ฝ่าบาทเพียงต้องการอยากจะเห็นว่าเซียวเฉวียนใส่ใจองค์หญิงมากเพียงใด
หากเซียวเฉวียนเอ่ยว่า เขาจะไปหาองค์หญิงในภายหลังนั้น ฝ่าบาทเองหาได้เอ่ยอันใดออกมาไม่
หากเซียวเฉวียนกล่าวว่าเขาไปเยี่ยมมาแล้วนั้น ฝ่าบาทย่อมรู้สึกว่าเซียวเฉวียนเป็นบุรุษที่ใส่ใจในบุตรีของเขาจริงๆ
ทว่า ไม่เพียงแต่เซียวเฉวียนไปที่นั่นมาแล้วเท่านั้น เขายังเอ่ยร้องขอออกมาอีกด้วยว่า "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ได้โปรดส่งหมอหลวงที่มีฝีมือดีที่สุดไปช่วยรักษาองค์หญิงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากว่าในซินเจียงมีหมอท่านใดที่มีความสามารถและชื่อเสียงมากพอ ข้าสามารถไปเชิญเขาด้วยตนเองได้พ่ะย่ะค่ะ"
องค์จักรพรรดิพึงพอใจกับคำตอบของเซียวเฉวียนมากนัก
หลังจากพอใจแล้ว ฝ่าบาทพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเศร้าโศกว่า "อาการป่วยขององค์หญิงนั้น แม้แต่หมอหลวงในวังก็ยังบอกว่า พวกเขามิสามารถทำอันใดได้มากไม่"
“ราชบุตรเขย หาใช่ว่าฉันในฐานะบิดาเช่นข้ามิยอมสนใจนางไม่ แต่เป็นเพราะมิมีผู้ใดแล้วจริงๆ...” รอบดวงตาของฝ่าบาทค่อย ๆ กลายเป็นสีแดงก่ำไปในทันที เขามักจะเข้มงวดกับบุตรชายของเขา แต่รักและทะนุถนอมบุตรียิ่งนัก..
“ในซินเจียงมิมีหมอเทวดาทองพันชั่งท่านใดที่ช่วยรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยให้กับสตรีเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เซียวเฉวียนรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก ดูเหมือนว่าทักษะทางการแพทย์ในซินเจียงหาได้ดีเท่าในคุนหลุนไม่
ในคุนหลุนยังมีเย่าเหล่าอยู่ด้วย
ทว่า เมื่อเย่าเหล่าจากไปแล้ว ทั้งยังเป็นเพราะถูกคนของหมิงเจ๋อสังหารอีก
เซียวเฉวียนครุ่นคิด พร้อมกับลอบกำหมัดในมือเอาไว้แน่น องค์จักรพรรดิแห่งซินเจียงเองจึงพยักหน้าลง "มี นับว่ามี ข้าได้ส่งคนไปเชื้อเชิญมาแล้วหลายครั้งหลายครา ทว่า นางมิยินยอมเลยแม้แต่น้อย"
ฝ่าบาทเองก็หาได้สามารถเปิดเผยตัวตนของตนเองออกมาได้ ถึงอย่างไรองค์หญิงในยามนี้กำลังถูกนำมาซ่อนตัวจากผู้คนในซินเจียงอยู่ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถทำให้ผู้คนภายนอกล่วงรู้เอาได้
ได้ยินมาว่าหมอเทวดาทองพันชั่งผู้นี้มีทักษะทางการแพทย์ที่โดดเด่นยิ่งนัก ทว่า ด้วยลักษณะนิสัยหยิ่งยโสโอหัง นางจะรักษาแค่ผู้ที่ตนอยากจะรักษาให้เท่านั้น
เมื่อเซียวเฉวียนได้ยินเช่นนั้น เขาพลันนึกขึ้นมาได้ในทันที นี่มิใช่เย่าเหล่าในร่างสตรีหรือนี่
เย่าเหล่าเองก็เป็นบุคคลที่ดื้อรั้นและหยิ่งยโสในตนเองเช่นกัน ทว่า เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง หากแต่ท่านหมอเทวดาทองพันชั่งนางนี่จักเป็นคนเช่นไรกัน?
“ฝ่าบาทช่วยเอ่ยนามและที่อยู่ของท่านหมอผู้นี้ด้วยเถิดขอรับ ข้าจักไปเรียนเชิญด้วยตนเอง”
เซียวเฉวียนโค้งกายทำความเคารพด้วยความจริงจัง ท่านหมอเทวดาท่านนี้หาเชิญได้เขาก็จะเชิญ มิเช่นนั้น หากเขาลักพาตัวมาได้เขาจะทำเช่นกัน
เมื่อฝ่าบาทเห็นท่าที่จริงจังและความจริงใจที่เซียวเฉวียนส่งออกมาแล้วนั้น พระองค์จึงเข้าไปกระซิบบอกที่อยู่ของหมอเทวดาผู้นั้นที่ข้างหูในทันที
หมอเทวดาทองพันชั่งผู้นี้อาศัยอยู่ในเรือนที่มิได้โดดเด่นมากนักในเมืองหลวง เซียวเฉวียนสามารถไปหาดูได้
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจักรีบไปเดี๋ยวนี้”
“หากเจ้าช่วยรักษาอาการบุตรีของข้าให้หายได้ละก็ ไม่ว่าเจ้าจะอยากได้สิ่งใด ข้าล้วนแต่สามารถทำให้เจ้าได้สมปรารถนาทุกอย่าง” ฝ่าบาทพลันกล่าวออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ มิรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เขาถึงเชื่อว่าเซียวเฉวียนจักสามารถทำได้สำเร็จ
“ฝ่าบาทตรัสออกมาไม่ผิดนัก ทว่า องค์หญิงคือพระชายากระหม่อม กระหม่อมย่อมทำทุกอย่างเพื่อนางพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมหาได้ต้องการสิ่งใดเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนหรือข้อแลกเปลี่ยนจากฝ่าบาทไม่”
เซียวเฉวียนพลันขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที นับว่าฝ่าบาทฉลาดเฉลียวมากนัก
เซียวเฉวียนกล่าวว่าตนเองมาเยือนที่ซินเจียงเพื่อต้องการฝึกฝน หากแต่ฝ่าบาททราบว่าเขามีเรื่องบางอย่างที่ต้องการจะมาขอร้อง พระองค์ถึงได้ยื่นข้อเสนอออกมาให้เขาเช่นนี้ นับว่าองค์จักรพรรดิแห่งซินเจียงเองก็เป็นบุคคลที่ตรงไปตรงมายิ่งนัก
เหตุใดบิดาเช่นนี้ ถึงได้ชุบเลี้ยงบุรุษเช่นองค์ชายหมิงเจ๋อออกมาได้กัน เกรงว่าที่องค์ชายหมิงเจ๋อเปลี่ยนแปลงไปได้มากเช่นนั้น เป็นเพราะตัวของเขาเองกระมัง?
เมื่อเห็นว่าองค์จักรพรรดิเป็นบิดาที่ดีเช่นนี้ อย่างน้อยความประทับใจครั้งแรกของเซียวเฉวียนที่มีต่อเขาก็ไม่เลวเลยทีเดียว
“ราชบุตรเขย ที่จริงแล้ว... เจิ้นมีเรื่องบางอย่างอยากจะเอ่ยถามเจ้าอยู่”
สีหน้าของฝ่าบาทพลันแปรเปลี่ยนไปเป็นกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย เกรงว่าปัญหานี้เอง เซียวเฉวียนก็น่าจะรู้เกี่ยวกับมันมาไม่น้อยเช่นกัน
“ฝ่าบาทเชิญกล่าวพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าได้พบกับบุตรชายของข้า องค์ชายหมิงเจ๋อ บ้างหรือไม่?”
ฝ่าบาทเอ่ยถามคำถามนี้ออกมาด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งน้ำเสียงที่อ่อนลง ราวกับเป็นกังวลว่าเซียวเฉวียนรู้แต่มิคิดที่จะเอ่ยปากบอกเขา
เซียวเฉวียนนิ่งเงียบไปในทันที
ไม่เพียงแค่เห็น..
แต่บุตรชายของท่านส่งคนมาทำลายตระกูลเซียวของข้า
บุตรชายของท่านเคยเป็นข้ารับใช้ของข้ามาก่อน
บุตรชายของท่านยังเดินทางกลับมาที่ซินเจียงพร้อมกับข้าอีกด้วย
...
...
เซียวเฉวียนนิ่งเงียบไป
เขากำลังชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในครานี้อยู่
ท้ายที่สุดแล้ว องค์ชายหมิงเจ๋อก็ยังเป็นองค์รัชทายาทและเป็นโอรสในของกษัตริย์ของแว่นแคว้นอยู่ดี
ปัญหาก็คือ เซียวเฉวียนหาได้เรียกร้องหรือข้อเสนอเงื่อนไขใดๆ ไม่
เขาเองจึงมิรู้ว่า เซียวเฉวียนต้องการอะไรจากเขาเช่นกัน
เซียวเฉวียนทำให้เขารู้สึกว่า เซียวเฉวียนถ่อมตัวยิ่งนัก แต่เกรงว่าจะเป็นแค่ในยามนี้เท่านั้นกระมัง
ก่อนเซียวเฉวียนจะได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ เซียวเฉวียนจะไม่มีทางได้ออกไปจากซินเจียงได้เป็นอันขาด
หากเซียวเฉวียนต้องการจะจากไปจริง ๆ ละก็ แคว้นต้าเว่ยที่อยู่เบื้องหลังของเซียวเฉวียนจักต้องขัดแย้งกับซินเจียงอย่างแน่นอน
ฝ่าบาทจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตามหาองค์ชายหมิงเจ๋อบุตรชายนอกกตัญญูของตนเองให้พบ เขาหวังว่าองค์ชายหมิงเจ๋อที่บ้า ๆ บอ จะไม่ไปยั่วยุเซียวเฉวียนเข้า
จากที่องค์จักรพรรดิล่วงรู้ว่า องค์ชายหมิงเจ๋อได้ส่งคนไปลงมือโจมตีเซียวเฉวียนไม่น้อยกว่าห้าคนแล้ว
ในใต้หล้ามีคนมีนามชื่อแซ่เดียวกันมากมายนัก ทว่า เดซียวเฉสียนผู้นั้นกลับเป็นปุถุชนคนธรรมดา หลังจากที่องค์ชายหมิงเจ๋อเป็นบ้าเป็นบอต้องการสังหารเซียวเฉวียนแล้ว กษัตริย์ก็โกรธโมโหมากจนถึงกับต้องกักขังเขาเอสไว้ในภูเขาจงหนานในทันที
แต่เซียวเฉวียนผู้นี้กลับแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งมีความสามารถ
มีความคิด
มีความอดทน
มีความยืดหยุ่นในตนเอง
เขายังเป็นถึงประมุขแห่งชิงหยวนอีกด้วย เป็นถึงราชครูแห่งต้าเว่ย คนผู้นี้หาได้ควรไปทำให้โกรธเคืองไม่
ฝ่าบาทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ชายหมิงเจ๋อจะไม่รุกรานเซียวเฉวียนผู้นี้
เห็นได้ชัดว่าองค์จักรพรรดิแห่งซินเจียงประเมินความสามารถของบุตรชายตนเองต่ำเกินไป องค์ชายหมิงเจ๋อไม่เพียงทำให้เซียวเฉวียนขุ่นเคืองใจเท่านั้น ทั้งยังทำเอาเซียวเฉวียนแทบจะอยากสังหารเขาให้ตายเสียด้วยซ้ำ
ทั้งยังเป็นความยุ่งเหยิงที่ไม่มีที่ให้หันหลังหรือถอยกลับอีกแล้ว
ที่องค์ชายหมิงเจ๋อยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะเซียวเฉวียนยังไม่พบกับนักปราชญ์
เซียวเฉวียนถึงได้ไว้ชีวิตเขาต่อไปเช่นนี้
หากนักปราชญ์ปรากฏตัวเมื่อใดแล้วละก็ องค์ชายหมิงเจ๋อคงมิมีโอกาสได้แม้แต่จะหายใจอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...