บทที่ 706 : สังหารนินจา!
หลิงหยุนกวัดแกว่งกระบี่สีดำในมือไปมาอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นภาพต่อเนื่องคล้ายม่านสีดำ..
กระบี่สีดำที่ทั้งดุดันและยากที่จะต้านทานได้นั้นกำลังพุ่งเข้าใส่ร่างที่บาดเจ็บสาหัสของอากามัสุ ไคสุเกะอย่างไร้ความปราณี แทบมองไม่ออกว่าหลิงหยุนจะสับร่างของเขาออกเป็นกี่ชิ้นกันแน่!
สาเหตุที่อากามัทสุไคสุเกะมีสีหน้าตกใจจนช็อคนั้น ไม่ใช่เพราะว่าเขาหวาดกลัวต่อความดุดันเหี้ยมโหดของหลิงหยุน และไม่ใช่เพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถหนีรอดเงื้อมือของหลิงหยุนไปได้ แต่เป็นเพราะหลิงหยุนสามารถมองเห็นร่างของเขาที่ใช้วิชานินจิทสุหายตัวไปต่างหาก อากามัทสุตกใจจนช็อคเมื่อพบว่าหลิงหยุนสามารถคาดเดาตำแหน่งของเขาได้อย่างแม่นยำ!
อากามัทสุไคสุเกะนั้น นับว่าเป็นนินจาอาวุโสที่เก่งกาจคนหนึ่งในจำนวนนินจาทั้งหมด ตราบใดที่คู่ต่อสู้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขาแล้วล่ะก็ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนผู้นั้นจะได้สัมผัสแม้แต่เงาของเขา แต่เหตุใดหลิงหยุนจึงสามารถมองเห็นเขาได้
แต่ในวินาทีแห่งความเป็นความตายเช่นนี้อากามัทสุ ไคสุเกะไม่มีเวลามาคิดหาคำตอบ เขาจะต้องรวบรวมลมหายใจเฮือกสุดท้ายจัดการสังหารหลิงหยุนให้ได้ภายในดาบเดียว!
อากามัทสุรู้ดีว่า..ต่อหน้าหลิงหยุนในระยะประชิดเช่นนี้ ยากนักที่เขาจะสามารถหลบหนีไปได้ อีกทั้งหลิงหยุนก็ได้ใช้กระบี่ล็อคร่างของเขาไว้กับที่ และไม่ว่าอากามัทสุจะเคลื่อนที่ไปทางใหน หลิงหยุนก็เพียงแค่บิดข้อมือเบาๆ กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุนก็จะฟันลงบนร่างของเขาทันที และนั่นจะยิ่งทำให้เขาตายเร็วขึ้นกว่าเดิม!
มีเพียงต้องสู้สุดใจเท่านั้น!
อากามัทสุไคสุเกะปล่อยมือจากมีดสั้นที่ใช้จู่โจมหลิงหยุน และเปลี่ยนมาใช้ดาบยาวสีขาวในมือแทน เขารวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายจับดาบยาวไว้ทั้งสองมือ และไม่สนใจกับบาดแผลฉกรรจ์บนหน้าอกข้างขวาของตนเอง และทำการรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเงื้อดาบในมือขึ้นกั้นกระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนที่กำลังฟาดฟันลงมา!
เคร้ง!
กระบี่ของหลิงหยุนและดาบของอากามัทสุต่างก็ปะทะกันอยู่กลางอากาศเป็นรูปกากบาทอันใหญ่ จากนั้นดาบสีขาวหิมะของอากามัทสุก็หักคามือทันที!
ดาบที่หักครึ่งหนึ่งของอากามัทสุกระเด็นลอยละลิ่วไปกลางอากาศในขณะที่กระบี่โลหิตแดนใต้ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการสังหารอากามัทสุในครั้งแรก ยังคงกวัดแกว่งราวกับม่านน้ำตกสีดำ และพุ่งเข้าใส่ศรีษะของอากามัทสุอย่างต่อเนื่อง!
“อะไรกัน!”
ครั้งนี้อากามัทสุไคสุเกะไม่สามารถต้านทานต่อความแข็งแกร่งของหลิงหยุนได้อีก แววตาของเขาบ่งบอกถึงการตัดสินใจครั้งสุดท้าย ดวงตาของอากามัทสุหรี่เล็กลงก่อนจะพลิกตัวไปทางด้านซ้ายทันที!
ระหว่างเสี้ยววินาทีนั้นอากามัทสุมีเวลาเพียงแค่เบี่ยงตัวและศรีษะของตนเองหลบกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขวาของหลิงหยุนเท่านั้น และกระบี่ในมือของหลิงหยุนก็เฉี่ยวลำคอทางด้านขวาของอากามัทสุไปอย่างเฉียดฉิว!
แต่นั่นก็ทำให้ไหล่ขวาของอากามัทสุปะทะเข้ากับกระบี่สีดำในมือขวาของหลิงหยุนเป็นเหตุให้แขนขวาของเขาถูกหลิงหยุนตัดขาดจนเลือดสาด!
หลิงหยุนจบลงในท่าที่มือทั้งสองข้างกำกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้พร้อมกับนิ่งอึ้งไป..เพราะถึงแม้อากามัทสุจะถูกหลิงหยุนตัดไหล่ขวาจนขาด แต่กลับไม่มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดออกมาให้ได้ยินแม้แต่น้อย และความสามารถในการอดทนของอากามัทสุนั้น ก็ทำให้หลิงหยุนถึงกับพยักหน้ายอมรับจากใจ..
หากก่อนหน้านี้อากามัทสุไคสุเกะไม่ฉวยโอกาสใช้วิชานินจิทสุหายตัวเพื่อจู่โจมหลิงหยุน แต่เลือกที่จะเผชิญหน้ากับหลิงหยุนตรงๆ ด้วยพลังชี่ที่แข็งแกร่งของในขั้นเซียงเทียน-7 ของเขานั้น ก็ยากที่กระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนจะสามารถทำลายได้ง่ายๆ
ภายในคฤหาสน์ตระกูลเฉินหลิงหยุนบุกเข้ามาเพียงแค่คนเดียว เขารู้ดีว่าอากามัทสุ ไคสุเกะเป็นเพียงผู้นำร่องเท่านั้น ยังจะต้องมีนินจาคนอื่นๆตามมาอีกอย่างแน่นอน หากใช้เวลาในการต่อสู้นานเกินไป คนที่เสียเปรียบก็จะกลายเป็นเขา และหากผู้ที่ตามมานั้นเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับอากามัทสุแล้วล่ะก็ ถึงเวลานั้นหากเขาคิดจะหนีก็ลำบากเสียแล้ว!
พูดง่ายๆก็คือว่า..หลิงหยุนประเมินความแข็งแกร่งของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-7 ต่ำเกินไป!
ส่วนอากามัทสุไคสุเกะนั้นก็ผยองมากจนเกินไป เขาต้องการให้หลิงหยุนได้สัมผัสวิชานินจิทสุซึ่งเป็นวิชานินจาชั้นสูงของเหล่านินจา จึงได้ใช้วิชานินจิทสุจู่โจมหลิงหยุนเช่นนั้น และนั่นนับว่าเป็นการกระทำที่ตื้นเขินและน่าขันมาก!
เพราะจิตหยั่งรู้ในขั้นนี้ของหลิงหยุนนั้นเพียงแค่ลมพัดผ่านเขาก็สามารถมองเห็นได้ ใหนจะยังมีเนตรหยิน-หยางของอีกด้วยเล่า..
ดังนั้นหลิงหยุนจึงสามารถมองเห็นอากามัทสุที่จู่โจมเข้ามาทางด้านหลังของตนเองได้อย่างชัดเจนจึงจัดการโจมตีอากามัทสุกลับด้วยสภาพที่น่าสยดสยองเช่นนั้น และนั่นทำให้อากามัทสุถึงกับเป็นอัมพาตไปในทันที เพราะการจู่โจมของหลิงหยุนครั้งนั้น ทำให้อากามัทสุไม่สามารถรวบรวมลมปราณป้องกันตนเองได้ทัน
หลังจากนั้น..หลิงหยุนก็ได้จัดการทำลายเส้นลมปราณของอากามัทสุหลายเส้น เพื่อป้องกันไม่ให้เขารวบรวมลมปราณภายในร่างกายได้อีก
อากามัทสุไคสุเกะที่ตอนนี้สูญเสียงพลังชี่ในการป้องกันตัวเองไป จึงไม่ต่างจากลูกพลับนุ่มนิ่มในสายตาของหลิงหยุน ซึ่งเขาจะจัดการเมื่อไหร่ก็ย่อมได้!
เวลานี้อากามัทสุสูญเสียแขนขวาและดาบของเขาก็หักไปแล้ว หลิงหยุนจึงจัดการแทงกระบี่โลหิตแดนใต้ซ้ำลงไปบนบาดแผลข้างซี่โครงด้านขวาของเขาอีกครั้ง!
เนื่องจากอากามัทสุสูญเสียเลือดไปมากสีหน้าของเขาจึงซีดเผือด และด้วยความเจ็บปวดที่เหลือล้น เหงื่อเม็ดโป้งจึงผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเขา และค่อยๆไหลลงราวกับสายฝนพร้อมกับร่างที่สั่นอย่างรุนแรง!
และกระบี่โลหิตแดนใต้ที่แทงซ้ำไปยังซี่โครงด้านขวานั้นก็ได้สร้างบาดแผลที่ลึกกว่าหนึ่งนิ้วให้กับอากามัทสุ!
“มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าไม่สามารถหลบหนีได้!”
หลิงหยุนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาและกระบี่มังกรขาวก็ปรากฏขึ้นที่มือข้างซ้ายของหลิงหยุน จากนั้นจึงร่ายรำเพลงกระบี่เข้าใส่ร่างของอากามัทสุอีกครั้ง
หลิงหยุนไม่ปล่อยโอกาสให้อากามัทสุได้มีเวลาแม้แต่จะห้ามเลือดเพราะยอดฝีมือระดับนี้นั้น สามารถทำให้เลือดในร่างกายหยุดไหลได้ เพราะหากเลือดไหลไม่หยุดเช่นนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือก็ต้องตาย แม้แต่แวมไพร์ก็เช่นเดียวกัน!
ชัวะ..ชัวะ.. ชัวะ!
เนื่องจากบาดแผลของอากามัทสุนั้นล้วนอยู่ทางร่างกายด้านขวาเสียส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกด้านขวาที่ถูกแทงทะลุสาหัส และแขนขวาตั้งไหล่ลงมาถูกตัดขาด ทำให้อากามัทสุเคลื่อนไหวไม่สะดวก จึงสามารถถูกหลิงหยุนสังหารได้ทุกวินาที!
“ท่านอากามัทสุได้รับบาดเจ็บ!”
“รีบไปช่วยเขาก่อนเร็วเข้า!”
หลังจากนั้นไม่นาน..ก็มีนินจาอีกหกคนกระโดดเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเฉิน หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจดู และพบว่าทั้งหกคนนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือที่ต่ำกว่าขั้นเซียงเทียน-7 หลิงหยุนจึงไม่ใส่ใจ และหันมาจดจ่ออยู่กับการสังหารอากามัทสุต่อ!
นินจาที่เก่งกาจอย่างอากามัทสุไคสุเกะนั้น หากฆ่าได้ก็ต้องรีบฆ่า เพราะในวันข้างหน้าหลิงหยุนจะต้องงเดินทางไปทวงฝาหม้อเสินหนงที่ประเทศญี่ปุ่น เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกกดดันมาก..
“ฆ่ามัน!”
นินจากทั้งหกคนที่กระโดดเข้าในสวนนั้นต่างก็พุ่งเข้าใส่หลิงหยุนอย่างไม่ลังเล บางคนดูเหมือนจะใช้วิชานินจิทสุอีกด้วย
หลิงหยุนเหลือบมองพร้อมกับโคจรดาราคุ้มกายขั้นสุดและใช้มังกรพรางร่าง และเงาลวงตาสร้างความงุนงงให้กับนินจาทั้งหกคนที่กำลังบุกเข้ามาช่วยอากามัทสุ ไคสุเกะ!
“ข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่เดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงของหลิงหยุนทั้งเย็นชาและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ พร้อมกับเงื้อกระบี่ในมือขึ้นฟันลงที่ลำคอของของอากามัทสุทันที ศรีษะของอากามัทสุลอยละลิ่วไปกลางอากาศ และเลือดสีแดงก็พุ่งกระฉูดออกจากคอขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที!
“มันสังหารท่านอากามัทสุแล้ว!”
“พวกเราต้องล้างแค้นให้กับท่านอากามัทสุ!”
เมื่อได้เห็นร่างที่ไร้ศรีษะของอากามัทสุไคสุเกะล้มลงกับพื้น นินจาที่มาใหม่ทั้งหกคนต่างก็ดวงตาแดงก่ำ แต่ละคนล้วนจ้องมองหลิงหยุนด้วยความโกรธแค้น และพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนอย่างดุดัน!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองแวมไพร์ขั้นบารอนทั้งเก้าคนที่บินอยู่บนท้องฟ้า ต่างก็บินลงมาอยู่ในระดับหลายร้อยเมตรจากพื้นดิน
เฉินเจี้ยนกุ่ยเมื่อได้เห็นอากามัทสุไคสุเกะได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ก็รู้แล้วว่าสถานการณ์ต้องแย่อย่างแน่นอน เขารู้จักฐานะของอากามัทสุ ไคสุเกะในเหล่านินจาดีกว่าใคร จึงตัดสินใจที่จะลงไปช่วยเขาไว้!
แต่เหล่าแวมไพร์เพิ่งจะบินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ไม่นานและทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกเขาเองก็ไม่สามารถลงมาช่วยชีวิตของอากามัทสุได้ทันเวลา เฉินเจี้ยนกุ่ยได้แต่มองศรีษะของอากามัทสุที่ลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ และได้แต่กัดฟันและแทบอยากจะฉีกเนื้อของหลิงหยุนออกเป็นชิ้นๆ
“ขยะอย่างพวกเจ้านี่นะที่คิดจะแก้แค้น!ข้าว่าพวกเจ้าตามนินจาอาวุโสของพวกเจ้าไปจะดีกว่า!”
หลิงหยุนทำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับกวัดแกว่งกระบี่ในมือตัดร่างของนินจาทั้งสี่คนและใช้มังกรพรางร่างตรงเข้าฟันใส่นินจาที่เหลืออีกสองคน
มือซ้ายร่ายรำเพลงกระบี่นวสังหารส่วนมือขวาร่ายรำเพลงกระบี่ปราบเทวะ และจัดการสังหารนินจาที่เหลืออีกสองคน!
“บุก!”
ในเวลานั้น..แวมไพร์ขั้นบารอนกลายร่างทั้งหกตนก็ได้บินลงมาอยู่เหนือศรีษะของหลิงหยุน พวกมันแต่ละตัวกลางเล็บ และกระพือปีกพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนทันที!
เวลานั้นหลิงหยุนเองก็ได้เรียกคันธนูทองออกมามันสายไปแล้ว.. หลิงหยุนคิดพร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ไปลงนรกซะ!”
หลิงหยุนร้องตะโกนบอกทันทีจากนั้นจึงกระโดดเข้าใส่ร่างของแวมไพร์ทั้งหกตัวที่พุ่งลงมา!
กระบี่โลหิตแดนใต้และดาบพายุในมือทั้งสองข้างของหลิงหยุนกวัดแกว่งไปพร้อมๆกัน หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องใช้เพลงกระบี่ใดๆทั้งสิ้น เพราะรู้ดีว่าด้วยพลังป้องกันของเหล่าแวมไพร์ขั้นบารอนนั้น เพียงแค่กระบี่ทั้งสองในมือของเขา ก็สามารถสังหารพวกมันได้อย่างง่ายดาย
และความจริงก็เป็นเช่นนั้นหลิงหยุนไม่ได้กลัวว่าพวกมันจะบินลงมา แต่กลัวว่าพวกมันจะไม่ยอมบินลงมาเสียมากกว่า!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีสี่ในหกของแวมไพร์หนุ่มที่กลายร่างใหญ่โตนั้นถูกคมกระบี่ของหลิงหยุนเข้าไป และจะบินหนีก็ไม่สามารถบินได้!
“พระเจ้า!นั่นมันอาวุธอะไรกัน!”
“ไม่นะ..รีบหนีไปเร็วเข้า!”
แวมไพร์ทั้งสองตนกระพือปีกบินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าและชนเข้ากับร่างของเพียร์ซกับจอยซ์อย่างจัง!
แต่ในเวลานั้นเองระหว่างที่ร่างของแวมไพร์ซึ่งถูกเขาสังหาร และกำลังร่วงลงมานั้น หลิงหยุนก็ได้อาศัยจังหวะนี้เหยียบลงบนร่างไร้วิญญาณของมัน และอาศัยแรงส่งกระโดดขึ้นไปฟันใส่แวมไพร์ที่กำลังบินหนีอีกสองตัว!
ดาบพายุที่ไม่เพียงมีความยาวถึงหนึ่งเมตรครึ่งแต่ยังมีความพิเศษในการทำให้แวมไพร์กลายเป็นบริวารที่ซื่อสัตย์ของเขาอีกด้วย..
“พระเจ้า..นี่มันอะไรกัน!”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกอยากยอมแพ้!”
เพียร์ซกับจอยซ์ตกใจสุดขีดแวมไพร์ทั้งสองตนต่างก็จ้องมองดาบพายุในมือหลิงหยุนด้วยความสยดสยอง พวกมันหวาดกลัวจนลืมนึกถึงปีกด้านหลังของตัวเอง!
หลิงหยุนจัดการใช้ดาบพายุตัดเข้าที่ร่างของแวมไพร์ขั้นบารอนทั้งสองที่กำลังหวาดกลัวจากนั้นจึงรีบกัดนิ้วชี้ข้างขวาของตนเองให้เลือดไหล และรีบหยดเลือดลงบนบาดแผลของเพียร์ซและจอยซ์ทันที!
“เอาล่ะ!คราวนี้พวกเจ้าทั้งสองก็กลายเป็นบริวารของข้าแล้ว!”
ร่างของหลิงหยุนร่วงลงสู่พื้นดินจากนั้นเขาก็ไม่สนใจกับแวมไพร์ทั้งสองตนอีก และจัดการเก็บกระบี่กับดาบเข้าไป แล้วเรียกคันธนูทองออกมาอีกครั้ง!
คันธนูพร้อมลูกธนูอยู่ในมือของหลิงหยุนแล้ว!
ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
ลูกธนูแหลมคมสามดอกพุ่งเข้าใส่ร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยที่บินอยู่สูงหลายร้อยเมตรพร้อมกันในทันที!
และแทบไม่ต้องสงสัยลูกธนูทั้งสามที่พุ่งเข้าใส่ร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยนั้นมีพลังหยางบริสุทธิ์ห่อหุ้ม และมันได้ทำลายเส้นลมปราณของเฉินเจี้ยนกุ่ยทันที!
เฉินเจี้ยนกุ่ยไม่กล้าแม้แต่จะดึงลูกธนูออกมันรีบบินหนีออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเฉินอย่างรวดเร็ว!
และหลิงหยุนก็เป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ครั้งที่หนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร