ดาบพิทักษ์แผ่นดิน นิยาย บท 4

“ที่จริงฉันก็เหนื่อยมากแล้วนะ”

“เพราะพวกเราเป็นแค่คู่หมั้น ไม่ได้แต่งงานกัน ตระกูลฉินของฉันจึงไม่อยากให้คุณอยู่”

“สองปีมานี้ ฉันแบกรับภาระของตระกูลฉินมากมาย และฉันก็ถูกวิจารณ์เพราะคุณหนักมากด้วย”

ฟังมาถึงจุดนี้ หลินเซียวก็กระพริบตาปริบๆ หัวใจที่ด้านชามานานก็มีความอบอุ่นเล็กน้อย

หลี่ฉงกวง พ่อบุญธรรมเคยบอกเขาว่า เมื่อลูกอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ท่ามกลางคนประจบสอพลอและเสแสร้งก็ยังจะมีคนจริงใจด้วยแน่

ทว่าตอนลูกตกอับแล้วยังมีคนเคียงข้าง แสดงว่าคนนั้นจริงใจกับลูกมากๆแน่

และ ณ เวลานี้หลินเซียวอ่อนแอ กลายเป็นคนขาพิการและสมองทึบแล้ว

แต่ฉินหว่านชิวยังดีต่อเขาขนาดนี้ ซึ่งเรียกว่าไม่ง่ายเสียเลย

เดิมทีหลินเซียวคิดว่าตัวเองหายดีแล้ว ถึงเวลาออกจากบ้านตระกูลฉินเสียที

ทว่าเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหว่านชิวเอื้อนเอ่ย เขาก็เปลี่ยนความคิดใหม่โดยพลัน

วิถีชีวิตของหลินเซียวคือ ความแค้นต้องชำระ บุญคุณต้องตอบแทน

หากจะออกไปก็ต้องตอบแทนน้ำใจของฉินหว่านชิวก่อน

“อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย ฉันแค่ต้องการคนที่มาร่วมแบกรับภาระของครอบครัวด้วยกัน”

“ฉันอยากมีคนไปเดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อน และสามารถปกป้องฉันได้”

ฉินหว่านชิวสูดจมูก จากนั้นก็เอาหัวไปพิงตักของหลินเซียว

นางไม่ค่อยหมดอาลัยตายอยากแบบนี้บ่อยนัก แต่วันนี้เธอควบคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอต้องการระบายความทุกข์ใจ

“ซัวะ!”

เวลานี้นี่เอง ฉินหว่านชิวรู้สึกว่าฝ่ามือตัวเองมีคนมาจับขึ้นไป

ฉินหว่านชิวเงยหน้ากะทันหัน จากนั้นก็ประสานสายตาอันแน่วแน่ของหลินเซียว

วินาทีนี้ไม่รู้ว่าฉินหว่านชิวเป็นอะไร หัวใจเธอเต้นรัวแรงมาก

“ชีวิตต่อจากนี้ แม้โลกจะแตกสลาย...”

“แต่ฉินหว่านชิว คุณจะเป็นหนึ่งเดียวของผมตลอดไป”

ถ้อยคำที่ได้ยินกะทันหัน ทำให้ฉินหว่านชิวช็อกเหมือนสมองเกิดเสียงดังโครมๆ

ผ่านไปสักพัก ฉินหว่านชิวก็สะบัดมือหลินเซียวทิ้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน

เวลานี้ฉินหว่านชิวรู้สึกตกตะลึงและอับอายยิ่ง

ตกตะลึงเพราะสติปัญญาของหลินเซียวกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

และสาเหตุที่เขินอายเพราะเธอได้พูดความในใจต่อหน้าหลินเซียวไปมากมาย

“คุณหายดีแล้ว ทำไมคุณถึงหลอกฉัน คุณ...”

ฉินหว่านชิวสบตาหลินเซียวด้วยความขวยเขิน

“ผมไม่ได้หลอกคุณ ผมพึ่งหายดี”

หลินเซียวมองฉินหว่านชิว พลางพูดด้วยน้ำใจจริงใจเหลือแสน

“คุณ...คุณหลอกฉันนั่นแหละ”

เวลานี้ฉินหว่านชิวรู้สึกว้าวุ่นใจยิ่ง และรู้สึกอายกับคำพูดเมื่อครู่ด้วย ดังนั้นจึงส่งเสียงฮึดฮัดแล้วเดินเข้าห้องไป

หลินเซียวนั่งมองแสงแดดอันร้อนระอุบนเก้าอี้รถเข็น มุมปากก็เผยรอยยิ้มขึ้นมา

สมองที่ใช้การไม่ได้สองปี และเป็นคนขาพิการสองปี

แต่เธอกลับดูแลเขา ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งเขาตลอดสองปี

เขาคือผู้บัญชาการทหารในสนามรบ เวลาจับศึกชิงชัยก็ไม่มีใครเทียบเทียม

ทว่าลูกผู้ชายอกสามศอกเช่นเขาก็เป็นคนอ่อนโยนได้เหมือนกัน

สิ่งดีๆที่เธอมอบให้ เขาจะทะนุถนอมไว้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่

“เอาไป อันนี้เป็นของของคุณ”

ผ่านไปสักพัก ฉินหว่านชิวก็กลับมาพร้อมกับโยนกล่องใบหนึ่งให้หลินเซียว

“คุณทุ่มเทเพื่อผมแบบนี้ ผมจะไม่ให้คุณทำฟรีๆแน่”

“คุณบอกว่าพวกเราแค่หมั้นกัน ถ้าไปเป็นได้ ผมอยากจัดงานวิวาห์อย่างอลังการให้คุณ”

หลินเซียวรับกล่องมาแล้วก็มองฉินหว่านชิวด้วยใบหน้าจริงจังขึงขัง

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดาบพิทักษ์แผ่นดิน