เข้าสู่ระบบผ่าน

ดาบพิทักษ์แผ่นดิน นิยาย บท 5

“หลินเซียวคนนี้ก็แซ่หลิน จะเกี่ยวข้องกับคนที่พูดถึงไหมครับ?”

หวางเฟิ่งได้ยินจ้าวเฉวียนสงสัยเช่นนี้ก็หัวเราะร่า ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความดูหมิ่น

“ถ้าหลินเซียวมีสายสัมพันธ์กับคนแบบนั้นจริง หวางเฟิ่งอย่างน้าจะคุกเข่าขอเขาเป็นลูกเขยตระกูลฉินเลย”

ใบหน้าหวางเฟิ่งมีแต่ความดูแคลน น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความแดกดัน

“แล้วตกลงเขามียศอะไรในค่ายทหารครับ? ผมรู้สึกเขาไม่ธรรมดาเลย”

จ้าวเฉวียนคือคุณชายใหญ่ของตระกูลจ้าว จึงมองการณ์ไกลกว่าหวางเฟิ่งเล็กน้อย

“ยศอะไรงั้นหรือ? ยศชิงหมาเกิดไง”

“ถ้าเป็นผู้บังคับหมู่ เวลาเกษียณก็ได้รับเงินแค่แสนกว่าเท่านั้นเอง”

“แต่เขากลับไม่มีอะไรไง มีเพียงเสื้อบ้าบอกับกระบี่ห่วยๆ แล้วยังมีกล่องเน่าๆอีกใบ บัตรเอทีเอ็มด้านในก็ไม่มีเงินด้วย”

“น้ายังเห็นด้านในมีกล่องเข็มด้วยนะ หากคิดดูแล้วเขาน่าจะเป็นช่างเย็บผ้าในค่ายทหารหรือเปล่า?”

“แล้วนายว่าเขาจะเป็นอะไรได้อีก?”

หวางเฟิ่งพูดออกมาเช่นนี้ ตอนแรกจ้าวเฉวียนก็อึ้ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังคึกคัก

“ใช่ ถึงจะเป็นทหารยศต่ำแค่ไหน ก็ต้องมีเงินเกษียณสิครับ”

“แต่เขาไม่มีอะไรเลย ข้าคิดว่าน่าจะเป็นคนเลี้ยงหมูนะครับ เมื่อกี้ผมคิดมากไปเองแหละครับ”

จ้าวเฉวียนรู้สึกวางใจแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น

“นายวางใจเถอะ ถึงตอนนี้สมองเขาจะหายดี แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

“น้าจะหาวิธีไล่เขาออกไป จากนั้นนายก็มาสู่ขอที่บ้านตระกูลฉิน”

หวางเฟิ่งมองจ้าวเฉวียนปราดหนึ่ง พลางลั่นสิ่งที่จ้าวเฉวียนปรารถนาอยากทำที่สุดออกมา

“ครับ ครับ”

จ้าวเฉวียนถูมือถามด้วยความดีใจ “แล้วต่อจากนี้พวกเราทำยังไงดีครับ?”

“หว่านชิวกับเขาแค่หมั้นหมายกัน ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่ได้เป็นสามีภรรยาทางพฤตินัยด้วย”

“ตอนนั้นหว่านชิวยอมรับเขาแล้วปฏิเสธผู้ชายอื่นมากมาย ก็เพราะความสงสาร ตอนนี้เขาหายดีแล้ว จึงอยู่บ้านตระกูลฉินต่อไม่ได้อีก”

“อีกสองวันก็จะถึงวันคล้ายวันเกิดของคุณหญิงฉิน น้าจะเสนอเรื่องนี้ต่อหน้าแขกทุกคนในงาน ถึงเวลานั้นหว่านชิวจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ก็ต้องตอบตกลงอย่างเดียว”

หวางเฟิ่งส่งเสียงพูดอย่างมั่นใจ

“ครับ งั้นผมจะรอฟังข่าวดีจากน้าหวางนะครับ”

จ้าวเฉวียนถูฝ่ามือ ใบหน้าเปรี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

หวางเฟิ่งพอใจในตัวจ้าวเฉวียนยิ่ง

เพราะตระกูลจ้าวของจ้าวเฉวียนมีชื่อเสียงเรียงนามในเมืองเจียงมาก

หากเกาะบารมีของตระกูลจ้าวได้ ตระกูลฉินก็จะกลับมามีหน้ามีตาอีกครั้ง

และหวางเฟิ่งอย่างเธอก็จะเป็นคนที่สร้างผลงานใหญ่สุดของตระกูลฉิน

……

สองวันต่อมา

ณ โรงแรมมังกรรุ่งโรจน์ ของเมืองเจียง

“ขอสวรรค์คุ้มครองให้ตระกูลฉินเจริญรุ่งเรืองไปนานๆด้วยเถอะ”

ด้านในห้องวีไอพีสุดหรู คนตระกูลฉินต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

วันนี้เป็นวันฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณหญิงฉิน ไม่ว่าจะเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ในตระกูลฉินล้วนมาร่วมงานเลี้ยงงานวันเกิดทั้งสิ้น

และไม่ใช่แค่ญาติพี่น้องของตระกูลฉินที่มาร่วมงานเท่านั้น ยังมีเจ้าคนนายคนในเมืองเจียงมาร่วมงานด้วย

ถึงแม้หลังจากที่ฉินลี่สยงตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็เริ่มตกอับ และกลายเป็นตระกูลชั้นชนต่ำในที่สุด

ทว่าอย่างไรเสียก็ยังเคยเป็นตระกูลสูงศักดิ์ ย่อมมีคนให้เกียรติอยู่แล้ว

เวลานี้คุณหญิงฉินนั่งกลางโต๊ะ และโต๊ะด้านข้างก็มีแขกนั่งเต็มกันหมด

“ฉันเพิ่งเห็นว่าเธอเข็นไอ้โง่เข้ามาด้วยหรือ?”

คนตระกูลฉินเหมือนเพิ่งเห็นหลินเซียวอย่างไรอย่างนั้น พากันถามด้วยสีหน้าแปลกใจ

“วันนี้คนในบ้านมาฉลองวันเกิดคุณย่ากันหมด เขาอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีคนเอาข้าวให้กิน”

ใบหน้าฉินหว่านชิวแดงเล็กน้อย เวลานี้เธอไม่รู้จะนั่งหรือยืนดี ราวกับตกเป็นตัวตลกของทุกคนในงานซะแล้ว

“ลูกเพี้ยนหรือเปล่า?”

หวางเฟิ่งลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมากระซิบถามฉินหว่านชิว

“ลูกคิดว่าบ้านเรายังขายหน้าไม่พอหรือไง? ยังกล้าพาเขามาอีก?”

“วันนี้เป็นวันเกิดของคุณย่า มีผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองเจียงอยู่ด้วย ลูกคิดจะทำอะไรเนี่ย?”

หวางเฟิ่งตำหนิติเตียนฉินหว่านชิวเสียงเบา

หลินเซียวนั่งบนวีลแชร์แล้วเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

คนรอบกายเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อยเด็กใหญ่ของตระกูลฉิน หรือจะเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองเจียง...

ล้วนมองฉินหว่านชิวกับหลินเซียวด้วยแววตาดูถูกกันหมด

“คิกๆ แม่ง โง่นี่ว่ะ”

ฉินซิงอวี่เบะปากแล้วพูดหยามเหยียด

จากนั้นก็เกิดเสียงหัวเราะเยาะจากหลายโต๊ะ

หวางเฟิ่งยิ่งหน้าแดงกว่าเก่า ส่วนฉินหว่านชิวก็เสมือนเรือโดดๆที่เจอฟ้าฝนกระหน่ำ เจอมรสุมถล่มอย่างหนัก

“ตระกูลฉินเคยเป็นตระกูลชนชั้นสูงในเมืองเจียงมาก่อน”

“ตอนนี้กลายเป็นชนชั้นต่ำ ที่แท้ก็มีสาเหตุนี่เอง”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเนิบๆดังขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดาบพิทักษ์แผ่นดิน