ญาธิดาใกล้เข้าไป มองดูภาพแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไป
ความจริงแล้ว อัญมณีจะถ่ายรูปก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ เธอกับธีทัตเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดา ในรูป เขาใส่สร้อยคอให้เธอ การกระทำของเขาดูสนิทสนมจนอาจทำให้คนเข้าใจผิดได้
เธอมองดูอัญมณี แล้วพูดเบาๆ ว่า "อย่าเล่นสิ ลบทิ้งซะอันอัน"
อัญมณีกำโทรศัพท์แน่นไม่ยอมลบ "ภาพนี้ถ่ายสวยจะตาย สวยจนทำใจลบไม่ได้เลย!"
ธีทัตสังเกตเห็นสีหน้าที่ผิดปกติของญาธิดา ก็ทำสีหน้าจริงจัง เอื้อมมือไปหาอัญมณี
อัญมณีทำหน้ามุ่ย แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังยื่นโทรศัพท์ให้
ธีทัตรับโทรศัพท์มา มองภาพบนหน้าจอแล้วก็ชะงักก่อนจะกดปุ่มลบ รูปนี้สวยจริงๆ แสงสวย ถ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งทัตก็กดแชร์ส่งให้ตัวเองผ่านไลน์ของอัญมณี แล้วก็ลบรูปนั้นทิ้งไป
หลังจากทำเสร็จ เขาก็คืนโทรศัพท์ให้อัญมณีโดยไม่พูดอะไร ญาธิดาเห็นแล้วคิดว่ารูปถูกลบไปแล้ว ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
จู่ๆ ธีทัตก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก็มองมาที่เธอแล้วถามว่า “ใช่แล้วธิดา วันนี้จะให้ผมไปส่งที่Seremban Hotelไหม”
ญาธิดายิ้มให้เขา พูดปฏิเสธอ้อมๆ “ไม่ต้องหรอกค่ะ งานเลี้ยงเริ่มดึก ฉันไปเองดีกว่า”
อัญมณีเดินมาที่ข้างญาธิดา คว้าเอไว้ “ธิดา ตอนแรกฉันว่าจะไปด้วย เราจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้ที่บ้านจะมีธุระ ฉันกับพี่ไปไม่ได้เลย”
ญาธิดาบีบมือเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม , "เธอทำธุระเถอะ คราวหน้ายังมีอีกแหละ"
ความจริงอัญมณีไม่ไปก็ดีแล้ว ไม่งั้นเธอต้องอธิบายให้หล่อนฟังอีกถ้าเธอทำอะไรไปในงานเลี้ยง ยังไงซะวันนี้เธอก็ไม่ได้แค่ไปร่วมสังสรรค์ในงานวันเกิดท่านสุวิทย์ซะเมื่อไหร่กัน
ออกจากบ้านตระกูลกรเวชแล้ว ญาธิดาก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน กลับถึงบ้าน แต่งหน้าทำผมก็ถึงเวลาอดี
งานเลี้ยงวันเกิดท่านสุวิทย์จัดขึ้นที่Seremban Hotel จัดทั้งหมด3ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถง ชั้นสองเป็นที่นั่งวีไอพี และชั้นสามเป็นห้องส่วนตัว ห้องโถงสว่างและกว้างขวาง โคมระย้าที่ส่องแสงเจิดจ้าจัดวางอาหารบุฟเฟ่ต์ไว้ทั้งสองข้างทาง ดูเหมือนงานเลี้ยงค็อกเทล ชั้น2เป็นสถานที่สำหรับอาหารค่ำ และชั้น3เป็นห้องสำหรับพักผ่อน
ญาธิดาเข้าไปในงานพร้อมกับการ์ดเชิญ หลังจากฟังคำแนะนำจากพนักงานต้อนรับ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
โลกของเศรษฐีช่างเหนือจินตนาการจริงๆ ไม่มีใครรู้ว่าจัดงานคืนเดียวนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน
ในห้องโถง ผู้คนจำนวนมากมาถึงแล้ว ผู้คนครึกครื้น งานครื้นเครงมาก
ญาธิดาไม่ได้นั่งเฉยๆ เดินไปรอบ ๆ หาบันไดและทางเดิน จนรู้ตรอกซอกซอย
เวลาใกล้มาถึงแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อกี้ คนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่านสุวิทย์ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ได้รับคำอวยพรจากทุกคนในที่รวมกันอยู่กลางห้องโถง
เมื่อคนเยอะขึ้น ก็จะลำบากที่จะหาใครสักคน ญาธิดา มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นภวินท์
เธอได้คุยกับเขาล่วงหน้าว่าเธอจะต้องอยู่ในสายตาของเขา รวมทั้งการกระทำของเธอ และต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อนถึงจะเริ่มทำอะไร เพื่อความปลอดภัยของเธอ
ในที่สุด ภวินท์ในชุดสูทสีเทาเข้มก็เดินเข้ามาพร้อม ๆ กับเสียงเซ็งแซ่ที่ทางเข้าห้องโถง ร่างของเขาสูงโปร่ง เดินมาพร้อมกับออร่า ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต้องหลีกทางให้โดยพร้อมกัน ภวินท์เดินไปตามทาง
ญาธิดามองดูชายหนุ่มที่อยู่ในฝูงชน อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเปล่งประกายขนาดนั้นในฝูงชนราวกับว่าทุกสายตาถูกเขาดึงดูดไว้อย่างนั้นแหละ ทำให้เธอมองไปหาใครไม่ได้อีก
ภวินท์พาพายุมาด้วย เดินตรงไปหาท่านสุวิทย์ที่อยู่ตรงกลาง ในไม่ช้า ท่านสุวิทย์ก็สังเกตเห็นคนที่เดินมาแล้วก็ยิ้มทันที
ภวินท์ก้าวไปข้างหน้า เอนตัวไปเล็กน้อย แล้วกล่าวสวัสดีท่านสุวิทย์ "คุณลุง ขอให้คุณลุงอายุยืนยาวครับ"
ท่านสุวิทย์ยิ้มและพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า "ดี ดีเลย นายมาได้ ฉันก็ดีใจมากแล้วล่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...