จ้าวเฉวียนได้ยินดังนั้นจึงก้มตัวลงช้าๆ และมองหลินเซียวตั้งแต่หัวจรดเท้า
จากนั้นก็พูดให้ได้ยินกันแค่สองคน “ฉันเอามา แล้วนายจะทำอะไรได้เหรอ?”
“นายคิดว่า ฉันจะอยากได้ชุดอะไรนั่นของนายเหรอ? แต่แค่ มีคำกล่าวที่ว่า นารีก็เหมือนอาภรณ์…”
“ฉันใส่เสื้อผ้าของนาย นายต้องเข้าใจแน่ๆ…ว่าฉันหมายความว่าอะไรใช่ไหม?”
เมื่อจ้าวเฉวียนพูดถึงตรงนี้ก็ยืดตัวขึ้นทันที เขากลัวว่าหลินเซียวจะฟาดหน้าเขาเข้าให้อีก
ดวงตาหลินเซียวฉายแววเย็นเยียบแวบหนึ่ง เขาได้ตัดสินโทษประหารให้กับจ้าวเฉวียนเอาไว้ใจเรียบร้อยแล้ว
“คุณหญิง ของขวัญชิ้นนี้ผมให้คุณหญิงครับ”
จ้าวเฉวียนค่อยๆ วางหยกมงคลเกรดดีชิ้นนั้นลงตรงหน้าคุณหญิงฉิน
มันถูกห่อมาอย่างประณีตและดูเลอค่า
เมื่อคุณหญิงฉินเห็นมันแล้วก็ชอบมาก
“คุณชายจ้าวช่างมีน้ำใจจริงๆ!”
คุณหญิงฉินยิ้มน้อยๆ และรู้สึกพอใจอย่างยิ่ง
นี่แหละ ความแตกต่าง!
“โอ๊ะ ก่อนหน้านี้หลินเซียวเขาปัญญาอ่อนก็ทีหนึ่งแล้ว”
“ตอนนี้เขาฟื้นคืนสติแล้ว งานวันเกิดของคุณหญิง เขาก็ไม่ได้ให้อะไรเหรอ?”
จ้าวเฉวียนหันไปมองแวบหนึ่งและจงใจถามขึ้น
“พี่เฉวียน นี่ไงฮะ นี่เป็นของที่ไอ้ปัญญาอ่อนหลินเขาให้น่ะ”
ฉินซิงอวี่ยกมือขึ้นเล็กน้อยและโบกเม็ดยาสีน้ำตาลในมือเม็ดนั้นไปมา
“นี่คืออะไรเหรอ?”
จ้าวเฉวียนรับไปดู จากนั้นก็มุ่นคิ้วถาม
“ของที่ไอ้ปัญญาอ่อนหลินเซียวให้น่ะ บอกว่าเป็นยาอายุวัฒนะอะไรสักอย่าง ยังบอกว่ารักษาได้สารพัดโรค ทำให้กลับมาแข็งได้ด้วยนะ”
ฉินซิงอวี่หัวเราะร่าและพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
จ้าวเฉวียนชะงักไป จากนั้นก็แสร้งทำเป็นเอามันมาดมที่จมูก แต่ในวินาทีต่อมาเขาก็โยนมันลงบนพื้นและซ้ำด้วยการยกเท้าขึ้นมาเหยียบ
เมื่อหลินเซียวเห็นดังนั้น มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มเหยียดหยันขึ้นแวบหนึ่ง
“หลินเซียว”
ฉินหว่านชิวกัดฟันกรอดและกดไหล่ของหลินเซียวไว้เบาๆ
“ฮู่ว!”
หลินเซียวค่อยๆ ผ่อนคลายตัวเองช้าๆ และยังคงนิ่งเงียบต่อไป
“คุณหญิง นี่มันไม่ใช่ยาอายุวัฒนะอะไรหรอกครับ”
“รักษาโรคได้ไหมผมไม่รู้หรอก แต่ถ้าทานเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า อาจจะเกิดเรื่องได้นะครับ!”
จ้าวเฉวียนยิ้มเยาะอยู่ในใจ แต่ใบหน้ากลับฉายแววจริงจังอยู่เหมือนเดิม
“ฮึ่ย! ไอ้หลินเซียวนี่ คิดจะวางยาคุณหญิงเหรอ?”
“ธุรกิจของตระกูลคุณชายจ้าวมีธุรกิจเกี่ยวกับยาด้วย ที่เขาพูดต้องจริงแน่ๆ เลย”
“หลินเซียว แกมันคนอกตัญญู แกคิดจะฆ่าย่าเหรอ?”
คำพูดไม่กี่คำของจ้าวเฉวียนทำให้หลินเซียวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างโหดร้ายอีกครั้ง
“ยาอายุวัฒนะนี่ มีแค่เม็ดเดียว”
หลินเซียวเงยหน้าขึ้นช้าๆ เขามองไปที่ทุกคนและเอ่ยขึ้น
“หมายความว่าไง?”
จ้าวเฉวียนยิ้มเยาะ จากนั้นก็มองไปที่หลินเซียวและถามเขา
หลินเซียวส่ายหน้าช้าๆ เขาไม่อยากอธิบายอะไรมาก
“ฉินหว่านชิว สองปีก่อนเธอถึงขั้นตัดญาติขาดมิตรกับย่า เพราะจะเก็บไอ้ปัญญาอ่อนนี่ไว้!”
“ตอนนี้ไอ้คนอกตัญญูนี่คิดจะฆ่าย่า พวกเธอมีเจตนาไม่ดีอะไร?”
ฉินเฟยก้าวเข้ามาข้างหน้าและด่าฉินหว่านชิวทันที
“ฉัน…”
ฉินหว่านชิวเงียบ
เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าหลินเซียวเอายาอายุวัฒนะอะไรนั่นมาจากไหน!
แล้วเธอก็คิดไม่ถึงด้วยว่าพอหลินเซียวฟื้นคืนสติแล้ว เขาจะทำให้ตัวเองถูกคนอื่นเพ่งเล็งมากกว่าตอนก่อนหน้าที่เขายังไม่ได้สติดี
“เขามันคนปัญญาอ่อน ทำเรื่องวุ่นวายก็ทีหนึ่งแล้ว แกยังจะก่อเรื่องไปกับเขาอีกคนเหรอ?”
“หว่านชิว แกทำให้ฉันผิดหวังในตัวแกมาก!”
คุณหญิงฉินมองฉินหว่านชิวและครางในลำคออย่างไม่พอใจ
ในตอนนั้นเอง ทั้งฉินหว่านชิวและหลินเซียวก็กลายเป็นเป้ารุมประณามของทุกคนอีกครั้ง
“ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกเธอ พวกเธอไปซะ”
ฉินเฟยยกมือขึ้นกอดอกและบอกกับฉินหว่านชิว
คุณหญิงฉินและทุกคนในตระกูลฉิน ไม่มีใครช่วยออกหน้าให้ฉินหว่านชิวเลยสักคน
“ย่าคะ ย่าอย่าโกรธไปเลยค่ะ เรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรกันแน่ๆ”
“รอให้หนูตรวจสอบให้ชัดเจนแล้ว หนูค่อยมาอธิบายให้ย่าฟังนะคะ”
ฉินหว่านชิวถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็เข็นหลินเซียวออกไปทางประตูช้าๆ
เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคนในครอบครัวของตัวเอง แต่กลับถูกไล่ออกมาต่อหน้าทุกคน…
ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ในใจฉินหว่านชิวคิดอะไรอยู่และน้อยเนื้อต่ำใจมากแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดาบพิทักษ์แผ่นดิน
รบกวนอัพเดทเรื่องนี้ให้หน่อยครัย...