“ธิดา เรื่องนี้เธออย่ายุ่ง ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อมาชำระความแค้นให้เธอ!”ระหว่างที่อัญมณีพูด ก็ได้ถกแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้น ท่าทางเหมือนจะชกต่อยกัน
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น เขาหันไปมองพายุด้วยสายตาเย็นชา พร้อมออกคำสั่งด้วยเสียงเคร่งขรึม “เอาตัวเธอออกไป”
สีหน้าพายุลำบากใจ เขาย่อมดูออกอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีเรื่องด้วยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านประธาน ได้แต่จำใจก้าวไปข้างหน้า
“คุณครับ รบกวนคุณออกไปกับผมก่อน”
อัญมณีเชอะด้วยเสียงเย็นชา “ออกไป ทำไมฉันต้องออกไป ”
เธอมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะมาด่าไอ้สารเลวที่รังแกธิดาของเธอ
ญาธิดาเห็นอัญมณีไม่ยอมหายโกรธ ได้รีบเกลี้ยกล่อม “อันอัน เธอออกไปรอฉันก่อนนะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา”
เห็นได้ชัดว่าอัญมณีไม่อยากออกไป แต่นาทีนี้พายุที่อยู่ข้างๆได้ยื่นมือมาจับข้อมือขอวเธอเอาไว้แล้ว บีดไปด้านหลังพร้อมกดไหล่ของเธอไว้
อัญมณีถูกเขากดไว้แบบนี้ ทั้งโกรธทั้งโมโหจนหน้าแดงก่ำ “นาย…นายปล่อยมือ!”
“พายุ” เห็นพายุลงมือกับอัญมณี ญาธิดาได้ขมวดคิ้วแน่น “นายระวังขอบเขตด้วย ”
พายุยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วผลักอัญมณีออกไปข้างนอกเบาๆ พร้อมตอบเสียงเบาว่า “วางใจครับ คุณญาธิดา ผมจะระมัดระวังครับ”
ตามด้วยเสียงปิดประตูดัง“ปัง”ทีนึง ไม่นานก็ได้ตัดเสียงดุด่าของอัญมณีและเสียงโน้มน้าวของพายุไว้นอกห้อง ทันใดนั้นในออฟฟิศเหลือแค่เธอกับภวินท์ บรรยากาศกลายเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที
ญาธิดากัดฟัน รวบรวมความกล้าเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วเงยหน้ามองสายตาของผู้ชาย เธอสูดหายใจลึกๆแล้วพูดว่า “เราคุยกันหน่อยค่ะ”
“คุยอะไร ”ภวินท์เดินมาหาเธอด้วยสีหน้าสงบ ลมหายใจนิ่ง แต่มีเพียงแววตานั้นที่เย็นชาจนทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
ในที่สุดเขาก็ได้หยุดลงในระยะทางที่ห่างกับเธอครึ่งเมตร โน้มตัวเล็กน้อยเข้าใกล้มาที่เธอ ลมหายใจของผู้ชายก็ค่อยๆห้อมล้อมเธอไว้
แววตาของเขาลุ่มลึกแต่สดใส เหมือนสามารถมองทะลุใจเธอ เขาอ้าปากเล็กน้อยพร้อมพูดชิวๆว่า “ญาธิดา ผมเคยพูดเมื่อไหร่ว่าไม่รับผิดชอบคุณ ”
เห็นๆอยู่ว่าเธอหนีหน้าเขาตลอด ปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงของเขาเหมือนยาแฝด หล่นอยู่ที่ข้างหูเธอแล้ว ทำให้เธอชาไปทั้งตัว
เธอถอยหลังด้วยจิตใต้สำนึก ตีตัวให้ออกห่างจากเขา บังคับให้ตัวเองมีสติเอาไว้
เมื่อครู่เขาใกล้ชิดเธอขนาดนี้ ทำหัวใจเธอว้าวุ่นไปหมด คำพูดที่เดิมทีเตรียมเอาไว้ว่าจะพูดอะไรก็ได้ลืมไปหมด สมองว่างเปล่า
“ฉัน…ฉันมาลาออกค่ะ”
ไม่กล้ามองหน้าเขา เธอล้วงใบลาออกออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นไปให้เขา
ภวินท์ก้มหน้า เห็นตัวหนังสือใหญ่ๆที่หน้าซองแล้วขมวดคิ้วแน่นทันที แววตามีแสงมืดมนที่ไม่ชัดเจนแวบผ่าน
เขายื่นมือใหญ่รับจดหมายซองนั้นมา หลังจากสายตาได้หยุดอยู่ที่ซองจดหมายชั่วขณะ ก็ได้ฉีกซองจดหมายทิ้งโดยตรงโดยที่ไม่เปิดอ่าน
“คุณ!”ญาธิดามีสีหน้าตกตะลึง “คุณทำอะไร ”
เขาพูดจาเรียบเฉย เสียงไม่มีแรงกระเพื่อมเลยสักนิด “ใบลาออกฉบับนี้เป็นโมฆะ”
ได้ยินคำพูดของเขา ความสงบที่ญาธิดาพยายามรักษาเอาไว้ได้จางหายไปในพริบตา เธอเปิดปากเค้นถาม “ทำไมถึงเป็นโมฆะ ”
ภวินท์มองเธอแวบนึงแล้วไม่ได้พูดอะไรมาก แค่หันหลังเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน แล้วเอาเอกสารชุดนึงออกมาจากลิ้นชัก
เขาเดินมาข้างหน้า เอาเอกสารโยนไปที่บนโต๊ะน้ำชา “สัญญาว่าจ้างฉบับนี้ ด้านในได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายที่ผิดสัญญาจะต้องจ่ายอีกฝ่ายหนึ่งล้าน ชื่อที่อยู่ในนี้ คุณเป็นคนเซ็นเอง”
ญาธิดาหยิบเอกสารขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เห็นชื่อที่ลงนามเอาไว้ในด้านหลังสุดแล้ว เธอทั้งทึ่งและทั้งแปลกใจ
นั่นเป็นลายเซ็นของเธอจริง
หลายวันก่อน พี่แนนบอกว่าจะปรับเงินเดือนให้เธอ ได้เอาเอกสารมาให้เธอเซ็นหลายฉบับ แถมยังบอกว่าได้ต่อสัญญาอีกสามปี ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่ได้ดูเงื่อนไขต่างๆอย่างละเอียดก็เซ็นโดยตรงเลย คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นกับดักของภวินท์!
หัวใจญาธิดาเจ็บแปล๊บๆ เธอเค้นถาม “ทำไม……ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้ ”
เธอไม่เคยขัดใจเขามาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...