เป็นหลินเซียวที่กำลังหมุนรถเข็นตรงมาทางพวกเขา
“หลินเซียว?”
ฉินหว่านชิวเบิกตากว้าง สีหน้าเธอดูตกใจมากเมื่อเห็นหลินเซียว
เธอไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่
จ้าวเฉวียนเองก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทำไมไอ้ง่อยถึงมาที่นี่ได้?
เหล่าคนที่มุงดูอยู่นั้น บางคนรู้สึกสงสัยกับการมาของเขา บางคนก็ทำหน้าเหยียดหยามเขา
ยังไงซะหลินเซียวก็ถือเป็นคนมีชื่อเสียง มีผู้คนรู้จักมากมาย
ก็เป็นไอ้โง่บ้านตระกูลฉิน แห่งเมืองเจียงยังไงล่ะ
“นี่หลินเซียว ฉันขอเตือนนายไว้นะว่าทางที่ดีอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย”
สายตาจ้าวเฉวียนส่อแววเย้ยหยัน เขามองหลินเซียวอย่างวางอำนาจ
แต่ทว่าหลินเซียวไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ สายตาของเขามีเพียงฉินหว่านชิวเท่านั้น
เมื่อเห็นหลินเซียวเข็นรถเข็นมาทางตัวเอง ในใจของฉินหว่านชิวก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็เถอะ
“หว่านชิว พวกเราแค่หมั้นกันเท่านั้น ยังไม่ได้แต่งงาน ฉะนั้นคุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกความสุขของตัวเอง”
“ถ้าคุณชอบเขา ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของพวกคุณ”
แต่ถ้าคุณไม่ชอบเขา ในโลกนี้ก็ไม่มีใครกล้าบังคับคุณให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ”
หลินเซียวมองฉินหว่านชิว น้ำเสียงของเขาเด็ดเดี่ยวและจริงจัง
ฉินหว่านชิวนิ่งไป จ้าวเฉวียนขมวดคิ้ว
ผู้คนต่างพากันเสียงดังเกรียวกราว
พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าคนๆ นี้ ที่แท้ก็คือไอ้ง่อยว่าที่สามีของฉินหว่านชิว!
ฉินหว่านชิวมองหลินเซียวอยู่นาน ดวงตามีน้ำใสคลออยู่
เธอรับรู้ได้จากสายตาของหลินเซียวว่าเขาจริงใจและจริงจัง
“หลินเซียว นายพล่ามอะไรอยู่?”
“นายจะเอาอะไรไปปกป้องหว่านชิว? จะใช้ขาที่ไร้ประโยชน์หรือรถเข็นของนายดีล่ะ?”
จ้าวเฉวียนถามกลับ ทำเอาคนรอบๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ
“คุณค่าของคนอยู่ที่การประมาณตน”
“นี่หลินเซียว นายมีอะไรเทียบฉันได้บ้างล่ะ? ฉันดูเหมาะสมที่จะอยู่ข้างหว่านชิวมากกว่านายเสียอีก!”
เมื่อเขาพูดขึ้น คนมากมายต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
จ้าวเฉวียนที่ในตอนนี้สวมสูทหรูหราราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาว
แต่หลินเซียว ถึงแม้หน้าตาจะหล่อเหลาเพียงใด แต่เขากลับสวมเสื้อผ้าธรรมดาแถมยังนั่งอยู่บนรถเข็นอีก
ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกว่าจ้าวเฉวียนนั้นเหมาะสมกับฉินหว่านชิวมากกว่า
พวกเขาทั้งสองดูเหมือนคู่รักมากกว่าอีก!
“นายบอกฉันทีสิว่านายมีอะไรดี?”
จ้าวเฉวียนเมื่อเห็นว่าหลินเซียวเงียบไป จึงถามย้ำอีกครั้ง
“เขาไม่มีอะไรเลย และสู้คุณไม่ได้ด้วย
…แต่อย่างน้อยเขาก็มีฉัน”
ฉินหว่านชิวตอบทันที และเดินไปยืนข้างหลินเซียวเธอวางมือไว้บนรถเข็น
น้ำเสียงหนักแน่นและเด็ดขาด ทำเอาคนรอบๆ ตกใจไปตามๆ กัน
ทิ้งกุหลาบ เพื่อไปเข็นรถเข็นงั้นเหรอ?
ฉินหว่านชิวโง่หรือเปล่า?
หลินเซียวสะเทือนใจไม่ต่างกัน
“ขยะแบบนั้นฉันซื้อไม่ได้จริงๆ ถ้าให้หว่านชิวใช้ ก็ถือเป็นการลดราศีของเธอหมดสิ”
คำพูดของหลินเซียวทำเอาผู้คนตกตะลึง
เบนซ์ราคาสามล้านกว่ายังมีระดับไม่พอ?
ถ้าอย่างนั้นรถเข็นของนายมีระดับมากงั้นสิ?
จ้าวเฉวียนหัวเราะออกมา ไอ้หลินเซียวมันบ้าไปแล้วเหรอ?
“แต่ขยะที่นายพูดถึง นายยังไม่มีปัญญาซื้อเลย”
จ้าวเฉวียนมองไปทางฉินหว่านชิวก่อนจะพูดขึ้น “หว่านชิว แค่คุณพยักหน้าคุณก็จะสามารถทิ้งมอเตอร์ไซต์และขับเบนซ์ไปทำงานได้เลย”
“ฉันไม่ต้องการ…”
ฉินหว่านชิวไม่มองรถเบนซ์คันนั้นแม้แต่น้อย เธอเงยหน้าตอบเขาอย่างหนักแน่น
“ปิ๊บ ปิ๊บ !”
“บรื้น บรื้น บรื้น!”
ฉินหว่านชิวพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นมาจากทางไกล
เสียงที่มีเอกลักษณ์พุ่งทะยานเฉียดฟ้าแบบนั้น ช่างรื่นหูเสียจริง
“แม่เจ้าโว้ย! เฟอร์รารี 488… รถหรูราคาหลายสิบล้านเชียวนะ!”
“ราคาต่ำสุดที่ประกาศออกมาก็ตั้ง20.4 ล้านแหน่ะ แถมคันนี้ยังดูตกแต่งแบบครบครันอีกด้วย!”
“เฟอร์รารี 488 ชุดคาร์บอนรอบคันแบบนี้ ราคาทางการก็ 22.5 ล้านบาท นี่สิรถหรูของจริง!”
ท่ามกลางความตกใจของผู้คนโดยรอบ เฟอร์รารี่ 488 สีแดงเพลิงคันหนึ่งก็มาถึง
รถสีแดงสดราวกับเปลวไฟในกองเพลิง ทำเอาทุกคนต่างช็อคไปตามๆ กัน
“คุณหลิน ในที่สุดก็หาคุณเจอ”
ชายวัยกลางคนก้าวลงมาจากรถด้วยสีหน้าเคารพนบน้อม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดาบพิทักษ์แผ่นดิน
รบกวนอัพเดทเรื่องนี้ให้หน่อยครัย...