Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 372

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 372
บทที่ 372 : ล้างบางเมืองจิงฉู (21) – สำเร็จ!
“ห๊ะ..!” “นี่มัน..”
ตำรวจที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันตกตะลึงเมื่อหลงหวู่ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนถึงกับอึ้งเมื่อเห็นหลิงหยุนมีทนายความส่วนตัว!
แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป? เพราะเพียงแค่หลิงหยุนคนเดียว ก็ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็พูดอะไรไม่ออก.. แต่นี่เป็นถึงทนายมืออาชีพ!
หลิงหยุนได้ยินหลงหวู่พูดคุยกับตำรวจด้วยน้ำเสียงจริงจั “คุณตำรวจคะ.. ฉันมีสิทธิ์ปกป้องลูกความของฉันที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่..”
เธอพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยภาษากฎหมาย จากนั้นก็หยิบเอกสารบางอย่างออกจากกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู เพื่อยืนยันการเป็นทนายอาชีพกับตำรวจเหล่านั้น
หลิงหยุนเริ่มรู้สึกสนุกกับเหตุการณ์ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงเอื้อมมือไปสัมผัสไหล่ของหลงหวู่พร้อมกับพูดยิ้มๆ
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะมีอาชีพทนาย..!”
ร่างบอบบางของหลงหวู่ถึงกับสั่นสะท้าน แต่เธอกลับเอื้อมมือขึ้นไปจับฝ่ามือของหลิงหยุนที่วางอยู่บนไหล่ของเธอออกอย่างสุภาพ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังทำงานอยู่ คุณมีอะไรจะทำก็ไปทำ อย่ามาวุ่นวายกับงานของฉันตรงนี้!”
หลิงหยุนหัวเราะอย่างมีความสุข เขาพยักหน้าอย่างภูมิอกภูมิใจ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ถ้างั้นคุณไปหาที่ร่มๆ ค่อยๆคุยกับตำรวจไปจะดีกว่า ตรงนี้แดดจัด เดี๋ยวผิวจะคล้ำหมด..”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็เดินตรงไปยังบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลังหนึ่ง เพื่อไปจัดการทุบทิ้ง และวันนี้ไม่ว่าใครจะมา ต่อให้เป็นเทพก็ไม่สามารถหยุดหลิงหยุนได้อย่างแน่นอน
หลิงหยุนรู้ดีว่าวันนี้จะต้องมีคนใหญ่คนโตมาที่นี่มากมาย แต่ใครจะมาเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น เพราะทั้งหมดที่เขาทำในวันนี้ ก็เพื่อล่อคนคนหนึ่งให้ออกมาเท่านั้นเอง ซึ่งก็คือหัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงคนใหม่ที่ชื่อหลัวจ้ง!
ตอนนี้ตี้เสี่ยวอู๋อยู่ในเงื้อมือของมัน และหากหลัวจ้งไม่หูหนวกตาบอด เขาก็ต้องได้ข่าวเรื่องนี้แล้วอย่างแน่นอน
หลิงหยุนเดินฝ่าฝูงชนออกไป เขาสังเกตเห็นว่าทันทีที่หลงหวู่มาถึง ก็มีคนเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นร้อย และเด็กหนุ่มเหล่านี้ดูเหมือนจะอายุยังไม่เกินยี่สิบปีทั้งนั้น ทุกคนล้วนมีสีหน้าท่าทางที่ดุดัน หลิงหยุนรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาล้วนเป็นคนของแก๊งมังกรเขียว
“นี่แก๊งมังกรเขียวมาช่วยข้าจริงๆด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ข้าตบหน้าหลงหวู่ไป นางไม่โกรธแค้นบ้างหรือยังไง?”
“แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าแม่สาวคนนี้หลังจากลบเครื่องสำอางออกจะสวยและน่ามองถึงเพียงนี้ แต่อารมณ์ของนางก็ยังเกรี้ยวกราดและหยิ่งจองหองเหมือนเดิม ดูเหมือนข้าจะควบคุมนางได้ยาก..”
หลิงหยุนครุ่นคิดในระหว่างที่เดินฝ่าฝูงชนออกไปยังบ้านที่อยู่ติดกันทางฝั่งตะวันออก และเมื่อไปถึงหน้าประตู ฝูงชนก็พากันถอยห่างเพราะรู้ว่าหลิงหยุนกำลังจะทำการทุบบ้านหลังนั้นทิ้ง
หลิงหยุนมองประตูบ้านที่ถูกล็อกไว้ เขายิ้มเย็นชาก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบประตูจนพัง แล้วเดินเข้าไปข้างใน
ตูม.. ตูม.. ตูม.. ครืน.. ครืน..
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวคล้ายกับการทุบบ้านหลังแรกดังขึ้นอีกครั้ง บ้านหลังนี้เล็กกว่าหลังตรงกลาง แต่โครงสร้างและแบบบ้านนั้นเหมือนกัน และจากประสบการณ์ที่ทุบบ้านหลังตรงกลาง ทำให้หลิงหยุนทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก เพียงไม่ถึงสามนาที บ้านทั้งหลังก็ถล่มครืนลงมา!
“แม่เจ้า..! บ้านอีกหลังกำลังจะถล่มลงมาแล้ว..”
“หลิงหยุนทำไมถึงได้มีเรี่ยวแรงมหาศาลแบบนี้ ถ้าเขาทุบบ้านทั้งสามหลังของเถียนป๋อเตาทิ้ง เถียนป๋อเตาจะทำยังไง นั่นมันหมายถึงชีวิตของเขาทั้งชีวิตเชียวนะ!”
“นั่นสิ.. บ้านสามหลังรวมกันก็ไม่น่าต่ำกว่าสิบห้าล้าน นอกเหนือจากบ้านทั้งสามหลังนี้ เขาคงไม่มีทรัพย์สินอื่นเหลือแล้วล่ะ นี่กลับถูกทุบทิ้งทั้งหมดเลย..”
“กรรมตามสนอง.. มันทำตัวเองทั้งนั้น ใครให้มันไปทุบบ้านของคนอื่นก่อน ตอนนี้เขาก็กลับมาทุบบ้านของมันบ้าง?”
“ใช่.. สาสมแล้ว! มันข่มเหงชาวบ้านมาหลายปี แต่ตอนนี้ดันไปสะดุดตอเข้า ฉันแค่คิดไม่ถึงว่า คนที่จะจัดการกับมันจะเป็นลูกชายของจิวยื่อเท่านั้นเอง..”
ระหว่างที่ผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงดังครืนออกมาจากบ้านหลังที่อยู่ทางตะวันออก และบ้านทั้งหลังก็พังครืนลงมาเช่นเดียวกับบ้านหลังตรงกลาง!
เถียนป๋อเตาที่นอนอยู่บนพื้นห่างไกลออกไปนั้น มองบ้านหลังที่สองของเขาถูกทุบทิ้งด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และจิตใจที่ทุกข์ระทม!
“ไม่….!!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใจของเถียนป๋อเตาดังไปก้องไปทั่วทั้งบริเวณ.. แต่หลิงหยุนยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาเดินตรงไปยังบ้านหลังสุดท้ายที่อยู่ทางด้านตะวันตก!
ระหว่างบ้านที่อยู่ทางด้านตะวันออกกับหลังที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกนั้น ห่างกันเพียงแค่สองร้อยเมตรเท่านั้น และตรงกลางก็คือฝูงชนที่พากันมามุงดูเหตุการณ์ ทุกคนต่างก็มองหลิงหยุนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่มีใครสักคนเดียวที่จะกล้าเข้าใกล้เด็กผู้ชายที่เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยฝุ่น
หลิงหยุนช่างน่ากลัวมาก!
เมื่อมีคนไปทุบทำลายบ้านของเขาทิ้ง เขาก็กลับมาทุบทำลายบ้านของคนผู้นั้นทิ้งเช่นกัน อีกทั้งยังไม่ยอมฟังอะไรจากใครทั้งนั้น และไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขาใช้วิธีตอบโต้ที่ธรรมดาที่สุดและยุติธรรมที่สุดในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่สุด!
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพื่อห้ามปรามหลิงหยุนแม้แต่คนเดียว และสิ่งที่หลิงหยุนทำนั้น ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหวาดกลัวจนพูดอะไรไม่ออก!
ทุกคนต่างก็ตระหนักว่า.. หลิงหยุนไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ และไม่ใช่คนที่ใครจะลองดีด้วยได้!!
หมู่บ้านหลินเจียงอยู่แถวชานเมืองทางด้านตะวันออกของเมืองจิงฉู จากตัวเมืองมาที่นี่ก็ต้องขับรถราวสิบห้านาทีเป็นอย่างน้อย ข่าวคราวเรื่องหลิงหยุนจัดการทุบบ้านไปแล้วถึงสองหลังนั้น ได้ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งเมืองจิงฉูแล้ว!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลิงหยุนจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้หรือไม่? เพราะแม้แต่ข้าราชการตำแหน่งเล็กๆอย่างเถียนป๋อเตา ที่ไม่ได้มีลูกน้องหรือมีหูมีตามากมาย ก็ยังรู้ว่าในเมืองจิงฉูแห่งนี้มีเด็กหนุ่มที่ชื่อหลิงหยุนอยู่
หลิงหยุนโคจรดารกะดายันระหว่างที่เดินแทรกฝูงชนเข้าไปยังบ้านหลังตะวันตก เขาเดินใกล้เข้าไปเรื่อยๆ และเมื่อเดินไปจนเกือบจะถึงหน้าประตูบ้านแล้ว เสียงค่อนข้างเย็นชาก็ดังขึ้นทางด้านหลังของเขา!
“หลิงหยุน.. หยุดเดี๋ยวนี้! เธอห้ามเข้าไปในบ้าน!”
หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับคิดว่าเสียงนี้ช่างคุ้นหูนัก เขายังคงก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าต่อไป พร้อมกับร้องถามขึ้นโดยที่ไม่หันกลับไปมอง
“ทำไมถึงจะเข้าไปไม่ได้?”
หลิงหยุนได้ยินเสียงฝีเท้าดังเร็วขึ้น และค่อยๆเข้าใกล้เขามากขึ้น เสียงร้องตะโกนของผู้หญิงดังขึ้นกว่าเดิม
“หลิงหยุน.. เธอกำลังทำผิดกฎหมาย และเธอจะต้องติดคุก..”
หลิงหยุนรู้สึกขบขันกับคำพูดที่ได้ยิน จึงรีบหันกลับไปมองทันที ผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาด้านหลังของหลิงหยุนนั้น คิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะหยุดและหันกลับมากะทันหัน เธอจึงชนเข้ากับร่างของหลิงหยุนอย่างจัง และตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา!
“เหลียงเฟิงอี้! คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
ร่างที่มีกลิ่นหอมจางๆของหลิงหยุนเบียดเสียดอยู่กับหน้าอกนุ่มนิ่มของเหลียงเฟิงอี้ เธอเห็นสายตาที่อบอุ่นของหลิงหยุน จึงรีบระล่ำระลักถอยออกจากอ้อมแขนของเขา
“นี่.. เธอกล้าเรียกชื่อฉันเฉยๆได้ยังไง.. ยังไม่ปล่อยฉันอีก!”
เหลียงเฟิงอี้หัวใจเต้นแรงเมื่อหลุดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนอย่างไม่ตั้งใจ
ผิวพรรณที่สะอาดสะอ้าน และเสื้อผ้าของเธอล้วนเปื้อนไปด้วยฝุ่นจากตัวของหลิงหยุน แต่เธอกลับไม่สนใจและพูดกับหลิงหยุนด้วยความโมโห
“หลิงหยุน.. เธอทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? นี่มัน.. เธอรู้ไม๊ว่าบ้านสองหลังนี้ราคาอย่างต่ำก็ต้องมากกว่าสิบล้าน เธอไปทุบทิ้งแบบนี้ เธอมีปัญญารับผิดชอบงั้นเหรอ?”
หลิงหยุนกลับตอบยิ้มๆ “รับผิดชอบอะไร? ผมไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ.. ฉางหลิงสบายดีไม๊ครับ?”
เหลียงเฟิงอี้มองหลิงหยุนด้วยแววตาสีหน้าที่บ่งบอกว่า ใช่เวลาที่จะมาถามเรื่องนี้หรือ? เธอจ้องหน้าหลิงหยุนอย่างขุ่นเคืองแต่ก็ตอบกลับไปว่า
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก! ฉันนึกว่าเธอจะลืมฉางหลิงไปแล้วซะอีก! ตอนนี้หลานสาวฉันเอาแต่ร้องห่มร้องไห้!”
หลิงหยุนได้แต่ขอโทษ “สองสามวันนี้ผมยุ่งมาก.. ยังไม่มีเวลาแวะไปหาเธอเลย..”
เหลียงเฟิงอี้เลียริมฝีปากเซ็กซี่ ก่อนที่จะขบริมฝีปากอวบอิ่มเข้าหากัน และพูดต่อว่า “เธอหายไปใหนมา รู้ไม๊ว่าฉัน.. ฉางหลิงไม่ยอมไปโรงเรียนก็เพราะเธอ..”
หลิงหยุนตอบกลับไปว่า “ถ้างั้นคุณก็ช่วยโทรบอกเธอให้ผมหน่อย.. บอกกับเธอว่าผมกลับมาแล้ว ไว้เสร็จธุระแล้วผมจะไปแวะหาเธอ”
ร่างเล็กบอบบางของเหลียงเฟิงอี้ถึงกับสั่น และตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นี่.. ฉันไม่ต้องรอให้เธอมาสั่งฉันหรอกนะ ฉันโทรบอกฉางหลิงไปแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังเดินทางมาที่นี่แล้ว!”
หลิงหยุนรู้สึกว่าเหลียงเฟิงอี้ดูอารมณ์เสียและกระวนกระวายมาก เขาจึงพยักหน้า “ก็ดี.. ฉางหลิงก็ยังมาไม่ถึง ผมกำลังจะทุบบ้านหลังที่สาม คิดว่าคงเสร็จภายในสามนาที น่าจะยังทัน..”
“อะไรนะ?! สามนาทีงั้นเหรอ?”
เหลียงเฟิงอี้เพิ่งมาถึงและเพิ่งลงจากรถ เธอจึงไม่เห็นว่าหลิงหยุนทุบบ้านทั้งสองหลังได้ยังไง แต่เมื่อได้ยินหลิงหยุนพูดว่าจะทุบบ้านทั้งหลังทิ้งภายในสามนาที เธอก็ไม่อยากจะเชื่อ!
แต่เหลียงเฟิงอี้ก็ร้องห้าม “หลิงหยุน.. ฟังฉันนะ! อย่าทำอย่างนี้อีกเลย ทีวีกำลังจะมาถ่ายทอด พวกเขากำลังถ่ายรูปเธอ รูปของเธอจะออกอากาศไปทั่วทั้งเมือง คิดดูให้ดีนะ คนทั้งเจียงหนานจะรู้จักเธอ!”
หลิงหยุนยิ้มให้เหลียงเฟิงอี้แล้วตอบกลับไปว่า “แล้วทำไมผมต้องฟังคุณด้วย?”
เหลียงเฟิงอี้ถึงกับอึ้ง “ก็เพราะฉันเป็นน้าของฉางหลิงไง! แล้วฉันก็อายุมากกว่าเธอ เหตุผลเพียงแค่นี้ยังไม่พอหรือไง..?!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ไม่พอ.. ไม่พอแน่นอน.. คุณคงต้องหาเหตุผลอื่นที่ดีกว่านี้..”
“นี่เธอ..?!”
เหลียงเฟิงอี้ถึงกับงุนงงกับท่าทีที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายของหลิงหยุน เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นอย่างชาญฉลาด เธอมองหน้าหลิงหยุนแล้วพูดอย่างช้าๆ
“เพราะฉันทนเห็นเธอทำผิดกฎหมายไม่ได้ ตลอดทางที่ฉันขับรถมา ฉันเห็นรถตำรวจเต็มไปหมด และทุกคันก็มุ่งหน้ามาที่นี่ อีกอย่าง.. ซูหลิงเฟยเพื่อนของฉันก็บอกว่า หัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงก็กำลังเดินทางมาจับกุมเธอที่นี่ด้วยตัวเอง?!”
ทันทีที่ได้ยินว่าหลัวจ้งกำลังเดินทางมาที่นี่ หลิงหยุนก็ถึงกับใจเต้นแรงด้วยความดีใจ เขาหัวเราะอย่างมีความสุขพร้อมกับปัดฝุ่นที่มือไปมาและพูดขึ้นว่า
“ได้ๆ เพื่อเห็นแก่หน้าของหัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงที่กำลังเดินทางมา ผมจะรอทุบบ้านหลังที่สามต่อหน้าเขาก็แล้วกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร