ดูเหมือนจะดูออกถึงความสงสัยของเธอ ภวินท์จึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเหล้าที่มาร์ตินดื่ม ถูกนีราภาวางยาก่อนแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ร่างของญาธิดาก็ตกใจชะงักทันที
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
เห็นที กับดักที่นีราภาวางไว้สำหรับเธอนี้ รอบคอบทุกรายละเอียดจริง ๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด หากเธอไม่รู้แผนนี้จากภวินท์เสียก่อน เกรงว่าเธอคงจะต้องเสียเปรียบเป็นแน่
มีความเย็นจากฝ่าเท้าขึ้นไปถึงหลังคอ กำปั้นข้างตัวของญาธิดาค่อย ๆ กำแน่นขึ้น บนฝ่ามือมีเหงื่อเย็นเยียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว
เห็นญาธิดายืนนิ่งอยู่นานครึ่งค่อนวัน โดยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แต่สีหน้านั้นขาวซีด เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “นี่เขาเรียกว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง”
นีราภามีจิตใจคิดคด วางกับดักเช่นนี้เพื่อทำร้ายคน แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นตัวเองที่ได้รับผลกรรม เรื่องทั้งหมดก็คือกรรมตามสนองเธอ
ญาธิดาได้สติกลับคืนมา แต่เงียบไม่พูดไม่จา และเดินมานั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยใจที่ยังหวาดผวา
เมื่อก่อนเธอมักจะได้ยินคุณปภาวีพูดถึงความเลวร้ายอันตรายของสังคมอยู่บ่อย ๆ เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ เธอรู้สึกได้จริงถึงความมืดของสังคมนี้แล้ว
มองดูความตกใจมึนงงของหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ ภวินท์ยกมือขึ้นเคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ “ทานอาหารเช้าตอนร้อน ๆ นะ หากไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน”
พลางพูด เขาพลางลุกขึ้น แล้วหยิบกล่องครีมยาที่อยู่ข้าง ๆ วางลงมุมโต๊ะ จากนั้นก้าวฝีเท้าเดินออกไป
ประตูปิดดัง “ปัง” ญาธิดาถึงได้ค่อย ๆ รู้สึกตัว เธอมองไปที่กล่องยาด้วยจิตใจที่สับสนปนเป
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ญาธิดาก็ทำการทายา เห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว จึงหยิบกระเป๋าแล้วตรงไปที่บริษัท
ทันทีที่เธอมาถึงหน้าประตูแผนก เธอก็เจอกับเพื่อนร่วมงานสองสามคนที่ปกติจะไม่ค่อยสนิท แต่คิดไม่ถึงพวกเขานั้นจะเข้ามากล่าวทักทายกับเธอก่อน
ญาธิดารู้สึกมึนงง หลังจากกดลายนิ้วมือเข้างานแล้ว ตอนที่ผ่านบริเวณสำนักงาน พบว่าสายตาของทุกคนที่มองมาทางเธอนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด
ญาธิดาจึงรีบเดินมาถึงที่ห้องทำงานของตัวเอง แล้วมองดูกระจก อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วกล่าว “ใบหน้าของเราก็ไม่ได้มีอะไรเลอะติดนินา!”
ทำไมสายตาของทุกคนตอนที่มองเธอถึงแปลก ๆ
เพิ่งจะนั่งลงไปได้ไม่นาน ประตูห้องทำงานก็มีเสียงเคาะดังลอยขึ้นจากด้านนอก ชมพู่ผลักประตูเข้ามา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างอธิบายไม่ถูก
ญาธิดาจึงรีบถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงมองฉันแบบนี้”
ชมพู่รีบก้าวเดินมาด้านหน้า “เรื่องครั้งก่อนของเธอกับมาร์ตินได้รับการชี้แจงแล้ว เธอไม่รู้เหรอ”
ญาธิดาตกใจชะงัก แล้วส่ายหน้า
ชมพู่รีบเดินเข้ามา แล้วเปิดข้อความกลุ่มออกมาให้เธอดู “ดูสิ มีคนส่งคลิปจากกล้องวงจรปิดเข้ามาในกลุ่ม ในคลิปเห็นนีราภาแอบถ่ายเธอกับมาร์ติน เธอส่งมาร์ตินขึ้นรถเสร็จ เธอก็ไม่ได้ตามเขาออกไป ดังนั้นภาพถ่ายของนีราภาเหล่านั้นนำมาเพียงบางส่วนเพื่อบิดเบือนให้เข้าใจผิด”
“บวกกับเรื่องของนีราภากับมาร์ตินถูกเปิดโปง ทุกคนจึงต่างเดาออกได้ว่านีราภาต้องการปิดหูปิดตาคน ถึงได้แอบถ่ายภาพเธอกับมาร์ตินออกมา ดังนั้นเรื่องก่อนหน้านี้จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นการเข้าใจเธอผิด”
ได้ยินชมพู่พูดแบบนี้ ญาธิดาจึงดูคลิป และถึงได้กระจ่างเข้าใจ
เมื่อคลิปนั้นถูกปล่อยออกมา ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอกับมาร์ตินไม่ได้มีความสัมพันธ์ลับ ๆ กันแต่อย่างใด บวกกับเรื่องของนีราภากับมาร์ตินถูกเปิดโปง ดังนนั้นเรื่องทุกอย่างได้ชี้ชัดไปทางนีราภาทั้งหมด ก็เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะเข้าใจว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องที่เข้าใจผิด และเธอก็คือผู้บริสุทธิ์
เรื่องทั้งหมดนี้ เธอไม่ต้องคิด ก็พอจะเดาออกว่าเป็นฝีมือของภวินท์อย่างแน่นอน
ตอนนั้นเธอกับภวินท์ได้ทำข้อตกลงกัน เธอได้ช่วยเขา เขาคืนความเป็นผู้บริสุทธิ์ให้กับเธอ ก็ถือว่าเป็นการรักษาสัญญา และได้บรรลุถึงผลประโยชน์ร่วมกัน
“ธิดา เธอคิดอะไรอยู่น่ะ! ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้ว เธอยังไม่ดีใจเหรอ!”
เสียงของชมพู่ดึงเธอกลับมาสู่โลกความจริง เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อได้สติ จึงได้ยิ้มให้เธอ แล้วกล่าวเบา ๆ “ฉันแค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...