Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1086

“ดัชนีสายฟ้า!”
  เวลานี้หลิงหยุนสามารถมองเห็นภายในร่างกายของตนเองได้แล้วและได้รู้ว่าภายในจุดตันเถียน และเส้นลมปราณของตนเองนั้น ล้วนเต็มไปด้วยสายฟ้าจำนวนมากมาย คืนนี้เขาจึงได้นำมันมาใช้กับซือกงถู และเพิ่งจะตั้งชื่อให้มันว่า ‘ดัชนีสายฟ้า!’
  ความจริงแล้วดัชนีสายฟ้านี้ก็ไม่ได้มีพลังแข็งแกร่งพอที่จะทำร้ายยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-9ได้ แต่มันเป็นยุทธวิธีในการต่อสู้ เพราะอย่างน้อยก็สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับคู่ต่อสู้ได้ และหลิงหยุนคิดว่าดัชนีสายฟ้านี้จะสามารถเจาะทะลุพลังปราณที่ปกป้องร่างของซือกงถูไว้ได้!
  หลิงหยุนเองก็รู้ดีว่าดัชนีสายฟ้าของตนนั้นไม่ได้รุนแรงถึงขั้นที่จะสามารถสังหารคู่ต่อสู้อย่างซือกงถูได้ แต่อย่างน้อย.. มันก็สามารถทำให้ซือกงถูเป็นอัมพาตได้ชั่วครู่ และเพียงแค่นั้นก็เกินพอแล้ว!
  แล้วก็เป็นอย่างที่หลิงหยุนคาดการณ์ไว้จริงๆทันทีที่ร่างของซือกงถูถูกดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนเข้า ร่างของเขาก็ถึงกับสั่นสะท้าน และผมบนศรีษะก็ลุกชันทันที!
  และแน่นอนว่าหลิงหยุนย่อมไม่พลาดโอกาสอันดีนี้แน่นอน!
  หลิงหยุนอาศัยจังหวะที่ซือกงถูชะงักนี้เรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมา และฟันลงไปที่ร่างของซือกงถูตรงหน้าทันที..
  “ไม่นะ!”
  ซือกงถูที่ถูกดัชนีสายฟ้าของหลิงหยุนเข้าไปก็ถึงกับชาไปทั่วทั้งร่าง และไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ ระหว่างที่กระบี่สีดำในมือของหลิงหยุนกำลังฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็วนั้น และในระยะทางที่กระชั้นชิดเช่นนี้ หลิงหยุนย่อมไม่พลาดอย่างแน่นอน..
  เมื่อเห็นว่าตนเองไม่สามารถที่จะหลบไอกระบี่รุนแรงสีดำนี้ได้ซือกงถูจึงได้เดินปราณปีศาจทั้งหมดในร่างกาย ขึ้นมาปกป้องร่างกายท่อนบนไว้ทันที!
  และนั่นคือสิ่งที่ซือกงถูทำได้ดีที่สุดในเวลานั้น!
  เคร้ง..เคร้ง..
  เสียงกระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนกระทบเข้ากับปราณปีศาจที่ซือกงถูใช้ปกป้องร่างกายเกิดเป็นเสียงดังราวกับโลหะสองชิ้นกระทบกัน..
  กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุนฟาดลงไปที่ไหล่ขวาของซือกงถูอย่างสุดกำลัง ไอสีดำที่พวยพุ่งออกจากกระบี่ของหลิงหยุนนั้น ปะทะเข้ากับปราณปีศาจของซือกงถูอย่างรุนแรง และตัวกระบี่โลหิตแดนใต้ก็ฝังลงไปบนเนื้อที่ไหล่ขวาของซือกงถูเป็นแผลลึกหนึ่งนิ้ว..
  “อ๊าก!”
  ซือกงถูได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวาและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็ซัดฝ่ามือซ้ายเข้าใส่กระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนจนสั่นสะท้าน และร่างของมันก็กระโดดถอยหลังหนีทันที!
  หลิงหยุนไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้นทันทีที่ซือกงถูล่าถอยออกไป หลิงหยุนก็กระโดดตามเข้าไปทันที!
  ซือกงถูเห็นว่าหลิงหยุนสามารถทำลายปราณปีศาจของตนเองได้มีหรือที่จะอยู่รอรับกระบี่ของหลิงหยุนอีกรอบ ร่างของมันยังคงกระโดดถอยหนีไปอีก และเวลานี้ก็ถอยไปจนติดกับกำแพงบ้าน และรีบกระโดดหนีออกจากลานบ้านทันที..
  หลิงหยุนใช้เพลงกระบี่นวสังหารจู่โจมซือกงถูและใช้มังกรพรางร่างไล่ตามมันไป กระบี่ในมือของหลิงหยุนฟาดฟันใส่ร่างของซือกงถู โดยไม่เปิดโอกาสให้มันได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย..
  หลิงหยุนมีกระบี่โลหิตแดนใต้อยู่ในมือส่วนซือกงถูนั้นไม่มีอาวุธ และเวลานี้หลิงหยุนก็ได้ไล่ล่าซือกงถูออกมาจากลานต่อสู้ในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้น..
  เย่ซิงเฉินรับมือกับราชันย์นักฆ่าทั้งสามคนแม้ว่าจะยากที่จะเอาชนะพวกมันได้ แต่ก็สามารถรับมือได้อย่างปลอดภัย..
  จินเหยียวนั้นสามารถรับมือซือกงถูได้แม้ในยามที่สติไม่สมบูรณ์ดังนั้นการรับมือกับซือกงวู่ฉิง จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก..
  ส่วนหลิงเสี่ยวนั้นก็ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่กลางอากาศและมีมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ จึงไม่ต้องห่วงกังวลว่าจะได้รับอันตรายใดๆ
  ดังนั้น..เมื่อภาพของหลิงลี่ และเหล่านกยักษ์ปรากฏตัวขึ้นในรัศมีจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุน เขาจึงได้ใช้กระบี่ไล่ล่าซือกงถูเพื่อบีบให้มันต้องหนีออกจากลานต่อสู้ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้
  หลิงลี่และเหล่ากุ่ยนั้นยืนอยู่บนแผ่นหลังของนกยักษ์สองตนคือเพียร์ซกับจอยซ์ส่วนฉินตงเฉี่วยนั้นยืนอยู่บนหลังเจสเตอร์ และในที่สุดทุกคนก็มาถึง..
  เวลานี้..จินเหยียวกำลังสู้อยู่กับซือกงวู่ฉี ส่วนเย่ซิงเฉิงก็สู้อยู่กับราชันย์นักฆ่าทั้งสามคน!
  หลิงลี่ฉินตงเฉี่วย เหล่ากุ่ย พร้อมด้วยแวมไพร์อีกสามตน รวมเป็นหกที่กำลังสู้อยู่กับเหล่านักฆ่าระดับสวรรค์อีกห้าคน และนั่นก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก
  เวลานี้หลิงลี่อยู่ในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-8แล้ว ส่วนฉินตงเฉี่วยอยู่ในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-5 และด้วยกระบี่มังกรขาว วิชาดาราคุ้มกาย และเพลงกระบี่นวสังหาร ทำให้นางสามารถรับมือกับยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-7 ได้อย่างง่ายดาย..
  เมื่อทั้งสองคนร่วมมือกันนักฆ่าระดับสวรรค์ทั้งห้าจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส..
  หลิงหยุนมีเหตุผลเพียงพอที่จะเชื่อมั่นได้ว่าหลิงลี่ ฉินตงเฉี่วย และเย่ซิงเฉิน ทั้งสามคนจะสามารถร่วมมือกันจัดการกับคู่ต่อสู้ที่เหลือทั้งหมดได้!
  ยิ่งไปกว่านั้น..ยังมีแวมไพร์ขั้นมาร์ควิสอย่างเอ็ดเวิร์ดอยู่บนท้องฟ้าอีกด้วย!
  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม..แม้ว่าทุกคนจะแข็งแกร่งมาก แต่หากเทียบกับซือกงถูแล้ว ทุกคนจะกลายเป็นจุดอ่อนของหลิงหยุนทันที เพราะนอกเหนือจากจินเหยียวแล้ว ที่เหลือนั้นล้วนสามารถถูกซือกงถูทำร้ายบาดเจ็บสาหัสได้อย่างง่ายดาย..
  ในสายตาของซือกงถูนั้นไม่ว่าจะเป็นหลิงลี่ ฉินตงเฉี่วย เหล่ากุ่ย และหลิงเสี่ยว ล้วนไม่มีใครอยู่ในสายตาของมันเลยแม้แต่น้อย!
  และเป็นธรรมดาของการต่อสู้ที่อีกฝ่ายจะสังหารผู้ที่อ่อนแอที่สุดก่อนแล้วจึงจัดการกับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดทีหลัง..
  ดังนั้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยของหลิงลี่ ฉินตงเฉี่วย เหล่ากุ่ย และคนอื่นๆ หลิงหยุนจึงปล่อยให้ทั้งหมดจัดการกับนักฆ่าที่เหลือ ส่วนเขานั้นได้ทำการบีบซือกงถูให้ออกจากลานต่อสู้ด้านในไป..
  หลิงหยุนต้องการสู้กันตัวต่อตัวกับซือกงถู!
  –ซิงเฉิน..ท่านปู่ของข้ากับทุกคนกำลังมา เจ้าต้องหาทางจัดการกับศัตรูที่เหลือให้ได้ อย่าให้มีใครรอดออกไปได้แม้แต่คนเดียว!-
  เมื่อหลิงหยุนออกไปแล้วก็ไม่ลืมที่จะส่งกระแสจิตบอกเย่ซิงเฉิน..
  –ได้..เจ้าเองก็ต้องระมัดระวังตัวให้มาก! นอกจากซือกงถูจะอยู่ในระดับสองขั้นเซียงเทียน-9 แล้ว มันยังฝึกวิชาปราณทมิฬที่มีอานุภาพน่ากลัวอีกด้วย!-
  “ไม่ต้องห่วง..ข้าการกับมันได้อย่างแน่นอน!”
  ระหว่างที่พูดคุยกับเย่ซิงเฉินผ่านกระแสจิตเพียงสองสามประโยคนั้นหลิงหยุนก็ฟาดฟันกระบี่สีดำในมือใส่ร่างของซือกงถูไม่หยุด และนั่นทำให้ซือกงถูค่อยๆ ออกห่างจากคฤหาสน์หลังใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไปไกลกว่าห้าร้อยเมตรแล้ว!
  “เจ้าเด็กเมื่อวานซืน..เจ้าช่างรนหาที่ตายแท้ๆ!”
  ซือกงถูคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะอาศัยโอกาสที่ได้เปรียบนี้บีบบังคับให้เขาออกมาจากลานต่อสู้ในคฤหาสน์เช่นนี้ จึงโกรธเคืองอย่างมาก และร้องตะโกนใส่หลิงหยุนเสียงดัง!   ตลอดทางที่หลิงหยุนฟาดฟันกระบี่ในมือเข้าใส่ร่างของซือกงถูนั้นเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่ากระบี่ของตนนั้นจะฟันเข้ากับต้นไม้ใหญ่จนล้มระเนระนาดกี่ต้น..
  ทั้งคู่ต่างก็ไล่ล่ากันไปและในที่สุดก็ไปถึงพื้นที่โล่งเตียนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีภูเขาหลายลูกล้อมรอบ..
  “กระจกเงาปีศาจ!” ไอรีนโนเวล
  สิ้นคำพูดของซือกงถู..หมอกสีดำก็พวยพุ่งขึ้นโอบร่างของซือกงถูไว้จนหนาทึบ แล้วกลุ่มหมอกหนาทึบนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นกำแพงสีดำทะมึนขวางหน้าหลิงหยุนไว้ทันที!
  แต่ความจริงแล้ว..มันมีลักษณะคล้ายกระจกเงาเสียมากกว่า!
  หลิงหยุนถึงกับตกตะลึง..เพราะจู่ๆ ร่างของซือกงถูกลับเข้าไปอยู่ในกระจกเงาขนาดใหญ่ตรงหน้า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นแค่เงาสะท้อนในกระจกเท่านั้น และใครบ้างจะสามารถสังหารเงาในกระจกได้เล่า  หลิงหยุนจ้องมองกระจกสีดำตรงหน้าและเงื้อกระบี่ในมือฟันลงไปที่กระจกสีดำถึงสามครั้งสามครา แต่กลับไม่พบร่างที่แท้จริงของซือกงถูเลย..
  หลิงหยุนรู้ได้ทันทีว่า..ร่างจริงของซือกงถูกำลังซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เขาจึงยกกระบี่ในมือขึ้นเตรียมพร้อม และโคจรดาราคุ้มกายขั้นสูด เพื่อรอคอยการจู่โจมของซือกงถู!
  ปราณทมิฬสีดำในร่างของซือกงถูถูกปลดปล่อยออกมาและกำลังเข้าล้อมร่างของหลิงหยุนไว้ จากนั้นจากกลุ่มหมอกสีดำก็ได้เปลี่ยนเป็นกำแพงกระจก..
  กระจกเงาปีศาจแต่ละบานที่ปรากฏขึ้นนั้นล้วนแล้วแต่มีเงาของซือกงถูอยู่ด้านในทั้งสิ้น และหลิงหยุนเองก็ไม่สามารถแยกออกได้ว่า.. เงาในกระจกบานใหนคือร่างจริง และบานใหนคือร่างปลอม!
  และจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็ไม่สามารถแยกแยะเงาในกระจกเช่นนี้ได้แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เขาเริ่มเดินพลังลับหยิน–หยาง และเปลี่ยนมาใช้เนตรหยิน–หยางในการมองแทน..
  หลิงหยุนใช้เนตรหยิน–หยางขั้นสุดและพบว่าสามารถจับร่างที่แท้จริงของซือกงถูได้อย่างง่ายดาย..
  “กระบี่มาร!”
  ในวินาทีนั้น..ซือกงถูก็เริ่มจู่โจมหลิงหยุนกลับทันที เนตรหยิน–หยางของหลิงหยุนจับจ้องอยู่ที่กระบี่สีดำหลายเล่มที่กำลังพุ่งผ่านกระจกเงามากมายที่โอบล้อมร่างของเขานอยู่
  หลิงหยุนแสยะยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับอ้าปากกว้าง..
  จากนั้นกระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งออกจากปากของเขาอีกครั้งและภายใต้การควบคุมของหลิงหยุน มันก็ได้พุ่งเข้าใส่กระจกเงาปีศาจบานหนึ่งซึ่งมีร่างจริงของซือกงถุอยู่ทันที..
  ในเวลาเดียวกันนั้นหลิงหยุนที่ได้โคจรดาราคุ้มขั้นสุดปกป้องตัวเองไว้ ก็ได้ฟันกระบี่โลหิตแดนใต้เข้าใส่กระบี่มารของซือกงถูที่พุ่งเข้ามาเช่นกัน..
  กระบี่มารสีดำเหล่านั้นก็คือปราณทมิฬของซือกงถูนั่นเอง มันจึงเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และรวดเร็วยิ่งนัก และหากหลิงหยุนไม่ระมัดระวัง ก็จะต้องถูกมันฟันเข้าอย่างแน่นอน!
  เคร้ง..เคร้ง..
  กระบี่ของหลิงหยุนและกระบี่มารของซือกงถูกระทบกัน จนเกิดเสียงดังสนั่นคล้ายโลหะกระแทกกันอย่างรุนแรง กระบี่มารของซือกงถูถูกกระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนฟันเข้าจนแตกกระจายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ แต่แล้วก็กลับไปรวมร่างเป็นกระบี่ดังเดิม และพุ่งเข้าจู่โจมหลิงหยุนกลับอีกคร้ัง..
  ‘ดูเหมือนวิธีนี้จะไม่ได้ผล..’
  หลิงหยุนแอบครุ่นคิดอยู่ในใจเงียบๆเขาเพิ่งจะบีบให้ซือกงถูถอยล่นออกมาไกลถึงห้าร้อยเมตร และได้ฟันใส่ร่างของซือกงถูไปมากมายหลายครั้ง ทำให้พลังปราณในร่างกายของเขาลดน้อยถอยลงจนเหลือน้อยกว่าสี่สิบส่วนแล้ว..   ส่วนซือกงถูซึ่งอยู่ในระดับสองขั้นเซียงเทียน-9นั้น แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าซือกงวู่เปิ่นอย่างแน่นอน หลิงหยุนฟาดฟันกระบี่เข้าใส่ซือกงถูเป็นเวลานาน แต่ดูเหมือนพลังปราณในตัวของมันจะไม่พร่องลงเลย และยังคงสามารถใช้ปราณทมิฬได้อย่างต่อเนื่อง..
  หลิงหยุนมัวแต่ครุ่นคิดทำให้กระบี่ในมือลดความเร็วลงและกระบี่มารสองเล่มของซือกงถูจึงฟันเข้ากับแผ่นหลังของหลิงหยุน..
  ชุดผ้าแพรไหมดำถูกตัดขาดอย่างดาย..และแผ่นหลังของหลิงหยุนก็มีเลือดไหลออกมาเป็นทาง..
  ‘กระบี่มารสามารถฟันทะลุเกราะปัองกันของข้าขาดถึงสองชั้นเชียวรึ”
  หลิงหยุนไม่รีรอ..เขาเรียกยันต์บำบัด ยันต์เพชร และยันต์เกราะระดับหกออกมาแปะไว้ที่แผ่นหลัง พร้อมกับร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์ทันที!
  หลังจากที่เพิ่มเครื่องป้องกันเข้าไปถึงสองอย่างหลิงหยุนก็ใช้มังกรพรางร่าง พุ่งตรงเข้าไปหากระจกปีศาจทันที!   “เอาล่ะ..ถึงคราวของข้าบ้างแล้ว!”
  ซือกงถูร้องตะโกนออกมาพร้อมกับซัดฝ่ามือมารเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนและร่างของหลิงหยุนก็ถูกฝ่ามือสีดำกระแทกใส่อย่างแรง!
  ปัง!
  ฝ่ามือสีดำที่รุนแรงนั้นได้ฟาดร่างของหลิงหยุนจนกระเด็นลอยละลิ่วออกไปไกลและเงาในกระจกของซือกงถูก็แสยะยิ้มออกมา..
  ตามมาด้วยกระบี่มารอีกเจ็ดถึงแปดเล่มที่พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนพร้อมกัน แต่เพราะหลิงหยุนมีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นมาอีกสองชั้น.. กระบี่มารของซือกงถูจึงเพียงแค่ทำให้เสื้อเกราะผ้าแพรไหมดำขาดเท่านั้น แต่ตัวเขาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด..
  ระหว่างนั้น..ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา และดาบพายุก็ปรากฏขึ้นมาในมือของหลิงหยุน!
  ชัวะ..ชัวะ.. ชัวะ..
  หลิงหยุนใช้ดาบพายุฟันเข้าใส่กระบี่มารหลายเล่มที่พุ่งเข้าใส่และมันก็ได้สลายตัวเป็นหมอกสีดำทันที!
  หลิงหยุนยกดาบพายุชี้ขึ้นฟ้า!
  จากนั้น..จุดตันเถียนของเขาก็ได้หมุนกลับ และเกิดเป็นกระแสวนหยิน–หยาง ที่เปลี่ยนดาบพายุให้เป็นกระแสพลังปราณที่หมุนวน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร