ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 935

ไม่มีมิตรภาพระหว่างมนุษย์คนใดที่จะอยู่เป็นนิรันดร์ มีเพียงผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้นที่จะสามารถเป็นนิรันดร์ได้

ความสัมพันธ์ระหว่างองค์จักรพรรดิแห่งซินเจียงและเซียวเฉวียนนั้น นักปราชญ์คือเป้าหมายเดียวกันที่พวกเขากำลังมองหา

จึงทำให้พวกเขาทั้งสองคนสามารถมาจับมือร่วมกันได้เช่นนี้

แต่นอกเหนือจากเรื่องของนักปราชญ์ผู้นี้แล้ว ทั้งเซียวเฉวียนและฝ่าบาทถูกกำหนดให้อยู่ตรงกันข้ามอยางสิ้นเชิง

อย่างเช่น เซียวเฉวียนจะทำให้หมิงเจ๋อต้องชดใช้ด้วยเลือดและชีวิตของตนเองเช่นนี้

และฝ่าบาทจักต้องการให้โอรสของตนเองมีชีวิตอยู่ต่อ

ดังนั้น การที่เซียวเฉวียนยอมยั้งมือเพื่อเห็นแก่ฝ่าบาทเช่นนี้ ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน

สมญานามของนักปราชญ์นั้น แม้แต่ในซินเจียงเองก็หาใช่เป็นฉายาที่ดีไม่ ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ทำให้องค์รัชทายาทของแว่นแคว้นเขาหลงผิดไปหมดแล้ว

แต่หลังจากที่ทุกคนรวมตัวพากันตามหามาเนิ่นนาน ภายในซินเจียงเองก็หาได้ตามหาเขาพบไม่ เซียวเฉวียนก็มิได้ฝากความหวังไว้ที่ซินเจียงเพียงอย่างเดียว

เขาได้ขอให้ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้านำรูปเสมือนของนักปราชญ์เพื่อออกเดินทางตามหาเช่นกัน

ไม่ว่าอย่างไร ทั้งไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าทั้งสองคนนั้น แลจะดูเชื่อถือได้มากกว่าผู้คนจากซินเจียงและคุนหลุนเสียอีก

เนื่องจากเซียวเฉวียนเป็นนายของพวกเขา ในความคิดของพวกเขาแล้ว ภารกิจจักต้องจัดการให้สำเร็จจงได้

แม้ว่าพวกเขาจะตาย พวกเขาก็จะต้องบรรลุสิ่งที่เจ้านายต้องการให้จงได้

...

...

เมืองหลวงของซินเจียง

ภายในเรือนหลังเล็กๆ

พลันมีหญิงงามผู้หนึ่งกำลังนั่งมองกระจกอยู่ภายในห้อง พร้อมด้วยกล่องเครื่องประดับที่อยู่ตรงหน้าของนาง

เห็นได้ชัดว่า สตรีนางนี้กำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกสิ่งใด

นางพลันรู้สึกว่าเครื่องหัวคิดไม่ดี บ้างก็รู้สึกว่าปิ่นไม่สวย ทั้งยังมิชอบสีสันของต่างหูที่ดูเรียบง่ายเกินไปอีก ทั้งยังรู้สึกว่าแหวนและกำไลหยกหาได้ดีไม่

นางพยายามหยิบลองใส่อยู่หน้ากระจกเป็นเวลานานแล้ว ทว่า นางก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยพอใจตามเดิม

ท้ายที่สุดแล้ว นางรู้สึกรำคาญเสียจนโยนและพลิกกล่องใส่เครื่องประดับทิ้งไปในทันที "ข้าไม่ใส่มันแล้ว! วัน ๆ ล้วนแต่ยุ่งยากยิ่งนัก น่ารำคาญเสียจริง! ก็แค่งานจับคู่มิใช่หรือ! มีอะไรดีถึงต้องแต่งองค์ทรงเครื่องไปมากมายกัน!"

ใบหน้าของสตรีงามพลันแดงก่ำไปในทันทีด้วยความโมโห ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยท่าทีฉุนเฉียวแม้แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างกายก็มิกล้าเอ่ยอันใดออกมา

สตรีผู้นี้คงจะเป็นผู้สืบเชื้อสายของหมอเทวดาทองพันชั่งกระมัง

ต้นไม้หนาทึบที่อยู่ภายในตัวเรือนนั้น มีเซียวเฉวียนกำลังซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้มาเป็นเวลานานแล้ว

เขาลอบสังเกตอยู่นาน ตัวเรือนนี้ดูธรรมดายิ่งนัก คล้าย ๆ กับเรือนธรรมดาของเหล่าราษฎรที่ใช้อาศัยอยู่ทั่วไป หากมิกล่าว ย่อมมิมีผู้ใดล่วงรู้ว่านี่คือเรือนของหมอเทวดาพันชั่ง

แต่หลังจากที่เซียวเฉวียนลอบมองอยู่นานแล้วนั้น นอกจากสตรีผู้นั้นกำลังข้ารับใช้หญิง เขาก็มิพบเห็นผู้ใดอีก

หากว่ากันตามความคิดของเซียวเฉวียนแล้วนั้น ก่อนอื่นเขาจะลองเชื้อเชิญดี ๆ เสียก่อน หากเชิญแล้วยังมิสำเร็จ เมื่อนั้นเขาคงจะต้องใช้วิธีรุนแรงในการลักพาตัวไปแทน

ปัญหาก็คือ ท่านหมอเทวดาพันชั่งไม่อยู่ เซียวเฉวียนจักไปเชิญผู้ใดได้

ครานี้ ทำเอาเซียวเฉวียนมองไปทางอื่นในทันที

สตรีที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น หาไม่ใช่ใครอื่นไม่ นางคือท่านหมอเทวดาพันชั่งแม่นางมู่เวยนั่นเอง

ทว่า ในจินตนาการของเซียวเฉวียนนั้น ท่านหมอเทวดาพันชั่งย่อมต้องเป็นสตรีชรา มิเช่นนั้นคงไม่อาจคู่ควรกับคำว่า "พระหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์" ได้มิใช่หรือ?

แม่นางมู่เวยถูกเรียกว่าท่านหมอเทวดาตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นเป็นเพราะนางมีความสามารถเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเซียวเฉวียน พวกเขาต่างถือได้ว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทั้งหมด

ภายในตระกูลของนางนั้น รับหน้าที่เป็นหมอมาแล้วนับร้อยปี ทั้งยังมีตระกูลสาขาที่แยกย่อยออกไปอีก หากมีแม่นางคุณมู่เวยเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ถือได้เป็นท่านหมอเทวดาพันชั่งที่ปรากฏตัวขึ้น

แม่นางมู่เวยก็มีหน้าตาสละสลวยงดงาม ทั้งยังฉลาดเฉลียวเป็นกรด แต่นางอารมณ์ร้ายยิ่งนัก

แม้ว่าแม่นางมู่เวยจะอายุย่างเข้ายี่สิบปีแล้ว ในยุคโบราณย่อมถือว่าแม่นางมู่เวยเป็นสาวเทื้อ อีกทั้งในตระกูลของนางเองก็ยังคอยกระตุ้นให้นางออกไปงานสังสรรค์เพื่อพบกับบุรุษมากมายไม่มีหยุด ทำเอาแม่นางมู่เวยรู้สึกรำคาญใจยิ่งนัก

แม่นางมู่เวยที่เกิดมาฉลาดเฉลียวมากกว่าคนปกตินั้น พระนางย่อมรู้สึกว่าทุกคนในใต้หล้าโง่เง่าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหล่าบุรุษที่ไร้ความสามารถ พวกเขาย่อมมิมีทางคู่ควรกับนาง

ดังนั้น หลังจากที่ไปงานพบหน้ามาหลายครั้งหลายครา มันกลับทำให้นางไม่อยากแต่งงานอีกต่อไป

สตรีธรรมดาคนหนึ่ง หากโยนกล่องเครื่องประดับลงพื้นย่อมก่นด่าสาปแช่งเพียงไม่กี่คำก็พอแล้ว แต่แม่นางขี้โมโหผู้นี้ หลังจากที่นางก่นด่าไปได้ไม่นาน อารมณ์ของนางก็ยังมิอาจสงบลงไปได้ ทั้งยังรีบวิ่งไปที่ต้นไม้ที่เซียวเฉวียนหลบซ่อนตัวอยู่ ก่อนจะรัวไกปืนใส่ในทันที!

“ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง!”

นางยังถือปืนขึ้นมายิงอีก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย