หน้าเรียวเล็กสะสวยของอัญมณีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ไม่เกี่ยวกับพี่ชายฉัน แล้วแผลของเธอคือ……”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ก็ไม่รู้จะพูดเรื่องนี้กับเพื่อนรักยังไง เพราะเธอได้ปิดบังอัญมณีเกี่ยวกับเรื่องของเธอกับภวินท์ตั้งแต่แรกแล้ว
“อันอัน ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว……”ญาธิดาเช็ดน้ำตา จากนั้นได้ฉีกรอยยิ้มออกมาเสี้ยวนึง พร้อมกับเปลี่ยนประเด็น “ไหนบอกว่าให้เราไปรับเธอที่สนามบินไง ทำไมเธอถึงกลับมาเอง ”
อัญมณีพูดอย่างร้อนรนใจสุดขีด “เมื่อกี๊พี่ทัตส่งข้อความมาให้ฉัน บอกว่าเธอเกิดเรื่องตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พอฉันลงจากเครื่องเห็นข้อความปุ๊บ ก็รีบมาที่นี่ทันทีเลย ไหนเธอพูดมาซิว่าไอ้สารเลวคนไหนกันแน่ที่รังแกเธอ!”
ธีทัตที่อยู่ข้างๆเห็นญาธิดามีสีหน้าลำบากใจก็พอจะเดาได้แล้ว เขาทำสีหน้าให้จริงจังขึ้น กระแอมเบาๆแล้วพูดว่า “อันอัน พี่ว่าธิดาก็เหนื่อยแล้ว เธอพาธิดากลับไปพักผ่อนที่คอนโดเธอก่อน มีเรื่องอะไรเดี๋ยวว่างแล้วค่อยว่ากัน”
อัญมณีฟังคำพูดนี้แล้ว ได้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นได้หันไปมองญาธิดาพร้อมถามว่า“งั้น…ธิดา เธอไปที่คอนโดฉันก่อน โอเคมั้ย ”
ญาธิดาลังเลอยู่ครู่นึง จากนั้นได้พยักหน้าพร้อมตอบว่า “โอเค”
เวลานี้เธอเพิ่งหาห้องเช่าเสร็จ ข้าวของก็ยังไม่ทันได้ย้ายเข้าไป อีกทั้งเธอยังได้รับบาดเจ็บอีก บ้านก็ไม่กล้ากลับไป ตอนนี้อันอันกลับมาพอดี เธอไปพักที่คอนโดเธอสักสองสามวันดีที่สุดแล้ว
ธีทัตขับรถส่งทั้งสองมาถึงหน้าตึกคอนโดของอัญมณีแล้ว ได้กำชับว่า“ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”
“ไม่ต้องแล้ว พี่กลับไปก่อนเลย ฉันกับธิดามีเรื่องจะเม้าท์กัน เดี๋ยวค่อยนัดกันวันหลังนะ ”
ในใจเธอเต็มไปด้วยคำถาม แทบอยากถามญาธิดาให้รู้เรื่องไปเลย แต่เนื่องจากพี่ชายตัวเองยังอยู่ตรงหน้า เธอได้แต่กลืนความสงสัยทั้งหมดกลับไปใหม่
ระหว่างพูด เธอได้เปิดประตูแล้วดึงญาธิดาเดินไปที่ประตูทางเข้า
ญาธิดาหันหน้า ธีทัตลงจากรถส่งพวกเธอพอดี ทั้งสองมองหน้า ต่างก็ยิ้มมุปากและพยักให้แก่กัน
ในใจเธอรู้ดีว่าเธอกับธีทัตยังไม่ถึงขั้นที่คุยกันได้ทุกเรื่อง
เมื่อเทียบกันแล้ว เธอยอมพูดกับเพื่อนรักตัวเองมากกว่า
สังเกตเห็นสายตาของญาธิดาแล้ว อัญมณีได้แซวเล่น “แหม ไม่ต้องมองแล้ว ขืนมองอีกเธอก็ไม่ต้องไปกับฉันแล้ว กลับบ้านกับพี่ชายฉันโดยตรงเลยดีกว่า!”
ญาธิดาทั้งโกรธทั้งหัวเราะ “อันอัน อย่าพูดมั่วนะ”
ตอนนี้เธอกับธีทัตมากสุดก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน ยังไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นอย่างอื่น
“เอาล่ะ ไม่แกล้งเธอแล้ว ” อัญมณีเก็บสีหน้า จู่ๆจริงจังขึ้นมา เธอได้ยื่นมือดึงมือซ้ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของญาธิดาไว้ น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง “ธิดา ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ ”
พวกเธอรู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว แค่เห็นสีหน้าของญาธิดาเธอก็สามารถเดาได้เลยว่าหมายความว่ายังไง
“ฉันมีเรื่อง…ปิดบังเธอจริงๆ”ญาธิดาละอายใจ “เดี๋ยวกลับไปค่อยว่ากัน”
คอนโดนี้อยู่ละแวกใจกลางเมืองนี้เอง เป็นคอนโดที่อัญมณีได้ซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อหนีการพบปะหาคู่ครอง และตอนที่ทะเลาะกับพ่อหนีออกจากบ้าน ต่อมาเธอไปต่างประเทศ คอนโดนี้ก็ปล่อยทิ้งไว้ตลอด หลายวันก่อนธีทัตเพิ่งเรียกแม่บ้านทำความสะอาดมาเก็บกวาดและซื้อของมายัดตู้เย็นจนเต็มตู้เอง เธอกลับมาก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย
มาถึงคอนโด อัญมณีได้ถอดเขวี้ยงรองเท้าส้นสูง จากนั้นได้หยิบน้ำผลไม้มาสองขวด แล้วทรุดตัวลงบนโซฟา พร้อมแค้นถามว่า “พูดมาเลย ญาธิดา เธอไปทำอะไรลับหลังฉันกันแน่ ”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆและค่อยๆผ่อนคลายอารมณ์ “นี่……ต้องเริ่มพูดจากคุณปภาวีเร่งรัดให้ฉันไปนัดบอดก่อน……”
เธอเล่าไปเรื่อยๆ อัญมณีที่อยู่ข้างๆเหมือนกำลังฟังนิทานอยู่ สีหน้าตื่นเต้น ตอนที่ได้ยินเธอกับภวินท์จดทะเบียนสมรสกัน อัญมณีตะลึงจนอ้าปากค้าง
“ญาธิดา เธอจดทะเบียนสมรสก็ไม่บอกฉันเลยนะ อ๊า!”
เห็นปฏิกิริยานี้ของอัญมณีแล้ว ญาธิดายกมุมปากขึ้นอย่างจนปัญญา “ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...