Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 1246

“ห๊ะ!”
  “เก้า..หมายเลข 958 หรอกรึ! ”
  “ไม่ใช่ผู้ประมูลชั้นสองนี่..”
  “นั่นสิ..”
  “โอ้..ไม่น่าเชื่อ! เป็นผู้ประมูลจากชั้นหนึ่งงั้นรึ น่าตื่นเต้นจริงๆ ฮ่า.. ฮ่า..”
  ทันทีที่ตัวเลขปรากฏขึ้นบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่เสียงร้องอื้ออึงก็ดังขึ้นทันที ทุกคนต่างก็พากันหันหลังกลับไปมองทางเก้าอี้แถวหลัง เพื่อหาผู้ที่ทำการประมูลครั้งนี้
  ตั้งแต่ตระกูลเย่เปิดโรงประมูลชาวยุทธขึ้นมานั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เมื่อราคาประมูลพุ่งทะลุหนึ่งพันล้าน จะมีผู้ที่ไม่ใช่แขกวีไอพีซึ่งอยู่ในชั้นล่างนี้ทำการประมูลแข่ง..
  ยิ่งไปกว่านั้น..หมายเลข 958 เองก็นั่งนิ่งมาตลอดการประมูล แต่ในขณะที่เซี่ยโหวหมิงกำลังจะเคาะในครั้งสุดท้าย จู่ๆตัวเลขราคาประมูลจากหมายเลข 958 ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทันที
  ภายในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าบุคคลผู้นี้ไม่ได้สนใจเรื่องราคาเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนต้องการจะได้เป็นผู้ประมูลสินค้าเปิดเสียมากกว่า!
  นั่นเพราะหลังจากนี้..หากไม่มีผู้ใดให้ราคาประมูลที่สูงกว่านี้แล้ว สมบัติชิ้นนี้ก็จะถูกเคาะขายออกไปในทันที!
  เซี่ยโหวหมิงที่อยู่บนเวทีประมูลนั้นถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางที่เสี่ยวเม่ยเม่ยนั่งอยู่
  หากจะหาผู้ที่คุ้นเคยกับหอประมูลแห่งนี้มากที่สุดก็คงจะไม่มีใครเกินเซี่ยโหวหมิงไปได้ นั่นเพราะเขาทำหน้าที่ในโรงประมูลแห่งนี้มานานหลายปี จึงรู้ดีว่าแต่ละหมายเลขนั้นคือเก้าอี้ตัวไหน และแทบไม่ต้องเสียเวลามองหา
  ‘ที่แท้ก็คือหญิงสาวงั้นรึ!ดูเหมือนจะเข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-3 ด้วยแล้วสินะ?!’   แต่แล้วเซี่ยโหวหมิงก็ถึงกับชะงักเพราะเมื่อเขาใช้จิตหยั่งรู้ของตนสำรวจดู จึงพบว่าหญิงสาวผู้นี้มีรูปร่างงดงามน่าหลงใหล และสวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าไว้ และที่ทำให้เขาตกใจก็คือเขามองเห็นใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมสีดำนั้นได้อย่างเลือนลาง
  ‘คนของพรรคมารงั้นรึ!’
  การที่เสี่ยวเม่ยเม่ยฝึกวิชามารอู๋เซียงเม่ยซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาของพรรคมารนั้นด้วยขั้นของนางตอนนี้ แม้ยอดฝีมือธรรมดาทั่วไปอาจมองไม่ออก แต่หากเป็นยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติขึ้นไป ย่อมสามารถรู้ได้ในทันที
  เซี่ยโหวหมิงนั้นเป็นผู้ที่มีสายตาแหลมคมเป็นพิเศษไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งนี้ และนั่งบนบัลลังก์ผู้ประเมินอันดับหนึ่งของโรงประมูลตระกูลเย่มาได้อย่างยาวนานเป็นแน่
  หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากหลิงหยุนและได้ทำการเสนอราคาไปในครั้งแรกแล้ว เสี่ยวเม่ยเม่ยก็ยังคงอยู่ในอาการสงบนิ่ง และเตรียมพร้อมที่จะเสนอราคาประมูลในครั้งต่อไป
  ‘การได้เป็นที่สนอกสนใจของผู้คนทั้งหอประมูลเช่นนี้เป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเลยทีเดียว..’
  แม้เสี่ยวเม่ยเม่ยจะเพิ่งเคยเข้าร่วมการประมูลชาวยุทธเป็นครั้งแรกและได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ นางก็ยังคงสามารถสงบนิ่งได้ และรู้สึกภูมิอกภูมิใจไม่น้อยที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจเช่นนี้
  “หมายเลข958 เป็นหญิงสาวหรอกรึ! นางเป็นใครกันนะ ไม่เคยเห็นมาก่อน?”
  ไม่เพียงแค่ผู้ประมูลชั้นล่างที่พากันกันฮือฮาแม้แต่ผู้ประมูลในชั้นสองแทบทุกคน ต่างก็พากันเปิดจิตหยั่งรู้ของตนออกสำรวจดูเช่นกัน
  “น่าสนุกไม่น้อยทีเดียว..ผู้หญิงสองคนกำลังประมูลแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใครเช่นนี้! คนหนึ่งอยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 13ส่วนอีกคนก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้หมายเลข 958 น่าสนใจๆ”
  หลิวหย่วนจื้อซึ่งอยู่ในห้องวีไอพีได้แต่พึมพำออกมา..
  หลังจากที่ได้ทำการประมูลแข่งกับแขกวีไอพีห้องอื่นๆอยู่นานแต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้ที่พยายามจะประมูลแข่งกับตนในวินาทีสุดท้ายจะเป็นหญิงสาวที่อยู่ชั้นล่าง
  แต่ไม่ใช่หลิวหย่วนจื้อคนเดียวที่คิดเช่นนั้นเพราะถันอิงซึ่งอยู่ในห้องวีไอพี 3 ก็คิดเช่นเดียวกัน
  “เสือสองตัวหากได้กระโจนเข้าต่อสู้กันแล้วพวกมันจะสู้กันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้รับบาดเจ็บ พวกเรารอดูไปเรื่อยๆ”
  ถันอิงร้องบอกทุกคนเสียงเบา..และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวธรรมดาที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 13 นามว่าเหออวี้ฉงนั่นเอง!
  หญิงสาวผู้นี้มาจากเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน(Special Administrative of China) และตั้งใจเดินทางเพื่อมาร่วมการประมูลที่ตระกูลเย่จัดขึ้นโดยเฉพาะ ดูเหมือนนางจะได้ศึกษาหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี จึงได้รู้ว่าการประมูลสินค้าเปิดนั้นจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และนางก็ต้องการที่จะชนะการประมูลให้ได้เช่นกัน..
  สถานะทางการเงินของครอบครัวเหออวี้ฉงนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลี่ในปักกิ่งเลย ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการเงินนัก แต่ถึงกระนั้นนางก็ต้องประเมินถึงความคุ้มค่าของเงินที่ต้องเสียไปเช่นกัน
  ด้วยเหตุนี้..หลังจากใคร่ครวญถึงราคาที่เหมาะสมแล้ว เหออวี้ฉงจึงได้ทำการประมูลแข่งโดยไม่สนใจว่าจะเป็นใครหน้าไหนทั้งนั้น และนี่คือลักษณะนิสัยในการทำงานของนาง.. เฉียบแหลมและดุดัน!
  แต่ในระหว่างที่นางกำลังจะสามารถเอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆได้แล้วและกำลังที่จะได้สินค้าเปิดมาครอบครอง จู่ๆคู่แข่งคนใหม่ก็โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
  แต่ถึงกระนั้นเหออวี้ฉงก็ยังคงมีท่าทีที่สงบนิ่งนางจ้องมองภาพโฮโลกราฟิคของภูเขาไฟหลากสีที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับเริ่มประมูลแข่งราคาต่อ..
  “หนึ่งพันหกร้อยล้าน”
  “หนึ่งพันหกร้อยสิบล้าน”
  ตัวเลขทั้งสองปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่เกือบจะพร้อมกัน..
  “โอ้โห..ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ!”
  และทันทีที่ราคาประมูลใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นทั่วทั้งหอประมูลอีกครั้ง และครั้งนี้ทุกคนต่างก็มั่นใจว่าผู้ประมูลหมายเลข 958 จะต้องเป็นผู้ชนะการประมูลอย่างแน่นอน!
  “ฮึ่ม!”
  เหออวี้ฉงจ้องมองตัวเลขบนจอคอมพิวเตอร์พร้อมกับทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ..   ดูเหมือนนางจะหงุดหงิดที่อีกฝ่ายมักจะเสนอราคาเพิ่มจากที่ตนเองเสนอด้วยตัวเลขที่ต่ำสุดทุกครั้งคือสิบล้านและได้แต่คิดว่า
  ‘นี่เจ้าไม่คิดที่จะเสนอตัวเลขที่มากกว่านี้บ้างหรือยังไง!’
  ภายในห้องวีไอพีหมายเลข9 เย่ซิงเฉินยืดกายตรง และหันไปมองหลิงหยุนพร้อมกับยิ้มออกมา..
  ภายใต้จิตหยั่งรู้ของเย่ซิงเฉินมีหรือที่นางจะไม่รู้ว่าผู้ประมูลหมายเลข 958 นั้นคือเสี่ยวเม่ยเม่ย และที่นางทำการประมูลอยู่นั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นคำสั่งของหลิงหยุนทั้งสิ้น
  หลิงหยุนเห็นเย่ซิงเฉินจ้องมองมาเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นทันที“ไม่มีอะไร.. ในเมื่อนี่คือสินค้าเปิด ข้าจำเป็นต้องชนะการประมูลให้ได้!”
  “นี่..ข้านั่งมองอยู่ตั้งนานแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เพิ่มตัวเลขเข้าไปอีกเป็นพันล้าน เชือดผู้หญิงคนนั้นไปเลยเล่า”   หลิงหยุนได้ฟังคำพูดของเย่ซิงเฉินก็ถึงกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าพร้อมกับคิดอยู่ในใจว่า ‘พันล้าน.. เงินพันล้านเชียวนะ!’
  จากนั้นจึงหันไปบอกกับเย่ซิงเฉินว่า“เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะใช้เงินอย่างประหยัดบ้างนะ..”
  เย่ซิงเฉินถึงกับหัวเราะคิกคักและคร้านที่จะสนใจหลิงหยุนอีก และหันไปดื่มชาเป็นเพื่อนฉินตงเฉี่วยต่อ..
  ความจริงแล้วหลิงหยุนยอมทุ่มหมดตัวและสามารถประมูลเองเพื่อให้ได้ภูเขาไฟหลากสีมาครอบครองอยู่แล้ว เขาอยากจะรีบๆ ประมูลให้จบๆ และนำภูเขาไฟหลากสีมาตั้งตรงหน้าตนเองให้เร็วที่สุดเพื่อความสบายใจ..
  แต่หลังจากที่ใคร่ครวญแล้วว่าในเมื่อเขาตั้งใจให้เสี่ยวเม่ยเม่ยมาช่วยประมูลผ้าแพรไหมดำให้ในคืนนี้ ก็ควรให้เสี่ยวเม่ยเม่ยเป็นผู้ประมูลสินค้าเปิดชิ้นนี้ และอย่างน้อยเขาก็จะได้ส่วนลดอีกหลายร้อยล้าน
  อีกทั้งเย่ซิงเฉินก็ยังได้บอกกับเขาว่า..การประมูลในปีนี้ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่าทุกปี และหากมีของที่เขาต้องการ เขาก็จะได้ประมูลกลับไปด้วย
  ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลิงหยุนต้องเลือกวิธีนี้เพราะเขาไม่ต้องการหลงเข้าไปในกับดักของตระกูลเย่ ที่กำลังหาโอกาสคอยสำรวจ และสังเกตการณ์ดูการเคลื่อนไหวของเขาอยู่..
  หลิงหยุนจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆและเล่นเป็นหมูที่คอยหาโอกาสจ้องกินเสือแทน..
  “หนึ่งพันเจ็ดร้อยล้าน”
  หลังจากที่เหออวี้ฉงซึ่งอยู่ในห้องวีไอพี13 นิ่งไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เสนอราคาเพิ่มขึ้นอีกเกือบหนึ่งร้อยล้าน
  “หนึ่งพันเจ็ดร้อยสิบล้าน”
  ส่วนเสี่ยวเม่ยเม่ยก็ยังคงประมูลด้วยตัวเลขที่ขยับขึ้นอีกครั้งละสิบล้านเช่นเคย..
  “นี่ใกล้จะทำลายสถิติราคาประมูลสินค้าเปิดของตระกูลเย่แล้ว!”
  ใครบางคนที่ชั้นหนึ่งและดูเหมือนจะมาที่นี่อยู่เป็นประจำ ได้ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง..
  และสถิติราคาประเมินสินค้าเปิดสูงสุดนั้นอยู่ที่หนึ่งพันแปดร้อยล้าน!
  เหออวี้ฉงที่อยู่ในห้องวีไอพี13 ถึงกับต้องเป่าลมออกจากปาก แม้นางต้องการที่จะเอาชนะอีกฝ่ายมากเพียงใด แต่นางก็มีราคาสูงสุดอยู่ในใจที่ 1.8 พันล้าน และหากราคาประมูลสูงขึ้นไปกว่านี้ นางเองก็เริ่มรู้สึกว่าจะไม่คุ้มกับเงินที่จะต้องเสียไป อีกทั้งนางเองก็ไม่จำเป็นต้องแสดงฐานะร่ำรวยด้วยการประมูลเอาภูเขาไฟหลากสีนี้มาเป็นของตนด้วย
  แต่เป็นเพราะถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามอกตามใจเมื่อเริ่มไม่ได้ดั่งใจ และถูกขัดใจเช่นนี้ เหออวี้ฉงก็เริ่มเดือดดาลขึ้นมาเช่นกัน..
  “หนึ่งพันแปดร้อยล้าน”
  “หนึ่งพันแปดร้อยสิบล้าน”
  เสี่ยวเม่ยเม่ยยังคงประมูลแข่งด้วยจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสิบล้านเท่ากันเช่นเดิม..
  “โอ้..ทะลุสถิติเดิมแล้ว!”
  “ดูท่าครั้งนี้คงจะรู้ผลเสียที!”
  ภายในหอประมูลเริ่มกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งเสียงร้องตะโกนดังขึ้นครั้งแล้วครั่งเล่า บ้างก็จ้องมองหน้าจอตาเขม็ง บ้างก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางชั้นสอง แต่ส่วนใหญ่นั้นจับจ้องอยู่ที่เสี่ยวเม่ยเม่ยซึ่งยังคงอยู่ในท่าทีที่สงบนิ่งเช่นเคย
  “คืนนี้การประมูลดุเดือดมากจริงๆ!ไม่รู้ว่าสองฝ่ายจะประมูลแข่งกันจนทะลุสองพันล้านหรือไม่!”
  ภายในห้องวีไอพีชั้นสองนั้นต่างคนต่างก็มีสีหน้าแตกต่างกันไป มีเพียงเจ้าของสินค้าเท่านั้นที่แอบยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ส่วนคนตระกูลหลิว ตระกูลถัน และตระกูลหลี่ ต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียดกันหมด..
  “หนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบล้าน”   เหออวี้ฉงดูเหมือนจะเริ่มยอมแพ้แต่เป็นเพราะความโกรธแค้นอีกฝ่ายที่มาประมูลแข่ง นางจึงยังไม่ยอมหยุดที่จะประมูล และคิดว่าอย่างน้อยนางก็ต้องทำให้อีกฝ่ายต้องเสียเงินเพิ่มมากขึ้นนางจึงจะพอใจ
  “หนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบล้าน”
  หญิงสาวทั้งสองคนยังคงประมูลแข่งกันอย่างดุเดือดและดูเหมือนจะยังไม่มีใครยอมใคร แต่หากสังเกตให้ดีนั้น เหออวี้ฉงดูเหมือนจะเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ในขณะที่อีกฝ่ายกลับเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ
  และเวลานี้ภายในหอประมูลมีเพียงความเงียบสงัดทุกคนต่างก็จ้องมองจอทีวีขนาดใหญ่ และแทบจะกลั้นหายใจไปด้วย
  ต่างฝ่ายต่างก็ประมูลเพิ่มครั้งละสิบล้านจนกระทั่งราคาของภูเขาไฟหลากสีได้พุ่งขึ้นสูงถึงหนึ่งพันเก้าร้อยล้านหยวนแล้ว!
  แต่ครั้งนี้เหออวี้ฉงได้ตัดสินใจแล้วว่าหากอีกฝ่ายยังคงเสนอราคาเพิ่มอีก แม้นางจะโกรธมาก แต่ก็จะหยุดการประมูลทันที  แต่น่าแปลกที่หลังจากเหออวี้ฉงเสนอที่ราคาหนึ่งพันเก้าร้อยล้านอีกฝ่ายกลับนิ่งไปเช่นกัน..
  เหออวี้ฉงถึงกับลุกขึ้นยืน..ในวินาทีนั้นแม้นางจะรู้สึกว่าต้องสูญเสียเงินไปจำนวนไม่น้อย แต่นางก็ได้เป็นฝ่ายชนะคู่แข่ง และไม่รู้สึกเสียหน้า
  “เป็นห้องวีไอพีชนะประมูลอีกแล้วสินะ!”
  ในเวลานั้น..เซี่ยโหวหมิงที่อยู่บนเวทีก็เริ่มเคาะพร้อมกับประกาศก้องว่า “ห้องวีไอพีหมายเลข 13 ประมูลด้วยราคาหนึ่งพันเก้าร้อยล้านหยวน เคาะครั้งที่หนึ่ง..”
  “หนึ่งพันเก้าร้อยล้านหยวนเคาะครั้งที่สอง..”
  “หนึ่งพันเก้าร้อยล้านหยวน..”
  ระหว่างที่เซี่วโหวหมิงกำลังจะประกาศว่าเคาะครั้งที่สามนั้นจู่ๆ ที่หน้าจอขนาดใหญ่นั้นก็มีตัวเลขปรากฏขึ้นทันที
  “หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบล้าน”   หมายเลข958 ประมูลเข้ามาอีกครั้ง..
  เสียงปรบมือดังกระหึ่มทั่วทั้งชั้นหนึ่ง..
  เหออวี้ฉงซึ่งอยู่ในห้องวีไอพี13 ถึงกับหน้าซีด ร่างกายของนางเกร็งด้วยความโมโห ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความขุ่นเคืองใจ
  ในที่สุดเหออวี้ฉงก็ตัดสินใจยอมแพ้..
  “ขอแสดงความยินดีกับผู้ประมูลหมายเลข958 ด้วย ที่ได้สินค้าเปิดประมูลของตระกูลเย่ไปครอบครอง และตามกฏของโรงประมูล ผู้ประมูลหมายเลข 958 จะได้ส่วนลด 10% จากการประมูลสินค้าชิ้นต่อๆไป”
  เวลานี้หลิงหยุนซึ่งเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังการประมูลที่ดุเดือดนี้ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก..
  และในที่สุดภูเขาไฟหลากสีก็ได้ตกเป็นของเขาแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร