ซือกงวู่ฉิงและซือกงวู่เปิ่นที่อยู่นอกห้องลับ ก็สังเกตเห็นว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาเช่นกัน ทั้งคู่ต่างก็ลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมทันที
ซือกงวู่เปิ่นดูเหมือนจะไม่สนใจคนผู้นี้มากนักเขายืนยืดเส้นยืดสายอย่างสบายใจ แล้วจึงถามขึ้นว่า
“ท่านพ่อ..แล้วที่นี่ล่ะ”
ซือกงถูยิ้มเย็นพร้อมกับตอบไปว่า“ไม่ต้องห่วง.. ต่อให้มันอยากตายก็ตายไม่ได้! ไว้ข้าจะกลับมาจัดการกับมันเอง!”
ภายในบ้านหลังนี้ยังมีราชันย์นักฆ่าอีกแปดคนและนักฆ่าระดับสวรรค์อีกมากกว่าร้อย ซือกงถูจึงไม่ได้รู้สึกกังวลว่าจะมีใครกล้าบุกมาช่วยหลิงเสี่ยว!
……
“นั่นใคร!”’
นักฆ่าในขั้นเซียงเทียน-2สองคนพบร่องรอยการบุกรุกของจินเหยียวแต่เพียงแค่เอ่ยปากถาม ทั้งคู่ก็ถูกจินเหยียวซัดฝ่ามือเข้าใส่จนตายคาที่!
“จินเหยียว..คืนนี้ข้าจะสังหารเจ้าเอง!”
ซือกงถูโกรธมาก..เขาร้องคำรามออกมาอย่างโมโห จากนั้นร่างสูงผอมก็กระโจนออกไปอย่างรวดเร็วราวกับหมอกดำ และมุ่งหน้าไปยังที่ที่จินเหยียวอยู่ทันที!
“พี่ใหญ่..ไปฆ่าคนเล่นกันดีกว่า!”
ซือกงวู่เปิ่นร้องออกมาด้วยแววตาเป็นประกายและรีบกระโดดตามซือกงถูไปทันที..
“สวรรค์มีแต่เจ้ากลับไม่ไป!”
ดวงตาทั้งคู่ของซือกงวู่ฉิงเป็นประกายด้วยความสนุกสนานเช่นกันเขารีบกระโดดตามซือกงถูกับซือกงวู่เปิ่นไปทันที และสามารถรุดหน้าไปได้เร็วกว่าซือกงวู่เปิ่นที่ล่วงหน้าไปก่อนเสียอีก!
จินเหยียวสังหารนักฆ่าระดับสวรรค์ไปได้สองคนซือกงถูก็รีบตามออกมา นางเห็นซือกงถูพร้อมด้วยยอดฝีมืออีกสองคน ในเมื่อนางเองก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้กับผู้ใด นางจึงรีบหันหลัง และหลบหนีไปทันที!
“เจ้าคนถ่อยชั่วช้า!”
ซือกงถูได้ฟังคำพูดดูถูกเหยียดหยันของจินเหยียวเขาก็ใช้วิชาตัวเบาไล่ตามนางไปอย่างสุดกำลังด้วยความโมโห!
“พี่ใหญ่..ด้านหน้าเป็นหน้าผา พวกเราเข้าไปปิดกั้นทางหนีทั้งสองข้างไว้ อย่าให้นางหนีไปได้!”
“ได้..ข้าไปทางซ้าย ส่วนเจ้าไปทางขวา!”
แม้ว่าซือกงวู่เปิ่นกับซือกงวู่ฉิงจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่แต่ทั้งคู่ก็มาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องต่างๆอยู่บ่อยๆ จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับภูมิประเทศในแถบนี้ดี..
การหนีของจินเหยียวนั้นได้พาสามพ่อลูกให้ถอยห่างออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปมากขึ้นเรื่อยๆ
……….
“ดูเหมือนข้างล่างจะมีคนกำลังต่อสู้กัน!” ในเวลานั้น..หลิงหยุนที่เพิ่งบินผ่านยอดเขาสูงมามากมาย และเพิ่งจะมาถึงตีนเขาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขาหยุนเมิ่ง
เวลานี้เป็นเวลาเกือบตีสามและเป็นช่วงที่มืดที่สุดก่อนที่จะเข้าสู่รุ่งสางของวันต่อไป ภายในป่าทึบแห่งนี้จึงทั้งมืดสนิท และเงียบสงัด ตามหุบเขาต่างก็ไร้ซึ่งผู้คน แต่กลับมีเสียงคนกำลังต่อสู้กันดังมาแต่ไกล
หลิงหยุนซึ่งอยู่บนแผ่นหลังของมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดได้ยินเสียงจึงรีบใช้จิตหยั่งรู้ขั้นสุดของตนเองสำรวจดูทันที!
หลิงหยุนพบคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ในป่าหนาทึบอีกทั้งยังมีเสียงต่อสู้ดังออกมาเช่นนี้ เขาจึงยิ่งมั่นใจว่าที่นี่คือที่ที่หลิงเสี่ยวถูกนำตัวมาขังไว้..
“นักพรตน้อย..การทำนายของเจ้าช่างแม่นยำนัก!”
หลิงหยุนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรีบสั่งมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดทันที “ข้าพบบ้านหลังหนึ่งแล้ว มันอยู่ที่ป่าทึบด้านล่างตรงนั้น เจ้าค่อยๆ ร่อนลงช้าๆ อย่าให้ผู้ใดสังเกตเห็นได้!”
มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดพยักหน้าและมองไปยังทิศทางที่บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ จากนั้นจึงค่อยๆร่อนลงบนยอดเขาสูงอย่างเงียบเชียบที่สุด และร่อนลงในบริเวณยอดไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนั้น
หลิงหยุนมาที่นี่เพื่อช่วยคน..ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้ และการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่นี่ไปมาก ทำให้หลิงหยุนนึกขอบคุณอยู่ในใจ
หลิงหยุนไม่สนใจสิ่งใดนอกจากต้องการที่จะหาหลิงเสี่ยวให้พบ และช่วยเขาออกมาให้ได้ก่อน!
ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีภูเขาขวางกั้นตลอดแนวมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดเองก็ค่อยๆ ร่อนลงอย่างช้าๆ และเข้าใกล้บ้านหลังนั้นทีละเล็กทีละน้อย
สี่กิโลเมตรสามกิโลเมตร สองกิโลเมตร หนึ่งกิโลเมตร..
หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้ไว้ขั้นสุดและในไม่ช้าบ้านหลังนั้นก็ได้เข้ามาปรากฏอยู่ในรัศมีจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุน!
“แย่แล้ว..ข้างในมียอดฝีมืออยู่มากมายจริงๆ!”
ในระยะหนึ่งพันเมตรนี้จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนสามารถจับภาพต่างๆ ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ และทุกการเคลื่อนไหว..
มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดเกรงว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้จึงบินร่อนลงอย่างช้าที่สุด และกระพือปีกให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเข้าใกล้กับตำแหน่งเป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้คฤหาสน์ทั้งหลังได้ตกอยู่ในรัศมีการรับรู้ของหลิงหยุนอย่างชัดเจนและในนาทีต่อมา ตาของหลิงหยุนก็แทบถลนออกจากเบ้าด้วยความตกใจ!
“ไอ้สารเลว!”
หลิงหยุนร้องคำรามออกมาอย่างโกรธแค้นเมื่อพบว่าในห้องลับห้องหนึ่งภายในคฤหาสน์หลังนั้น สภาพร่างกายที่น่าสยดสยองของหลิงเสี่ยวก็ได้ปรากฏขึ้นในห้วงจิตของหลิงหยุน..
สภาพของหลิงเสี่ยวนั้นบ่งบอกว่าได้ถูกทรมานร่างกายมาอย่างแสนสาหัสนับครั้งไม่ถ้วนจนไม่เหลือสภาพร่างเดิมให้จดจำได้เลย หากใช้เพียงแค่สายตาธรรมดามอง ต่อให้หลิงลี่มายืนอยู่หน้าหลิงเสี่ยวเวลานี้ เขาก็คงไม่สามารถจดจำได้ว่าผู้ที่ถูกทรมานอยู่ในห้องลับนั้นคือลูกชายของตัวเอง!
หลิงหยุนเองก็เช่นกัน..เขาจำหลิงเสียวไม่ได้! แต่รู้ได้จากการวิเคราะห์คาดเดา เพราะภายในบ้านทั้งหลังนั้น มีเพียงชายผู้นี้ผู้เดียวที่ถูกจับขัง และถูกทรมาน!
และหากคนผู้นี้ไม่ใช่หลิงเสี่ยวซึ่งเป็นพ่อของหลิงหยุนแล้วจะเป็นใครไปได้อีกเล่า!
ทันทีที่หลิงหยุนเห็นพ่อของตนเองถูกทรมานอย่างแสนสาหัสจนไม่เป็นผู้เป็นคนเช่นนี้จิตวิญญาณในขั้นอมตะของเขาก็ถึงกับสั่นสะท้าน เลือดในกายเดือดพล่านขึ้นมาทันที และดวงตากลับกลายเป็นแดงก่ำ!
จู่ๆน้ำตาก็เอ่อล้นดวงตาทั้งสองข้างของเขาหลิงหยุนกำมือทั้งสองข้างแน่นจนเล็บจิกลงไปบนฝ่ามือของตนเอง และเลือดก็กำลังไหลซึมออกมา..
“เอ็ดเวิร์ด..เจ้าบินลงไปด้านล่างได้แล้ว!”
ทั้งคู่ร่อนลงกลางป่าหนาทึบซึ่งห่างจากคฤหาสน์หลังนั้นไปราวเจ็ดร้อยเมตรจากนั้นทั้งหลิงหยุนและมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดจึงค่อยๆ แอบออกจากป่าอย่างเงียบๆ
การช่วยคนเป็นเรื่องสำคัญและด่วนที่สุด!หลิงหยุนต้องระงับความโกรธในใจ และพยายามทำใจให้สงบนิ่งมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหากหลิงหยุนต้องการที่จะช่วยหลิงเสี่ยว ใครก็ยากที่จะขัดขวางเขาได้ และหากผู้ใดทำเช่นนั้น โทษของมันคือตายสถานเดียว!
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้มีการคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนาและหลิงหยุนเองก็ไม่สามารถประมาทได้แม้ว่าเขาจะร้อนใจมากก็ตาม เพราะหากเขารีบร้อนจนทำให้ศัตรูล่วงรู้ พวกมันอาจลงมือสังหารหลิงเสี่ยวทิ้งทันที และศัตรูก็อยู่ใกล้กับหลิงเสี่ยวมากกว่าตนเอง จึงไม่มีทางที่เขาจะเร็วไปกว่าศัตรูแน่!
ในระหว่างนั้นหลิงหยุนก็แอบคิดในใจว่า..หนึ่งในสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ต้องเป็นผู้ที่จองจำพ่อบังเกิดเกล้าของตนเอง ส่วนอีกฝ่ายน่าจะต้องเป็นผู้ที่มาช่วยพ่อของเขา..
นั่นเพราะหลิงหยุนเห็นว่าประตูห้องลับได้ถูกเปิดออกและไม่มีผู้ใดอยู่รอบตัวหลิงเสี่ยวเลยแม้แต่คนเดียว!
และนี่ก็คือโอกาสของหลิงหยุน!
หลิงหยุนต้องอาศัยช่วงเวลานี้แอบเข้าไปในคฤหาสน์และรีบช่วยหลิงเสี่ยวออกมาก่อน เขาจึงยังไม่คิดที่จะต่อสู้กับผู้ใด! Aileen-novel
เพราะนี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของเขาที่จะช่วยหลิงเสี่ยวได้และเขาไม่ต้องการพลาดโอกาสนี้!
–เอ็ดเวิร์ด..เจ้ากลายร่างเป็นค้างคาวแอบเข้าไป อย่าให้พวกมันจับได้!-
หลิงหยุนส่งกระแสจิตบอกมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดทันทีเขาแจ้งตำแหน่งห้องลับซึ่งเป็นที่คุมขังหลิงเสี่ยวให้เอ็ดเวิร์ดรู้ และอธิบายแผนการให้เอ็ดเวิร์ดฟังอย่างละเอียด..
ไม่กี่นาทีต่อมา..มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดก็ได้กลายร่างเป็นค้างคาวตัวเล็ก บินฝ่าความมืดออกจากป่าทึบไป และกำลังบินตรงเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้น
แน่นอนว่าค้างคาวตัวเล็กนี้ไม่เป็นที่สนอกสนใจหรือจับตามองของเหล่านักฆ่าที่อยู่ด้านในเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นป่าร้อนชื้น การมีค้างคาวบินไปมาจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทุกคนต่างก็พบเห็นค้างคาว แมลงต่างๆ และยุง บินว่อนไปว่อนมาอยู่บนท้องฟ้าอยู่เป็นประจำ จึงไม่มีผู้ใดคิดระแวงสงสัยเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อเห็นมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดบินออกไปแล้วหลิงหยุนก็ไม่ลังเลที่จะเรียกเครื่องมือสื่อสารออกมาส่งข้อความกลับไป
–ท่านปู่..ข้าพบท่านพ่อแล้ว ทำตามแผนที่คุยกันไว้ และต้องเร็วที่สุด!-
–น้าหญิง..ท่านมาได้เลย ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี!-
หลังจากส่งข้อความทั้งสองออกไปแล้วหลิงหยุนก็ยังไม่เก็บเครื่องมือสื่อสารกลับเข้าไป เขาเดินตรงไปในข้างหน้าอย่างเงียบๆ และเวลานี้หลิงหยุนก็อยู่ห่างจากคฤหาสน์หลังนั้นราวสามร้อยเมตร
จากนั้นหลิงหยุนก็จัดการเปิดระบบแจ้งตำแหน่งของเครื่องมือสื่อสารนั้นแล้วซ่อนมันไว้ที่ด้านหลังของหินก้อนหนึ่ง..
เครื่องมือสื่อสารชนิดนี้เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงและมีสัญญาณการรับส่งได้ไกลกว่าโทรศัพท์มือถือทั่วไป และตราบใดที่มีการเปิดแจ้งระบุตำแหน่งไว้เช่นนี้ หลิงลี่กับฉินตงเฉี่วยจะต้องมาถึงได้อย่างรวดเร็วแน่!
ที่ตรงนี้ห่างจากคฤหาสน์หลังนั้นไปเพียงสามร้อยเมตรเท่านั้นและหลิงหยุนก็มั่นใจว่าเมื่อหลิงลี่มาถึง เขาจะสามารถช่วยหลิงเสี่ยวออกมาได้สำเร็จแล้ว!
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วหลิงหยุนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงใช้มังกรพรางร่าง และเงาลวงตาในขั้นปฐมชี่ ที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวกับภูติผีวิญญาณ และไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของลมให้ผู้ใดจับได้..
เป้าหมายของหลิงหยุนก็อยู่ที่สวนด้านหลังของคฤหาสน์หลังนั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องลับที่หลิงเสี่ยวถูกนำตัวไปขังไว้นั่นเอง..
มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดในร่างของค้างคาวตัวเล็กค่อยๆบินเข้าไปในห้องลับได้อย่างง่ายดาย เพราะลูกๆของซือกงถูก็ออกไปด้านนอกกันหมด ส่วนนักฆ่าคนอื่นๆ ก็มัวแต่สนใจเหตุการณ์ต่อสู้ด้านนอก และไม่มีใครสนใจกับค้างคาวตัวเล็กๆนี้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดเข้าไปในห้องลับได้สำเร็จแล้วดวงตาสีม่วงคู่นั้นก็เป็นประกายขึ้นมาทันที แต่ถึงกระนั้นเมื่อเข้าไปได้แล้ว มันก็ไม่รีบร้อนที่จะช่วยหลิงเสี่ยว แต่บินไปเกาะนิ่งอยู่ที่กำแพงห้องลับ..
และนี่คือแผนขั้นแรกของหลิงหยุนเขาให้มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดเข้าไปในห้องลับที่ขังหลิงเสี่ยว เพื่อคอยป้องกันไม่ให้หลิงเสี่ยวได้รับอันตรายนั่นเอง
เอ็ดเวิร์ดนั้นอยู่ในระดับสูงสุดขั้นมาร์ควิสความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือระดับเริ่มต้นขั้นเซียงเทียน-9 เลย อีกทั้งยังสามารถบินได้ และมีเวทย์มนต์มากมาย หลิงหยุนจึงมั่นใจว่ามันจะสามารถปกป้องหลิงเสี่ยวได้อย่างแน่นอน!
จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนเห็นภาพมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดบินเข้าไปอยู่ข้างๆพ่อของตนเองได้สำเร็จแล้ว ความตึงเครียดที่อยู่ในใจจึงค่อยผ่อนคลายขึ้นมากกว่าเดิมเล็กน้อย..
และในเวลานั้น..หลิงหยุนเองก็ได้ไปถึงด้านหลังของคฤหาสน์แล้ว เขากลั้นหายใจ และถอนจิตหยั่งรู้ให้เหลือเพียงแค่สามสิบเมตรเท่านั้น และใช้เงาลวงตาเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นกำแพงของห้องลับ
หลิงหยุนอ้าปากออกและเพียงแค่คิดกระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งออกมาจากปากของเขา และกลายเป็นกระบี่ขนาดหนึ่งฟุต ลอยอยู่กลางอากาศ
จากนั้นหลิงหยุนก็ส่งกระแสจิตบอกหลิงเสี่ยวว่า..
–ท่านพ่อ..ไม่ต้องแปลกใจ ข้า – หลิงหยุนมาช่วยท่านแล้ว!-
หลิงหยุนเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาจากแหวนพื้นที่และใช้มันฟันกำแพงจนเป็นรูขนาดใหญ่ จากนั้นภาพของหลิงเสี่ยวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลิงหยุน!
ร่างของหลิงหยุนพุ่งไปยืนอยู่ข้างหลิงเสี่ยวดวงตาดุดันราวพยัคฆ์คู่นั้นมีน้ำตาเอ่อล้นออกมาทั้งสองข้างในระหว่างที่ดึงตะปูซึ่งตรึงร่างของหลิงเสี่ยวไว้กับไม้กางเขนออก จากนั้นจึงเรียกยันต์บำบัดระดับหกออกมา และทำการปิดยันต์ลงไปที่แขนทั้งสองข้าง ใบหน้า ศรีษะ และทั่วทั้งลำตัว
หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจดูอีกครั้งเมื่อเห็นว่ายันต์บำบัดปิดไปทั่วบาดแผลทุกแห่งบนร่างกายแล้ว เขาจึงร้องสั่งยันต์ให้ออกฤทธิ์ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร