันมิได้มีมากนัก
ทว่า เซียวเฉวียนมักจะรู้สึกประทับใจในตัวองค์หญิงผู้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนมาโดยตลอด
นางมักจะใช้สายตาเหม่อมองเขาด้วยความอ่อนโยน ทั้งยังคอยดูแลเรื่องราวภายในจวนเป็นอย่างดี
ทั้งยังมักจะร่ำไห้ออกมาง่าย ๆ ในยามที่เขาถูกผู้คนรังแก
ยามที่เขาถูกผู้อื่นกระทำอย่างไร้ความยุติธรรม นางก็มักจะร่ำไห้ออกมาเพื่อเขา
ในฐานะองค์หญิงผู้หนึ่งแล้วนั้น นางมีผู้คนให้เลือกมากมายหลายคนนัก แต่สุดท้ายนางกลับมาเลือกคนอย่างเขา
เห็นได้จากสีหน้าของเหล่าผู้คนภายในซินเจียงในวันนี้ เกรงว่าองค์หญิงคงได้รับสายตาแปลกๆ จากผู้คนมากมายในครั้งที่อยู่กับเขากระมัง
นางที่เกิดมาพร้อมกับสิ่งของล่ำค้ามากมายทั้งยังคู่ควรกับกิ่งทองใบหยกเช่นนี้ แต่นางหาได้เคยบ่นโอดครวญออกไปไม่
เซียวเฉวียนรู้ซึ้งถึงความยากลำบากทั้งหมดที่นางต้องเผชิญและทนทุกข์ทรมานจากการติดตามเซียวเฉวียนเป็นอย่างดี แต่พระนางก็ไม่เคยเอ่ยอันใดออกมาเลยสักครั้ง
“สีหน้าเจ้าดูแย่มาก เจ้ารู้สึกไม่สบายที่ใดหรือไม่?”
เซียวเฉวียนเอ่ยกระซิบถามด้วยความแผ่วเบา หากแต่องค์หญิงเพียงจ้องมองเซียวเฉวียนนิ่ง ๆ พลางกอดเขาเอาไว้ ทว่า เซียวเฉวียนที่กอบกุมมือของนางอยู่นั้น รับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าพลังงานในร่างกายของนางอ่อนแอยิ่งนัก
อาการนางแย่มาก
แต่นางมิเอ่ยอันใดออกมา
เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานบนใบหน้าของนางนั้น เซียวเฉวียนพลันรับรู้ได้ในทันทีว่า องค์หญิงเองก็รู้ดีว่าพระวรกายของนางมิสู้ดีนัก
“เหตุใดทเจ้าถึงมิบอกข้า?”
ภายในใจของเซียวเฉวียนรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ในยามที่เขาต้องไปมาหาสู่กับอาจื่อนั้น อาจื่อทั้งดื้อรั้นและเอาแต่ใจตนเองเป็นที่สุด เซียวเฉวียนหาได้รู้สึกผิดต่ออาจื่อสักนิดไม่ เพราะสตรีเช่นอาจื่อนั้นนับว่าเป็นสตรีที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นว่าองค์หญิงฉลาดเฉลียวและรู้ความเช่นนี้ ภายในใจของเซียวเฉวียนจึงรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ยามที่นางให้กำเนิดบุตรีแก่เขา เขามิได้อยู่แม้แต่ข้างกายของนางเสียด้วยซ้ำ เขาหาใช่สามีที่ดีต่อนางไม่
"มิเป็นอันใดเพคะ" องค์หญิงที่มองเห็นท่าทางรู้สึกผิดของเซียวเฉวียนนั้น จึงกล่าวออกมา "หม่อมฉันรู้ตัวดีว่า หากตนเองอยู่ที่ซินเจียงนั้นจึงจะปลอดภัย ท่านยังส่งคนมากมายพร้อมกับเซี่ยวเฟิงเพื่อมาปกป้องหม่อมฉันอีก"
“ในช่วงเวลาที่ใต้หล้ากำลังยากลำบากเช่นนี้ ทั้งท่านและข้ามิอาจทำอันใดได้อย่างใจอย่าง การคลอดบุตรคนหนึ่งให้ถือกำเนิดขึ้นมาหาใช่เรื่องใหญ่อันใดไม่” ใบหน้าขององค์หญิงยังคงงดงามเช่นเดิม ทั้งยังมีความนุ่มนวลอ่อนหวานมากกว่าเดิมอีกด้วย “ท่านดูสิ... มิใช่หม่อมฉันในยามนี้ ยังอยู่ดีกินดีหรือเพคะ แค่กแค่กแค่กแค่กแค่ก!”
องค์หญิงพลันไอออกมามิมีหยุด พร้อมก้มลงไปซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเซียวเฉวียน "ท่านมาหาข้าในวันนี้ ข้าก็พอใจมากแล้วเพคะ ข้าได้ยินมาว่า ตระกูลของเราเหลืออยู่ไม่เยอะแล้ว มีเพียงท่านกับข้าเท่านั้น ... "
“วันเวลาที่ผ่านมานั้น ท่านคงจะทุกข์และเศร้าใจไม่น้อย...”
องค์หญิงพลางเหม่อมองดูเซียวเฉวียนอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาอย่างแผ่วเบา ๆ
เรื่องการฆ่าล้างโคตรของตระกูลเซียวนั้น องค์หญิงรู้ข่าวมานานแล้ว
ในยามที่เกิดเหตุขึ้น องค์หญิงยังคงโวยวายร้องขอที่จะกลับไปยังต้าเว่ยมิมีหยุด ทว่า นางกลับถูกกักขังให้อยู่แต่ในห้องแห่งนี้ มิอาจไปที่ใดได้
แต่ในขณะเดียวกัน องค์หญิงต้าถงเองหาได้รู้ไม่ว่า ผู้ที่ลงมือทำเรื่องเลวร้ายกับตระกูลเซียวได้เช่นนี้คือพระเชษฐาของตนเององค์ชายหมิงเจ๋อ พระนางจึงเอ่ยปลอบใจเซียวเฉวียนอย่างนุ่มนวลแทน ทว่า สีหน้าของเซียวเฉวียนกลับมีท่าทีผิดแปลกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
“มีอะไรเหรอ? ท่านกำลังปิดบังอะไรจากขาอยู่กัน?”
องค์หญิงพลันจับมือของเซียวเฉวียนเอาไว้ด้วยฝ่ามืออันอบอุ่นของนาง องค์หญิงฉลาดเฉลียวยิ่งนัก หัวคิ้วที่ผูกเป็นปมของเซียวเฉวียนนั้น มิอาจปิดบังนางได้เลยแม้แต่น้อย "ท่านสืบเจออะไรงั้นหรือ? เป็นผู้ใดกัน ถึงได้ทำต่อตระกูลพวกเรา?"
ครอบครัวของเรา......
เซียวเฉวียนกลับกอบกุมมือองค์หญิงเอาไว้แทน นางหาได้รู้เรื่องอันใดไม่
เป็นหมิงเจ๋อที่มีความผิด
อีกทั้ง องค์หญิงต้าถงหาได้เคยยื่นมือเข้ามาก้าวก่ายเรื่องราวในราชสำนักไม่ นางเป็นผู้บริสุทธิ์ เซียวเฉวียนจึงตอบกลับเบา ๆ ว่า "เจ้ามิต้องกังวลไป เจ้ามีหน้าที่ต้องดูแลตนเองให้ดีเท่านั้น ข้าจักหาหมอที่ดีที่สุดมาช่วยรักษาเจ้า"
"ไม่......"
องค์หญิงต้าถงกลับส่ายหัวไปมา หากผู้ที่บุกเข้ามาทำลายตระกูลเซียวเป็นขุนนางในราชสำนักของต้าเว่ยละก็ เซียวเฉวียนจักต้องบอกนางแล้ว
“สามี...ผู้ที่ทำร้ายคนในตระกูลเซียว เป็นคนของซินเจียงงั้นหรือเพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...