ทัณฑ์อสุนีบาตสี่สีนี้ไม่ใช่ทัณฑ์อสุนีบาตธรรมดาเพราะสายฟ้าที่ฟาดลงมาในแต่ละครั้งนั้นจะมีถึงสี่ธาตุ และเป็นการสุ่มว่าจะมีสายฟ้าธาตุใดบ้างซึ่งมิอาจคาดเดาได้ และแต่ละครั้งก็เพิ่มดีกรีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
นั่นเพราะนี่เป็นหลักการรวมตัวของธาตุทั้งห้าในธรรมชาติทองสร้างน้ำ ไม้สร้างไฟ ไฟสร้างดิน และดินสร้างทอง เมื่อธาตุทั้งสี่มารวมตัวเข้าด้วยกัน ก็จะเสริมสร้างกันและกันเป็นชั้นๆไป ทำให้คุณสมบัติของแต่ละธาตุยิ่งเพิ่มความรุนแรง และมีพลังมากขึ้นอีกเท่าตัว อสุนีบาตสี่สีจึงนับเป็นอสุนีบาตที่ทรงพลังยิ่งนัก!
หลิงหยุนนับเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรับทัณฑ์สวรรค์ผู้หนึ่งเขาจึงเข้าใจความน่ากลัวของมันเป็นอย่างดี แต่เขากลับไม่วิตกกังวลหรือหวาดผวา เพราะหลังจากผ่านทัณฑ์อสุนีบาตมาสองครั้งก่อนหน้านี้ ทั้งกายเนื้อและจิตหยั่งรู้ของเขาก็ได้แข็งแกร่งขึ้นมากเช่นกัน
แม้หลิงหยุนจะได้รับบาดเจ็บจากอสุนีบาตสายที่สามเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสายฟ้าธาตุทอง แต่ก็ไม่สามารถคร่าชีวิตของเขาไปได้ และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับหลิงหยุน!
แต่แน่นอนว่าการที่หลิงหยุนสามารถเอาชีวิตรอดมาได้นั้นหาใช่เพราะทัณฑ์อสุนีบาตสี่สีไม่แข็งแกร่งและทรงพลังมากพอ แต่เป็นเพราะหม้อเสินหนง และหลิวเทวะวิญญาณเหนือศรีษะของหลิงหยุน ที่ช่วยต้านทานพลังความรุนแรงของอสุนีบาตสี่สีไว้ให้ถึงเจ็ดสิบส่วน จากนั้นพลังอสุนีบาตที่ถูกลดทอนอีกสามสิบส่วน จึงค่อยกระหน่ำลงใส่ร่างของหลิงหยุน แต่ถึงอย่างนั้นก็รุนแรงจนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แต่ก็ยังสามารถที่จะทานทนได้
หาไม่แล้ว..ด้วยอานุภาพของอสุนีบาตสี่สีนี้ อย่าว่าแต่หลิงหยุนเลย แม้แต่ผู้บ่มเพาะตนในขั้นหลอมรวมยังต้องเหลือเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณแน่ๆ!
เช่นนี้แล้วการที่หลิงหยุนสามารถต้านทานอสุนีบาตสี่สีสายแล้วสายเล่าได้นั้น ก็นับว่าเป็นการท้าทายสวรรค์อย่างมากแล้ว
เวลานี้..ระหว่างทัณฑ์เมฆาดำทะมึนกับน้ำทะเลสีฟ้าใสนั้น มีสายฟ้าสีเขียว สีทอง สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน กำลังเปล่งประกายแปลบปลาบแข่งกัน แล้วสายฟ้าทั้งห้าสีก็สลับกันหลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อนจะกระหน่ำเข้าใส่และล้อมร่างของของหลิงหยุนไว้ จนเห็นเพียงแค่สายฟ้าหลากสีที่รายล้อมร่างของหลิงหยุนอยู่เต็มไปหมด
เหนือศรีษะของหลิงหยุนหม้อเสินหนงกำลังสะกั้นสายฟ้าทั้งสี่สีไว้ ในขณะที่หลิวเทวะวิญญาณมีเพียงสีเขียวสว่างแปลบปลาบ เพราะมันกำลังช่วยดูดซับเอาสายฟ้าสีเขียวของธาตุไม้เข้าไปเพื่อช่วยหลิงหยุน
เวลานี้หลิวเทวะวิญญาณได้เติบโตขึ้นและทรงพลังมากขึ้นครั้งนี้จึงสามารถดูดซับเอาสายฟ้าธาตุไม้เข้าไปได้เป็นจำนวนมาก..
“ฮึ่ม..”
หลิงหยุนคำรามใส่สายฟ้าที่รายล้อมรอบตัวอย่างไม่นึกเกรงกลัวและได้พูดออกมาอย่างเย้ยหยันว่า
“หึ..ทัณฑ์อสุนีบาตห้าธาตุกระจอกแค่นี้เองรึ!”
จนกระทั่งถึงตอนนี้หลิงหยุนใช้ไพ่ในมือของตนไปเพียงน้อยนิดเท่านั้นแม้เขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูดซับเอาพลังของสายฟ้าธาตุดินเข้าไปในร่าง เพื่อทำการบ่มเพาะเปลวไฟธาตุดินของเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยาง
และครั้งนี้ความเร็วในการดูดซับสายฟ้าธาตุไม้เข้าไปของหลิงหยุนนั้นก็ยิ่งรวดเร็วมากขึ้นในเวลาเพียงแค่สองสามนาที เปลวไฟทั้งห้าธาตุคือทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ก็กลายเป็นเปลวไฟที่มีขนาดเท่ากันอย่างสมบูรณ์แล้ว “นี่..เจ้ามีอสุนีบาตห้าธาตุ ข้าเองก็มีเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางเช่นกัน!”
หลิงหยุนใช้พลังจิตของตนกระตุ้นเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางที่อยู่ภายในจุดตันเถียนของตนซึ่งเวลานี้มีทั้งหมดเจ็ดสีแล้วคือสีเขียว สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน สีทอง สีขาว และสีดำ!
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ควบคุมให้เปลวไฟเพียงแค่ห้าธาตุซึ่งได้แก่ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุน้ำ และธาตุทอง พุ่งออกจากจุดตันเถียนของตน และกลายเป็นดวงไฟใหญ่ขนาดขนาดสามเมตรครอบร่างของตนเองไว้!
นอกจากธาตุทั้งห้าจะมีคุณสมบัติเสริมสร้างกันและกันแล้วในขณะเดียวกันก็สามารถทำลายล้างกันและกันได้อีกด้วย ธาตุไม้ทำลายธาตุดิน ธาตุดินทำลายธาตุน้ำ ธาตุน้ำทำลายธาตุไฟ ธาตุไฟทำลายธาตุทอง และธาตุทองทำลายธาตุไม้
และเวลานี้หลิงหยุนก็กำลังจะใช้ธาตุต่างๆให้ทำลายล้างกันเอง ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก..
หลังจากที่เปลวไฟทั้งห้าธาตุได้ห่อหุ้มร่างกายของหลิงหยุนไว้มันก็เริ่มทำงานทันที เปลวงไฟธาตุไม้ก็เผาผลาญทำลายสายฟ้าธาตุดิน เปลวไฟธาตุดินเผาผลาญทำลายสายฟ้าธาตุน้ำ เปลวไฟธาตุน้ำเผาผลาญทำลายสายฟ้าธาตุไฟ เปลวไฟธาตุไฟเผาผลาญทำลายสายฟ้าธาตุทอง และเปลวไฟธาตุทองก็เผาผลาญทำลายสายฟ้าธาตุไม้
แล้วความกดดันต่างๆภายในตัวหลิงหยุนก็เริ่มจางคลายลดลงในทันที!
หลังจากที่เปลวไฟทั้งห้าธาตุเผาผลาญทำลายอสุนีบาตทั้งห้าสีแล้วหลิงหยุนก็ค่อยๆดูดซับเอาพลังชีวิตธาตุต่างๆเข้าไปในร่างกายทันที และครั้งนี้หลิงหยุนก็ได้อาศัยประโยชน์จากธาตุทั้งห้าฝึกฝนวิชาต่างๆไปด้วย ทั้งวิชามังกรทองคะนอง วิชาหงส์เล่นไฟ วิชาใต้ปฐพี วิชาคลื่นคงคา และวิชาพฤกษาขจี..
ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นวิชาล้ำเลิศที่หลิงหยุนเคยฝึกฝนเมื่อครั้งที่อยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่..
ในเมื่อสวรรค์ประทานธาตุที่บริสุทธิ์ทั้งห้ามาให้เช่นนี้หลิงหยุนจึงไม่อาจพลาดโอกาสที่จะพัฒนาวิชาบ่มเพาะทั้งห้าธาตุของตนให้แข็งแกร่งขึ้น
และด้วยอานุภาพของเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางนี้ทำให้หลิงหยุนสามารถเผชิญหน้ากับอสุนีบาตสี่สีได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอีก
พลังของอสุนีบาตห้าธาตุครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อหลิงหยุนมากนักเพราะเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เขาก็สามารถฝึกฝนวิชาบ่มเพาะทั้งห้าธาตุนี้ก้าวหน้าเพิ่มขึ้นได้อย่างมากทีเดียว
แต่เป็นเพราะขั้นพลังของหลิงหยุนยังอยู่เพียงแค่ระดับกลางขั้นอู่เฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-5) เขาจึงสามารถฝึกฝนวิชาบ่มเพาะทั้งห้าธาตุได้เพียงเท่านั้น ไม่สามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีก
หลังจากนั้นหลิงหยุนจึงได้หยุดฝึกวิชาบ่มเพาะทั้งห้าธาตุแล้วหันมาดูดซับเอาพลังชีวิตทั้งห้าธาตุเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พลังชีวิตธาตุทองส่วนหนึ่งก็จะเคลื่อนไปรวมตัวอยู่ที่กระดูกสันหลังสีทองของตน และพลังชีวิตทั้งห้าธาตุที่เหลือก็ได้กระจายไปตามเส้นลมปราณ และจุดฝังเข็มต่างๆทั่วร่าง รวมถึงอวัยวะภายในทั้งหมด เพื่อบ่มเพาะสร้างความแข็งแกร่งให้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนสายฟ้าที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้ก็จะถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ในเส้นโค้งรูปมังกร และสระอสุนีบาตสำหรับไว้ใช้ในยามที่ต้องต่อสู้กับศัตรู หรือในยามฝึกฝนวิชา
และเวลานี้ร่างทั้งร่างของหลิงหยุนก็สว่างไสว และมีประกายเจิดจร้าราวกับแก้วใส..
หลังจากนั้นอีกราวสองสามนาทีทัณฑ์อสุนีบาตชุดที่สี่ก็ได้สิ้นสุดลง ไม่เพียงหลิงหยุนไม่เสียชีวิต แต่เขายังแข็งแกร่งขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น ทั้งกายเนื้อ และจุดซือไห่ล้วนแข็งแกร่งขึ้นมากทีเดียว! “ข้าแข็งแกร่งขึ้นมากทีเดียว!”
หลังจากสิ้นสุดทัณฑ์อสุนีบาตหลิงหยุนก็ได้ใช้จิตหยั่งรู้ของตนสำรวจดูภายในร่างกาย และพบว่าจุดซือไห่ที่ไม่ต่างจากท้องทะเลของตนนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก ส่วนกายเนื้อก็ราวกับมีพลังระอุอยู่ทั่วทุกอณู เขาจึงได้แต่ร้องอุทานออกมาด้วยความดีใจ..
เวลานี้หลิงหยุนได้แต่คิดว่าต่อให้เขาเผชิญหน้ากับหลงเทียนฟาง และสองยอดฝีมือจากคุนหลุนพร้อมกันถึงสามคน เขาก็สามารถรับมือคนทั้งสามได้โดยไม่ต้องพึ่งพาไพ่ในมือเลยแม้แต่น้อย!
และนี่คือประโยชน์จากการเข้ารับทัณฑ์สวรรค์!
แม้จะต้องผ่านความเจ็บปวดอย่างสุดแสนทรมานและเหนื่อยยากมากเพียงใด แต่กลับทำให้เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะหาผู้ใดเทียบได้ หากเขายังอยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ เวลานี้ย่อมต้องสามารถเอาชนะยอดฝีมือขั้นปาเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-8) ได้อย่างแน่นอน!
“จะมีทัณฑ์อสุบาตชุดที่ห้าเกิดขึ้นอย่างที่คิดไว้หรือไม่นะ”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองทัณฑ์เมฆาสีดำทะมึนพร้อมกับรำพึงรำพันออกมาเบาๆ เพราะหลังจากที่ทัณฑ์อสุบาตชุดที่สี่สิ้นสุดลง ทัณฑ์เมฆาก็ได้หดเล็กลงกว่าเดิมถึงหนึ่งในสิบ และเวลานี้ก็เหลือเพียงแค่รัศมีไม่เกินหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น หลิงหยุนจึงได้แต่นึกสงสัย..
“เมื่อครู่สายฟ้าทั้งห้าธาตุไม่ว่าจะเป็นธาตุทองธาตุไม้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุดิน ก็ล้วนแล้วปรากฏออกมาหมดแล้วทั้งสิน..”
แต่ถึงแม้จะเกิดทัณฑ์อสุนีบาตชุดที่ห้าขึ้นหลิงหยุนก็ไม่ได้นึกหวาดหวั่นแม้แต่น้อย เพราะเวลานี้เขามีเปลวไฟห้าธาตุหยิน–หยางสำหรับรับมืออยู่แล้ว..
ระหว่างที่รอนั้นหลิงหยุนก็ได้เรียกเกราะภูษาชุดใหม่ออกมาจากแหวนจักรวาล หลังจากสวมใส่แล้ว เขาก็ได้เรียกยันต์เพชร และยันต์เกราะระดับเจ็ดออกมาติดไว้ตามร่างกายเพื่อเตรียมพร้อม
อสุนีบาตสี่สีก่อนหน้านั้นเป็นการรวมตัวของสายฟ้าทั้งห้าธาตุที่สลับกันไปมา เพื่อรวมตัวกันเล่นงานหลิงหยุน และแต่ละธาตุนั้นก็จะเสริมส่งพลังซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังแยกกันทำงาน ในขณะที่อนุสีบาตห้าธาตุนั้นแตกต่างกัน
อสุนีบาตห้าธาตุนั้นนอกจากจะหลอมรวมกันเป็นสายฟ้าห้าธาตุขนาดใหญ่ และแต่ละธาตุก็ส่งเสริมพลังของกันและกันแล้ว ยังทำงานพร้อมกันในคราวเดียวอีกด้วย ทำให้พลังสายฟ้าห้าธาตุนี้มีความรุนแรงกว่าสายฟ้าที่ผ่านถึงห้าเท่า หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่นที่ไม่ใช่หลิงหยุน คงต้องร่างกายแหลกสลายในชั่วพริบตาเป็นแน่..
และหลิงหยุนเองก็รู้อานุภาพของมันดีเขาจึงไม่ประมาท และเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี!
ครืน..ครืน..
ทัณฑ์เมฆาสีดำทะมึนร้องคำรามและเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้งและค่อยๆหดรวมตัวเหลือเพียงแค่เมฆดำขนาดเพียงแค่สิบเมตรเท่านั้น ซึ่งดูคล้ายกับสระอสุนีบาตในจุดตันเถียนของหลิงหยุน หรือหลุมดำเสียมากกว่า..
ท่ามกลางเมฆดำกลมขนาดสิบเมตรนั้นสายฟ้าสีเขียว สีทอง สีแดง สีเหลือง และสีฟ้า กำลังแลบแปลบปลาบอย่างต่อเนื่อง ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวยิ่งนัก ในขณะเดียวกันแรงกดดันระหว่างสวรรค์กับผืนโลกก็เพิ่มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า..
ครืน..ครืน..
หลิงหยุนยังคงมีสีหน้าและแววตามุ่งมั่นไม่มีความอ่อนแอปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่านี่จะเป็นคลื่นอสุนีบาตชุดสุดท้ายของทัณฑ์สวรรค์ซื่อจิ่วแล้ว..
หลิงหยุนทำการเผาเสินหยวนสี่พันแปดร้อยหยดพร้อมกันทันทีและเริ่มใช้พลังวิเศษจากการเผาเสินหยวนนี้ ดึงพลังอมตะสีทองในร่างไปกลั่นเป็นเซียนหยวนสีทองหนึ่งหยดทันที!
บูม!
จากนั้นจึงสร้างโล่ลมปราณขึ้นปกป้องร่างกายไว้อีกหนึ่งชั้น..
เปรี้ยง!!
หลังจากเสียงครืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทัณฑ์เมฆาทรงกลมสีดำขนาดสิบเมตรนั้น ก็ได้เปลี่ยนเป็นสายฟ้าห้าสีขนาดใหญ่ ราวกับเสาที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสามเมตร และกำลังพุ่งลงมาจากท้องฟ้า..
เปรี้ยง!
ร่างของหลิงหยุนถูกสายฟ้าห้าสีขนาดสามเมตรพุ่งตรงเข้าใส่อย่างรวดเร็วและโล่ลมปราณก็แตกสลายในทันที จากนั้นเกราะภูษาของเขาก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา..
ร่างของหลิงหยุนถูกทัณฑ์อสุนีบาตห้าธาตุฟาดจนร่วงลงท้องทะเลไปอีกครั้งและจมลึกลงไปใต้ท้องทะเลกว่าห้าร้อยเมตร แม้แต่ก้นทะเลจีนตะวันออกยังกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ และร่างของหลิงหยุนก็ร่วงลงไปในหลุมนั้น!
หลังจากนั้นทัณฑ์เมฆาสีดำก็หายไปจากท้องฟ้า ทุกอย่างสงบนิ่งราวกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น
….
เวลานี้ใกล้จะตีห้าของเช้าวันใหม่แล้วท้องฟ้าเริ่มสว่างไสว และทางทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแสงสีขาวจางๆขึ้นเหนือท้องทะเล..
“หลิงหยุน!”
เย่ซิงเฉินร้องตะโกนเรียกหลิงหยุนด้วยน้ำตานองหน้าพร้อมกับถือแก้วจ้าวสมุทรไว้ในมือ และรีบพุ่งตามร่างหลิงหยุนลงไปใต้ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว!
ในขณะเดียวกันนั้นเองทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างไปราวสามหมื่นเมตร ร่างของคนห้าคนก็กำลังพุ่งตรงมาด้วยความเร็วเหนือเสียง.. เย่ซิงเฉินเหาะไปใต้ท้องทะเลและพุ่งตามหลิงหยุนลงไปในหลุมอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนออกมาว่า
“คนสวย..นี่เจ้าอยากจะอาบน้ำพร้อมกับข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ”
ภายในหลุมลึกใต้ท้องทะเลร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกคลุมของหลิงหยุน กำลังนั่งขัดสมาธิพร้อมกับจ้องมองเย่ซิงเฉินด้วยแววตาเป็นประกาย โดยไม่นึกอายเลยแม้แต่น้อย
และในที่สุดหลิงหยุนผู้ไร้ยางอายก็สามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร