มองดูคณินจะเดินไปไกลแล้ว ญาธิดาจึงรีบจ้ำอ้าวเดินตามเขาไป แล้วเอ่ยปากถามว่า “คุณจะไปหาภวินท์จริงๆ หรือ ”
คณินเลิกคิ้ว “ไม่อย่างนั้น?”
มองดูท่าทีแน่วแน่ของเขา ญาธิดาก็ไม่เหมาะจะพูดอะไรอีก ทำได้เพียงเดินตามเขาไปทางบริษัท
มองดูใกล้จะเดินถึงประตูใหญ่ของบริษัทแล้ว ญาธิดารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย แล้วก็ถามอีกคำว่า “คุณมาหาภวินท์เพราะเรื่องอื่นจริงหรือ ”
คณินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ วางใจเถอะ ผมยังรู้อยู่ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ญาธิดาจึงโล่งอก
เมื่อถึงบริษัท ขณะที่รอลิฟต์อยู่ คณินจ้องมองไปทางญาธิดาที่ยืนอยู่ข้างกาย แล้วเอ่ยปากกล่าวว่า “ผมส่งคุณกลับไปที่แผนกก่อน”
ญาธิดาเอ่ยปากปฏิเสธโดยไม่ตั้งตัว “ไม่ต้อง”
หากให้เพื่อนร่วมงานในแผนกเห็นเธออยู่กับคณิน ไม่แน่ว่าอาจจะพูดอะไรกันอีก
“ทำไมไม่ต้อง?” คณินก้มหน้า เอ่ยปากถามกลับอย่างหยั่งเชิง “รู้สึกว่าอยู่กับผมแล้วขายหน้าหรือ?”
“ไม่ใช่…อย่างนั้น สรุปคือฉันกลับไปเองก็พอแล้ว”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเถียงกัน จู่ๆ มีเสียงฝีเท้าแว่วมาจากข้างๆ เพื่อนร่วมงานข้างกายเอ่ยเสียงเบาว่า “ดูซิ คุณภวินท์มาแล้ว ”
ได้ยินคำว่า “คุณภวินท์” ญาธิดาหันหน้าไปอย่างไม่รู้ตัว ตามคาด เห็นกลุ่มคนที่มีหัวหน้าเป็นภวินท์กำลังก้าวเท้าเดินมาทางนี้
ภวินท์ยืนอยู่ตรงกลาง กำลังเอียงข้างเล็กน้อยสั่งงานพายุ คิ้วเข้มดวงตาคมโต สง่าโดดเด่น
คณินก็เห็นเขาแล้ว แววตามีประกายเย็นชาฉายผ่าน พึมพำเสียงเย็นชาว่า “หยาบคายแต่แสร้งเป็นสูงส่ง”
เขายังพูดไม่จบ ภวินท์ก็ได้หันศีรษะกลับมาแล้ว
สายตาภวินท์กวาดไปที่คณิน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเมื่อขยับสายตาไปเห็นญาธิดาที่อยู่ข้างๆ เขา สีหน้าของเขาหมองลงทันที
ทำไมพวกเขาจึงอยู่ด้วยกัน?
ไม่อาจจะสนใจการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชาได้แล้ว ภวินท์ก้าวเท้าตรงไปทางพวกเขา
เขาหยุดเท้าลงที่ระยะห่างครึ่งเมตร มองดูคณินด้วยสายตาเย็นชาแล้วถามว่า “คุณคณิน เป็นอย่างไรบ้าง”
คณินกระตุกมุมปาก ยิ้มอย่างไม่จริงใจ เงยหน้าขึ้น “คุณภวินท์ มีเวลาไหม ไม่เชิญผมไปดื่มกาแฟที่ห้องทำงานของคุณสักแก้วหรือ ”
แววตาของภวินท์เย็นชา สีหน้าไม่เปลี่ยน “หากคุณคณินต้องการ ผมสะดวกเสมอ”
คณินยิ้ม “ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มสักแก้ว”
สายตาของภวินท์หยุดอยู่บนตัวของญาธิดา แล้วกล่าวเอื่อยๆ ว่า “ในเมื่อคุณญาธิดาสนิทกับคุณคณินถึงเพียงนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเลย ”
พูดพลาง เขาก็ก้าวเท้าเดินไปทางลิฟต์ประจำตัว
จู่ๆ ญาธิดาก็ถูกเรียกไปด้วย ทันใดนั้นรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ภวินท์เรียกเธอไปด้วย มันหมายความว่าอย่างไร?
สถานการณ์แบบนี้ เธอก็ไม่กล้าถามมาก ชีวิตสำคัญกว่า จึงทำได้เพียงขึ้นลิฟต์ประจำตัวไปพร้อมกับคณิน
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ติดตามภวินท์อยู่ก่อนนั้นล้วนไม่ได้ตามมา ในลิฟต์นอกจากภวินท์กับคณินแล้ว ก็เหลือเพียงเธอ
ประตูลิฟต์ปิดลง ในพื้นที่ปิด ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศนั้นรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าจงใจหรืออย่างไร ขณะที่อยู่ในลิฟต์เงียบสงบไม่มีเสียงอะไรเลย จู่ๆ คณินหันหน้าไปทางญาธิดา ยิ้มถามว่า “คืนนี้ให้ผมมารับนะ?”
ญาธิดาชะงัก ไม่คิดว่าคณินจะกล้าถึงเพียงนี้ กล้าถามเธอเช่นนี้ต่อหน้าภวินท์
ขณะนี้เธอตอบก็ไม่ใช่ ไม่ตอบก็ไม่ได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...