Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 482
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 482 : สมบัติล้ำค่ำ!
แกร๊ก.. แกร๊ก..
หินก้อนใหญ่ของหลิงหยุนเริ่มแตกร้าวเป็นชิ้นๆ และเสียงแตกร้าวนั้นก็ดังขื้นอย่างน่าหวาดกลัว จากนั้นหินก้อนใหญ่ก็กลายเป็นก้อนกรวดมากมาย!
ร่างที่ไม่ยอมแพ้ของหลิงหยุนนั้นล้มลง และก้อนกรวดที่อยู่ใต้ก้นของเขานั้นก็ถูกบดจนละเอียดเป็นผงไปแล้ว!
มันไม่ธรรมดาเลย!
แรงบีบคั้นที่รุนแรงนี้ไม่เพียงกดลงบนศรีษะ และไหล่ของหลิงหยุนเท่านั้น แต่ยังกระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขาอีกด้วย! และตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก และอวัยวะภายในต่างๆ แม้แต่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย เส้นประสาททุกเส้น ต่างก็ได้รับแรงบีบคั้นที่น่าสยดสยองนี้อย่างทั่วถึง!
เพียงแค่หันหน้าหลิงหยุนยังไม่สามารถทำได้.. ในเวลานี้ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ เส้นเลือดต่างๆตามใบหน้าและลำตัวต่างก็ปูดโปนขึ้นมาอย่างชัดเจน หลิงหยุนขบฟันแน่นในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างถูกแรงบีบคั้นอย่างรุนแรง!
แม้แต่การหายใจก็เป็นไปอย่างยากลำบาก และเลือดภายในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะหยุดหมุนเวียนได้ทุกเมื่อ ปฏิกิริยาการตอบโต้ก็สูญเสียไป สติ และสมองก็ดูเหมือนจะหยุดทำงานได้แทบทุกเวลา!
แต่ถึงกระนั้น.. หลิงหยุนกลับไม่ยอมรับชะตากรรม เขาต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง และกำลังพยายามอย่างหนักที่จะเดินลมปราณในจุดตันเถียนอันน่าอัศจรรย์ของตนเอง เพื่อสร้างพลังหยินและหยางขึ้นมา..
แต่ก็ไร้ประโยชน์! เพราะบททดสอบในขั้นนี้ มีอานุภาพที่เหนือกว่ากำลังความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในปัจจุบันมาก จนยากที่เขาจะสามารถต้านทานได้!
“นี่ไม่ใช่บททดสอบที่ข้าควรจะได้รับในตอนนี้นี่.. ต้องการจะให้ข้าตายให้ได้หรือยังไง..?”
ในที่สุดหลิงหยุนก็เข้าใจได้ว่า.. มันไม่ใช่บททดสอบใดๆจากสวรรค์ แต่เป็นความตายที่มอบให้กับเขาต่างหาก!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ก่อนที่จะหลับตาลง.. หลิงหยุนก็มองไปยังเมฆหลากสีที่นิ่งอยู่กับที่ไม่ล่องลอยไปตามสายลม จากนั้นจึงกวาดสายตาไปยังร่างที่งดงามบอบบางของไป๋เซียนเอ๋อ!
สายตาของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า.. ขอร้องให้ไป๋เซียนเอ๋อออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
ไป๋เซียนเอ๋อซึ่งยืนอยู่ข้างหลิงหยุนภายใต้กลุ่มเมฆหลากสีนั้น แววตาที่ดูลึกลับเป็นประกายชวนฝันของนางเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ไป๋เซียนเอ๋อพยายามโน้มตัวเข้าไปใกล้หลิงหยุนให้มากที่สุด
หยดน้ำตาบนใบหน้าของไป๋เซียนเอ๋อนั้น ไม่เพียงสะท้อนภาพก้อนเมฆหลากสีที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ยังสะท้อนภาพเด็กหนุ่มตัวโตที่ล้มลงไปกับพื้นอย่างหมดทางสู้ แต่ก็ยังพยายามดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดกำลัง
ไป๋เซียนเอ๋อยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า “เซียนเอ๋อจะเป็นเกราะป้องกันให้นายท่านเอง!”
เปรี้ยง!
ร่างของไป๋เซียนเอ๋อปรากฏเปลวเพลิงสีแดงขึ้นมาทันที และเปลวเพลิงสีแดงนั้นก็ได้ขยายใหญ่จนปกคลุมร่างของทั้งคู่ไว้ด้านใน!
ไป๋เซียนเอ๋อใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดของสุนัขจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง สร้างโล่ไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นเกราะป้องกันทั้งนางและหลิงหยุนจากสายฟ้าไว้!
เปลวเพลิงสีแดงนี้ไม่เผาไหม้เสื้อผ้า และไม่เผาไหม้ร่างของหลิงหยุน แต่มันเป็นคล้ายกับม่านเพลิงทรงกลมที่จะช่วยหลิงหยุนต้านทานบทลงโทษที่รุนแรงจากสวรรค์ได้!
‘เซียนเอ๋อ… อย่า..’!” หลิงหยุนได้แต่ร้องตะโกนอยู่ในใจ..
ไป๋เซียนเอ๋อกำลังพ่นไฟ และไม่สนใจคำขอร้องของหลิงหยุน!
หากจะอยู่.. ก็อยู่ด้วยกัน! หากจะตาย.. ก็ตายด้วยกัน! ใบหน้าของไป๋เซียนเอ๋อนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และยินดีที่จะตายพร้อมหลิงหยุน!
หลิงหยุนสัมผัสได้ว่าแรงบีบคั้นที่กดลงบนร่างของเขานั้นค่อยๆลดความรุนแรงลง แต่ช่างโชคร้าย.. ความแข็งแกร่งของไป๋เซียนเอ๋อนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ จึงไม่ต่างจากมดเล็กๆตัวหนึ่งเท่านั้น!
เปรี้ยง!
ไป๋เซียนเอ๋อหาญกล้าช่วยหลิงหยุนต้านทานต่อบททดสอบของสวรรค์ สายฟ้าที่มีอานุภาพรุนแรงฟาดลงบนร่างของไป๋เซียนเอ๋อ และแรงบีบคั้นของมันก็ไม่ได้รุนแรงน้อยไปกว่าของหลิงหยุน นางจึงไม่สามารถต้านทานได้ กระดูกหัวไหล่แตกละเอียด ก่อนจะค่อยๆหายใจไม่ออก และล้มลงต่อหน้าหลิงหยุน
ไป๋เซียนเอ๋อร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะกระอักออกมาเป็นเลือด แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้กับหลิงหยุนพร้อมกับบพูดออกไปว่า
“นายท่าน.. ในที่สุดเซียนเอ๋อก็ได้ตายพร้อมกับท่าน..”
ด้วยสภาพของไป๋เซียนเอ๋อในเวลานี้.. หากสวรรค์มีตาจริง ก็ไม่ควรใช้สายฟ้าที่รุนแรงกับนางถึงเพียงนี้!
ไม่เพียงสวรรค์ไม่ผ่อนปรน แต่ยังเพิ่มแรงบีบคั้นที่รุนแรงยิ่งกว่า!
หลิงหยุนไม่สนใจสวรรค์อีกแล้ว.. เขาได้แต่มองไป๋เซียนเอ๋อที่ค่อยๆแน่นิ่งไปในอ้อมแขนของตนเอง จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง..
มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้ว.. ในเมื่อไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ก็ยินดีที่จะตายด้วยกัน!
“คนที่ควรได้รับโทษ ก็สมควรที่จะต้องได้รับการลงทัณฑ์!”
หลิงหยุนยังจำคำพูดของหลวงจีนสิงฉีที่เคยพูดกับเขาได้ เขาได้แต่ยิ้มและไม่มีความเห็นใดๆกับฟ้าดินอีกแล้ว..
สวรรค์ใช่ว่าจะยุติธรรม โลกใช่ว่าจะดี! หลิงหยุนเข้าใจความจริงในข้อนี้ดีกว่าใครๆ
และในเวลานี้ ก้อนเมฆสีต่างๆก็ได้รวมตัวเข้าด้วยกันในที่สุด พร้อมกับทอประกายแสงสีที่งดงามไปทั่วทั้งโลก..
ช่างเป็นภาพที่งดงามชวนฝันยิ่งนัก.. แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ภายใต้ความงดงามนั้นกลับเต็มไปด้วยความโหดร้ายที่จ้องจะเอาชีวิตอีกสองชีวิต!
แรงบีบคั้นระหว่างท้องฟ้ากับผืนดินเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท้องทะเลที่งดงามห่างออกไปราวสิบสองไมล์ทะเลก็ได้รับแรงบีบคั้นเช่นเดียวกัน และหลิงหยุนก็ได้ยินเสียงก้อนหินแตกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
ครืน.. ครืน..
เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มอยู่เหนือศรีษะของหลิงหยุนและไป๋เซียนเอ๋อ ดังจนทะลุเข้าไปในแก้วหูเลยทีเดียว!
“นี่ข้าจะต้องตายแล้วรึ?”
หลิงหยุนรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานบททดสอบของเบื้องบนได้อีกต่อไป.. นี่เป็นคลื่นอสุนีบาตชุดที่สี่ ซึ่งมีทั้งสายฟ้าที่ทรงพลัง และเมฆเก้าสี!
ทั้งหลิงหยุนและไป๋เซียนเอ๋อต่างก็รู้จักวิธีรับมือดี และได้ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีไปกับการรับมือในครั้งนี้จนหมดแล้ว หลิงหยุนแม้รู้ตัวว่าต้องตายแน่แล้ว แต่ดวงตายังคงเป็นประกายด้วยความถือดี และท้าทาย!
หลิงหยุนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.. เขารู้สึกราวกับว่าถูกปราบจนสิ้นฤทธิ์แล้ว และจุดตันเถียนที่ประหลาดของตนเองก็ไม่สามารถหมุนได้อีก
แต่จู่ๆ แรงบีบคั้นระหว่างฟ้าดินก็หายไป! และจุดตันเถียนที่อัศจรรย์ของเขาก็คล้ายกับแตกออก และหมุนอย่างรวดเร็ว!
พลังหยินและหยางกำเนิดขึ้น และเส้นโค้งรูปมังกรในจุดตันเถียนก็เปล่งแสงสีทองสว่างไสวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์!
หลังจากนั้นพลังที่อยู่ภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุนก็ได้กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้เขารู้สึกถึงความสบายอย่างบอกไม่ถูก
“เยี่ยมจริงๆ!”
หลิงหยุนทั้งตกใจและมีความสุขไปพร้อมๆกัน เขาสัมผัสได้ว่าแรงบีบคั้นจากสวรรค์ที่กดทับลงบนร่างของนั้น ได้ถูกพลังเหล่านี้ต้านทานไว้ และเขาก็สามารถขยับเนื้อขยับตัวได้แล้ว!
ภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุนนั้น มีเปลวไฟสีเหลืองมากมาย และเปลวไฟเหล่านั้นก็พุ่งออกมาห่อหุ้มร่างของหลิงหยุนและไป๋เซียนเอ๋อไว้จากแรงบีบคั้นของฟ้าดิน!
“สมุดจักรพรรดิหรือนี่!”
หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เขาร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะรีบเรียกยันต์บำบัดออกมารักษาอาการบาดเจ็บให้กับไป๋เซียนเอ๋อ จากนั้นก็รอให้ไป๋เซียนเอ๋อฟื้น..
“สวรรค์!”
เมื่อหลิงหยุนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของจุดตันเถียน เขาก็ได้แต่ตกใจ!
จุดตันเถียนที่แสนอัศจรรย์ของหลิงหยุนนั้นได้สร้างพลังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่พลังหยินและหยาง แต่กลับเป็นพลังอมตะสีขาวและสีดำแทน!
พลังอมตะสีขาวและสีดำนั้น ได้เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณที่แข็งแกร่งของหลิงหยุน และแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย จนกระทั่งถึงหน้าผาก และตำแหน่งดวงตาที่สามซึ่งอยู่หว่างคิ้วของหลิงหยุน!
และเมื่อถูกพลังอมตะสีดำและสีขาวเข้าจู่โจม พลังอมตะสีทองจางๆซึ่งอยู่ตรงหว่างคิ้วของหลิงหยุนนั้นก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที และในที่สุดก็เคลื่อนตัวออกมาพร้อมกับพลังอมตะทั้งสองเส้น รวมเป็นพลังอมตะสามสาย..
สีเหลืองทองของสมุดจักรพรรดิพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และขยายตัวจนมีขนาดเท่ากับกลุ่มเมฆเก้าสีที่รวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นจึงหยุดนิ่งเผชิญหน้ากับกลุ่มเมฆเก้าสีอย่างไม่ยอมแพ้!
“นี่มัน..?!”
และด้วยกำเนิดของพลังอมตะทั้งสามสามสาย พู่กันจักรพรรดิกลางหว่างคิ้วของหลิงหยุนก็เริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่นั่งเงียบมานาน!
พู่กันจักรพรรดิขนาดเท่าเข็มพุ่งออกจากหว่างคิ้วของหลิงหยุน และค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ากับไม้ถูพื้นในทันที!
พู่กันจักรพรรดิอยู่ในลักษณะที่ปลายพู่กันชี้ขึ้นฟ้า และถึงแม้ว่าจะยังไม่แสดงพลังใดๆออกมา แต่ลักษณะการวางตัวของมัน ก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า.. ใครคือผู้ยิ่งใหญ่!
เมื่อหลิงหยุนได้เห็นเช่นนั้น เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก เขาโอบร่างของไป๋เซียนเอ๋อไว้พร้อมกับพูดยิ้มๆว่า
“เซียนเอ๋อ.. ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่ต้องตายแล้ว!”
หลังจากนั้น.. กลุ่มเมฆหลากสีที่อยู่บนท้องฟ้าก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ไม่มีแม้กระทั่งลมพัด และเมฆบนท้องฟ้าก็ม้วนตัวอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเพิ่มแรงบีบคั้นขึ้นอีกเป็นพันเท่า!
แต่ในเวลานี้.. หลิงหยุนมีสมุดจักรพรรดิทำหน้าที่เป็นเกราะกำบัง เขาจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งหาที่หลบซ่อน และนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสบายอกสบายใจ
ครืด..
หลิงหยุนยืดตัวขึ้นสำรวจไปรอบๆตัวทันที เพื่อต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
แต่ภาพที่ปรากฏนั้น ก็ทำให้หลิงหยุนพออกพอใจอย่างมาก เขาเห็นหม้อทองแดงที่อยู่ไกลออกไปราวแปดร้อยเมตร ลอยขึ้นจากพื้นได้เอง..
ระหว่างนั้น.. หลิงหยุนก็เงยหน้าขึ้นมองแสงสีฟ้าเขียวที่ผ่าลงกลางศรีษะของเขา ในขณะที่หม้อทองแดงก็กำลังลอยอยู่เหนือศรีษะของเขาเช่นกัน ลอยอยู่ในลักษณะที่ปากหม้อหันลงไปทางพื้นดิน ส่วนก้นหม้อชี้ขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเปล่งแสงออกมาเป็นสัญลักษณ์เต๋า และค่อยๆหมุนอย่างช้าๆ!
“ฮ่า.. ฮ่า.. เยี่ยมจริงๆ! หม้อทองแดงนี้ก็คือหม้อเสินหนงของแท้ ช่างเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งนัก!”
ในที่สุดหลิงหยุนก็ได้รู้ว่า หม้อทองแดงที่เขาพบในป่าเสินหนงเจี๋ยนั้น ที่แท้ก็คืออุปกรณ์ที่จักรพรรดิเสินหนงใช้ในการปุรงยานั่นเอง!
“สวรรค์.. ท่านต้องการให้หลิงหยุนตาย ก็ต้องมาดูกันว่าเมฆหลากสีของท่าน กับสมบัติล้ำค่าของข้า สิ่งใหนจะอัศจรรย์กว่ากัน!”
หลิงหยุนโอบร่างบอบบางของไป๋เซียนเอ๋อไว้ พร้อมกับวิ่งไปยังกลุ่มเมฆหลากสี และใช้มังกรคำรามร้องตะโกนออกไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร