Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 983

ชางซงบอกว่าคืนนี้ศิษย์พี่ของเขาจะไปปราบปีศาจจิ้งจอกและจะไม่ขึ้นมาบนเขาหลงเหมิน ย่อมหมายความว่าเวลานี้ศิษย์พี่ของชางซงได้ไปล้อมบ้านเลขที่-1 ของหลิงหยุนไว้แล้วอย่างแน่นอน..
  นักบวชจากเขาหลงหู่ได้แยกออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มแรกมีทั้งหมดสี่คนซึ่งนำโดยชางซง และเป้าหมายของพวกเขาก็คือสังหารหลิงหยุน ส่วนกลุ่มที่สองนำโดยศิษย์พี่ของชางซง เป้าหมายก็คือสังหารไป๋เซียนเอ๋อ..
  หลิงหยุนไม่รู้ว่านักบวชจากเขาหลงหู่นั้นได้ข่าวคราวของไป๋เซียนเอ๋อมาได้อย่างไรแต่ในเมื่อพวกเขากล้าพูดว่าจะมาปราบปีศาจจิ้งจอกเช่นนี้ หลิงหยุนก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเช่นกัน!
  หากชางซงซึ่งเป็นศิษย์น้องยังอยู่ในขั้นเซียงเทียน-8แล้วศิษย์พี่ของเขาจะอยู่ในขั้นใหนกันแน่ และจะแข็งแกร่งมากเพียงใด?
  นักบวชเหล่านี้กล้าลงมือกับไป๋เซียนเอ๋อก็ย่อมต้องเป็นศัตรูกับเขาไปด้วย หลิงหยุนจึงไม่ต้องการพูดอะไรมาก และเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาทันที
  เวลานี้หลิงหยุนไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากต้องจัดการสังหารยอดฝีมือที่อยู่บนเขาหลงเหมินให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้รีบกลับบ้านโดยเร็ว!
  ชางซงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงขึ้นในตัวหลิงหยุนครั้งนี้เขาไม่พูดพล่ามไร้สาระอีก และรีบแบฝ่ามือออก ภายในฝ่ามือของชางซงปรากฏโอสถทรงกลมอยู่สามเม็ด..
  นักพรตชงซวีถึงกับมีท่าทีตกใจเล็กน้อยและร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
  “นั่นมันยาเม็ดหลงหู่นี่..ดูเหมือนครั้งนี้นักบวชจากเขาหลงหู่จะลงทุนมากเลยทีเดียว!”
  ยาเม็ดหลงหู่นี้เป็นโอสถที่ปรุงขึ้นเฉพาะในกลุ่มของนักบวชจากเขาหลงหู่เท่านั้น สูตรของยาเม็ดหลงหู่จึงเป็นความลับเฉพาะ ยาเม็ดหลงหู่นี้นอกจากจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้หายได้อย่างฉับพลันแล้ว ยังทำให้ผู้ได้กินนั้นสามารถเลื่อนขั้นความแข็งแกร่งของตนเองได้ในทันทีอีกด้วย..
  หากผู้ที่ได้กินยาเม็ดหลงหู่นั้นอยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9ทันทีที่กินโอสถนี้เข้าไปแล้ว ก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้ในทันที!
  และเมื่อยาเม็ดหลงหู่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของชางซงกลิ่นหอมหวลของสมุนไพรก็ลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งยอดเขา ทำให้ยอดฝีมือในที่นั้นต่างก็พากันสนอกสนใจ หลายคนถึงกับทำจมูกฟุดฟิดเพื่อสูดดมกลิ่นหอมเข้าไป..
  ทั้งซีเสียและชิงเฟิงต่างก็จ้องมองยาเม็ดหลงหู่ในมือของชางซงด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะหยิบขึ้นมาคนละหนึ่งเม็ดกลืนเข้าลำคอไป
  นักบวชชางซงก็กลืนโอสถเข้าไปหนึ่งเม็ดเช่นกันและทันทีที่เม็ดยาตกถึงท้อง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณมากมายที่กระจายอยู่บริเวณท้องน้อยของตนเอง และอาการบาดเจ็บเมื่อครู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำ เวลานี้ดูเหมือนว่าสภาพร่างกาย และพละกำลังของเขาจะฟื้นฟูกลับสู่ระดับสูงสุดอีกครั้งแล้ว!
  ซีเสียและชิงเฟิงเองก็รู้สึกไม่ต่างจากชางซง หลังจากที่นักบวชทั้งสามได้กลืนโอสถเข้าไปแล้ว ชางซงก็เป็นฝ่ายก้าวออกไปด้านหน้าพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดังราวกับฟ้าคำราม..
  “พวกเรานักบวชจากเขาหลงหู่..มีหน้าที่ปราบปีศาจ และมาร เจ้าเตรียมตัวตายได้แล้ว!”
  ชางซงเดินนำหน้าไปส่วนซีเสียกับชิงเฟิงก็เดินตามไปด้วยเช่นกัน จากนั้นทั้งสามก็เป็นฝ่ายกระโดดเข้าไปหาหลิงหยุน..
  ลูกนัยน์ตาของหลิงหยุนเป็นประกายวูบวาบและสั่นระริกขึ้นทันที!
  หลิงหยุนเองก็ไม่หลบและไม่ถอยเช่นกัน แต่กลับเป็นฝ่ายโน้มตัวไปด้านหน้า พร้อมกับพุ่งปลายกระบี่ฟาดฟันเข้าใส่หน้าอกของฝ่ายตรงข้ามอย่างว่องไว..
  ในเมื่อนักบวชจากเขาหลงหู่ประกาศจุดมุ่งหมายของตนเองอย่างชัดเจนว่าพวกเขามาจิงฉูเพื่อสังหารไป๋เซียนเอ๋อ ทั้งหมดจึงได้กลายเป็นศัตรูของหลิงหยุนไปโดยปริยาย และจุดจบของพวกเขาทุกคนก็คือต้องตายเท่านั้น!
  หลิงหยุนตั้งปณิธานว่าจะทำทุกวิถีทางให้นักบวชทั้งหมดไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับลงจากเขาหลงเหมินแห่งนี้ได้โดยเด็ดขาด!
  กระบี่ในมือของหลิงหยุนพุ่งเข้าใส่ร่างของนักบวชทั้งสามทันที!
  ปัง!
  ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงโลหะกระทบกันดังเคร้งๆเหมือนก่อนหน้านี้ แต่มันคือเสียงปะทะกันระหว่างพลังปราณที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย..
  และจากการผนึกกำลังร่วมมือกันของสามนักบวชทำให้ครั้งนี้หลิงหยุนกลับกลายเป็นฝ่ายกระเด็นถอยหลังไปไกลถึงสามเมตร ในขณะที่ชางซง ซีเสีย และชิงเฟิงนั้น กระเด็นถอยหลังไปเพียงแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น..
  ‘โอสถนั่นให้ผลที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้เชียวรึทันทีที่พวกมันสามคนกินเข้าไป ถึงกับแข็งแกร่งกว่าเดิมได้เพียงแค่ชั่วพริบตา?’
  หลิงหยุนได้แต่แอบประเมินคู่ต่อสู้อยู่ในใจเงียบๆความแข็งแกร่งของนักบวชทั้งสามหลังจากได้กลืนโอสถนั่นเข้าไปแล้ว ดูเหมือนจะอยู่ในขั้นเซียงเทียน-8..
  “เด็กนั่นคงต้องลำบากแล้วล่ะ..เวลานี้ทั้งสามคนดูเหมือนจะอยู่ในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-8 แล้ว!”
  นักพรตชงซวีเป็นผู้ที่มีปัญญาล้ำเลิศจึงสามารถคาดเดาผลของยาเม็ดหลงหู่ได้อย่างแม่นยำ และได้แต่พึมพำออกมาอย่างตกใจ!
  ในการประมือรอบแรกนี้..นับว่านักบวชทั้งสามจากเขาหลงหู่เป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ถึงกระนั้นชางซงก็อดที่จะตกใจกับความแข็งแกร่งของหลิงหยุนไม่ได้ จึงหันไปมองเหล่ายอดฝีมือที่อยู่รอบๆ พร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า
  “จอมยุทธทุกท่าน..ในเมื่อเส้าหลินกับบู๊ตึ๊งปฏิเสธที่จะลงมือในครั้งนี้ ข้าในฐานะตัวแทนจากเขาหลงหู่ จะขอเป็นผู้นำทุกท่านในการกำจัดมารน้อยตนนี้เอง!”
  “ในเมื่อมารน้อยตนนี้มีกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้ในครอบครองเช่นนี้เหตุใดยังต้องนึกถึงความถูกต้อง และศีลธรรมอะไรอีกเล่า ขอให้จอมยุทธทุกท่านร่วมมือกับข้าสังหารมารน้อยตนนี้พร้อมๆกันเลยจะดีกว่า!”
  ทั้งจื่อหยางและจื่อกวงซึ่งเป็นมือกระบี่ของสำนักคุนหลุน ได้แต่หันไปมองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย และกระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ทันที!
  จี้เสี่ยวฉิงเองก็หันไปมองหลี่เคิ่นวู๋ที่นอนกองอยู่กับพื้นก่อนจะกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน..
  และเวลานี้..หลิงหยุนหนึ่งคนต้องสู้กับยอดฝีมือถึงหกคน!
  “พวกเจ้าคิดว่ารุมข้าพร้อมกันเช่นนี้จะสามารถสังหารข้าได้สินะ!” หลิงหยุนไม่เพียงไม่หวาดกลัว แต่ยังหัวเราะออกมาด้วย..
  จากนั้นจึงใช้วิชาเงาลวงตาและเวลานี้ในวงล้อมของศัตรู ก็ปรากฏร่างของหลิงหยุนขึ้นมาถึงหกร่างพุ่งเข้าฟันกระบี่ใส่ยอดฝีมือทั้งหกอย่างรวดเร็ว!
  เวลานี้หลิงหยุนใช้มังกรพรางร่างขั้นสุดประกอบกับพลังที่ได้จากยันต์เทวะเหิน และภายใต้พละกำลังที่เต็มเปี่ยมเช่นนี้ เงาทั้งหกของหลิงหยุนจึงไม่ใช่เพียงแค่เงา และกระบี่ทั้งหกของหลิงหยุนก็มีพลังปราณจริงแฝงอยู่!
  เสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ..
  จี้เสี่ยวฉิงนับเป็นยอดฝีมือที่อ่อนที่สุดในบรรดาหกคน..กระบี่ยาวในมือของนางจึงถูกหลิงหยุนตัดขาดได้อย่างง่ายดาย และเวลานี้ก็กระอักออกมาเป็นเลือดพร้อมกับกระเด็นถอยหลังไปไกล!
  ส่วนจื่อหยางและจื่อกวงนั้นสามารถต้านกระบี่ที่มีพลังปราณรุนแรงของหลิงหยุนไว้ได้ แต่ก็ถึงกับถอยล่นออกไปไกลถึงสองเมตร!
  มีเพียงนักบวชทั้งสามจากเขาหลงหู่ที่ผนึกกำลังกันและได้กลืนยาเม็ดหลงหู่เข้าไป ที่กระเด็นถอยหลังออกไปเพียงแค่เจ็ดก้าวเท่านั้น..
  หลิงหยุนเองก็ถึงกับตกใจกับพลังโต้กลับที่รุนแรงของนักบวชทั้งสามและครั้งนี้เขาถึงกับเป็นฝ่ายที่กระอักเลือดเสียเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้!
  ‘ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสามร่วมมือกันรุมข้าเพียงคนเดียวเช่นนี้ข้าก็จะจัดการกับพวกเจ้าให้สิ้น!’
  นวสังหาร..
  ไอดำที่รุนแรงและรวดเร็วจากกระบี่ในมือของหลิงหยุน พุ่งเข้าใส่ร่างของนักบวชทั้งสามพร้อมกันทันที!
  ตูม!
  และหลังจากที่ต้านรับไอกระบี่รุนแรงของหลิงหยุนครั้งนี้นักบวชทั้งสามก็ถึงกับกระเด็นถอยหลังออกไปไกลถึงแปดก้าวพร้อมๆกัน!
  ในเวลาเดียวกันนั้นเอง..หลิงหยุนก็อาศัยจังหวะที่ทั้งสามกระเด็นถอยล่นไปนั้น บิดตัวกระโดดเข้าไปหาจื่อหยางกับจื่อกวงแทน และฟันกระบี่ลงไปที่ร่างของยอดฝีมือทั้งสองคนทันที..
  แม้แต่หลวงจีนเจี๋วยหยวนซึ่งจับตามองการต่อสู้มาโดยตลอดนั้นยังถึงกับตกตะลึง และได้แต่แอบคิดว่าพลังปราณของหลิงหยุนนั้นช่างรุนแรงน่ากลัวยิ่งนัก!
  ทั้งจื่อหยางและจื่อกวงที่กลายเป็นเป้าโจมตีของหลิงหยุนไปในชั่วพริบตานั้นในเมื่อไม่สามารถหลบได้ทัน จึงต้องยกกระบี่ในมือขึ้นต้านไว้ทันที!
  เคร้ง..เคร้ง…..ไอรีนโนเวล
  สิ้นเสียงโลหะดังกระทบกันถึงสองครั้งกระบี่ยาวในมือของจื่อหยางและจื่อกวง ก็ถูกหลิงหยุนฟันขาดพร้อมๆกัน สองมือกระบี่ถึงกับอ้าปากกว้าง และเลือดสีแดงก็พุ่งออกจากปากของคนทั้งคู่กระจายสู่ท้องฟ้าเบื้องบนทันที
  เวลานี้พลังปราณของมือกระบี่ทั้งสองยังไม่ฟื้นตัวดีนักและก่อนหน้านี้ก็ได้สูญเสียพลังปราณไปมาก มีหรือที่จะสามารถต้านทานหลิงหยุนได้นานนัก
  แต่จื่อหยางดูเหมือนจะอาการสาหัสกว่าใครๆเพราะก่อนหน้านี้ก็ถูกหมัดของหลิงหยุนชกเข้าที่ลำตัวไปเต็มๆ เวลานี้พลังปราณจึงอ่อนแอมาก และได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงกับต้องคุกเข่าลงกับพื้น!
  “ดูว่าเจ้าจะรับมือข้าได้อีกหรือไม่”
  หลิงหยุนร้องตะโกนบอกพร้อมกับซัดตะปูใหญ่เข้าใส่ร่างของจื่อหยางราวกับห่าฝน..
  จื่อหยางอยู่ในท่าคุกเข่าข้างหนึ่งพร้อมกับปัดป้องตะปูซัดของหลิงหยุนอย่างทรนง!
  ในขณะที่หลี่เคิ่นวู๋เองก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง“ท่านอาจื่อหยาง…”
  จื่อกวงที่ยืนอยู่ข้างจื่อหยางนั้นเมื่อเห็นหลิงหยุนซัดอาวุธลับออกมาเช่นนั้น เขาก็รวบรวมพลังปราณที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และใช้กระบี่ที่เหลือเพียงครึ่งท่อนนั้น ฟาดฟันตะปูใหญ่ที่พุ่งเข้าใส่ร่างของจื่อหยางทันที
  และในระหว่างที่หลิงหยุนกำลังพุ่งเข้าไปเพื่อหมายฟันเข้ากับร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของจื่อหยางอีกหนึ่งดาบนั้นนักบวชทั้งสามจากเขาหลงหู่ก็พุ่งเข้ามาทางด้านหลังของหลิงหยุนเช่นกัน..
  หลิงหยุนไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองแต่มือของเขานั้นกลับตวัดกระบี่มารไปทางด้านหลังของตนเองทันที และปะทะเข้ากับปลายกระบี่ทั้งสามของเหล่านักบวชที่แทงเข้ามาได้อย่างทันท่วงที..
  อั้ก..
  แต่ถึงกระนั้น..ร่างของหลิงหยุนก็ถึงกับเซไปด้านหน้า และกระอักเลือดออกมาเป็นครั้งที่สอง!
  การประมือกับยอดฝีมือในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-8พร้อมกันทั้งสามคนเช่นนี้ ทำให้หลิงหยุนต้องใช้พลังปราณไปอย่างมากมาย และแรงกระแทกจากกระบี่ทั้งสามที่รุนแรงนั้น ก็ทำให้หลิงหยุนถึงกับกระอักออกมาเป็นเลือด..
  จากความเก่งกาจสามารถของหลิงหยุนที่ได้แสดงออกมาก่อนหน้านี้ทำให้นักบวชทั้งสามไม่กล้าเปิดโอกาสให้หลิงหยุนสามารถตั้งตัวได้อีก..
  ในจังหวะนั้น..หลิงหยุนก็ได้ใช้วิชาเงาลวงตา พาตนเองหนีออกจากปลายกระบี่ทั้งสามที่กำลังจี้อยู่ด้านหลังทันที..
  แต่ระหว่างที่นักบวชทั้งสามเงื้อกระบี่ในมือขึ้นพร้อมกันและเตรียมที่จะฟันลงบนเงาของหลิงหยุนนั้น จู่ๆ ชางซงก็ร้องตะโกนออกมาว่า
  “ระวัง..มันอยู่ด้านหลัง!”
  ชางซงสัมผัสได้ถึงกระแสลมที่พัดผ่านแผ่นหลังของตนเองไปจึงรีบร้องเตือนศิษย์น้องทั้งสองทันที จากนั้นตัวเขาเองก็หันหลังกลับไปพร้อมกับแทงกระบี่ในมือออกไปอย่างไม่ลังเล
  ส่วนชีเสียและชิงเฟิงนั้นไม่มีเวลาที่จะหันกลับไปได้ทัน จึงตวัดกระบี่แทงสวนไปทางด้านหลังแทน
  ในระหว่างนาทีแห่งความเป็นความตายนั้นสายตาของหลิงหยุนก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของจุ้ยจู่ซึ่งยังคงนอนอยู่บนพื้น เสี้ยววินาทีที่หลิงหยุนใช้วิชาเงาลวงตาหลบกระบี่ที่แทงจากด้านหลังนั้น ร่างที่แท้จริงของเขาก็ได้ไปยืนอยู่ข้างร่างของจุ้ยจู่ ก่อนจะรีบคว้าร่างของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
  หลิงหยุนรวบร่างของจุ้ยจู่ขึ้นมาพร้อมกับโยนร่างของเขาเข้าไปทางด้านหลังของพี่น้องจากเขาหลงหู่ทันที..
  และจุ้ยจู่ก็ถูกกระบี่ของพี่น้องทั้งสองคนแทงเข้าใส่ร่างตายในทันที!
  “ห๊ะ!”
  ชางซงที่หันหลังกลับมานั้นเห็นจุ้ยจู่ถูกกระบี่สองเล่มแทงตายต่อหน้าต่อตา ก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ และรีบตวัดปลายกระบี่ชี้ขึ้นฟ้าทันที ก่อนจะพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนอย่างคลุ้มคลั่ง!
  หลิงหยุนใช้วิธียืมมือนักบวชจากเขาหลงหู่สังหารจุ้ยจู่!
  เมื่อเห็นชางซงพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนเช่นนั้นทั้งซีเสียและชิงเฟิงต่างก็พุ่งตามเข้าไปอย่างไม่รีรอเช่นกัน!
  ชัวะ!
  ชัวะ!
  ไหล่ของหลิงหยุนถูกกระบี่ของชางซงแทงเข้าแต่ศรีษะของชางซงก็ถูกหลิงหยุนฟันขาดครึ่งซีกเช่นกัน..
  ชางซงซึ่งโกรธแค้นหลิงหยุนอย่างมากที่ทำให้จุ้ยจู่ต้องตายดวงตาของเขาแดงก่ำขณะที่พุ่งเข้าใส่หลิงหยุน และตั้งใจว่าครั้งนี้จะใช้ชีวิตตนเองแลกกับชีวิตของหลิงหยุน..
  หลังจากที่สังหารชางซงได้แล้วหลิงหยุนก็ยกเท้าเตะร่างไร้วิญญาณของชางซงออกไปทันที และไม่รีรอที่จะหันไปจัดการกับซีเสียและชิงเฟิงที่พุ่งตามเข้ามา
  เวลานี้..กระบี่ของทั้งสองคนยังคงเสียบอยู่ที่ร่างของจุ้ยจู่ แต่เมื่อซีเสีย และชีเฟิงเห็นชางซงถูกสังหารอย่างน่าเอน็จอนาถเช่นนั้น ก็โมโหจนไม่สนใจกระบี่บนร่างของจุ้ยจู่อีก..
  ทั้งคู่ต่างก็ร้องตะโกนออกมาอย่างคั่งแค้น..“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
  “พวกเจ้าสองคนก็ควรจะไปอยู่กับพี่น้องของเจ้าในปรโลกได้แล้ว..”
  ทั้งน้ำเสียงและแววตาของหลิงหยุนนั้นมีเพียงความเย็นชา ก่อนจะเงื้อกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือฟันเข้ากับร่างของทั้งสองคนทันที!
  และแล้วร่างของซีเสียและชิงเฟิงก็ถูกหลิงหยุนฟันขาดครึ่งท่อนทั้งคู่!
  ในที่สุด..หลิงหยุนก็สามารถสังหารทูตสวรรค์ทั้งสี่แห่งเขาหลงหู่ได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร