ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 153

บริเวณชั้นหนึ่งของWesker Nightclub โซนโซฟาทรงกลมทางมุมตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มคนเผชิญหน้ากันอย่างเงียบเชียบ

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในผับบาร์อยู่เป็นประจำ เมื่อไม่ได้ทำอะไรจนเอิกเกริกมากเกินไป จึงไม่เป็นอุปสรรคความสนุกสนานในการพบปะสังสรรค์ของผู้อื่น

แองจี้จ้องนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของตนเอง พลางมองเวลาที่ผ่านไปยี่สิบนาที จนยกมุมปากอย่างเย็นชา และช้อนสายตามองบอดี้การ์ดที่ตรึงตัวญาธิดากับอัญมณีเอาไว้

“ยี่สิบนาทีแล้ว เริ่มเกมได้เลย”

อัญมณีถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งกักให้นั่งลงบนโซฟา พลางมองรอยยิ้มอันแสนภาคภูมิใจที่อยู่บนใบหน้าของแองจี้ จนใกล้จะระเบิดอารมณ์ออกมาอยู่แล้ว

ทั้งๆ ที่พายุตกลงว่าจะให้เธอร้องขอได้สามครั้ง ครั้งนี้ถือเป็นข้อที่สอง แต่เขากลับไม่ยอมมาปรากฏตัวทันที! เสียแรงที่เธอฝากความหวังไว้กับตัวเขา!

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางมองอัญมณีที่อารมณ์อึดอัดอยู่ข้างกาย จนกดเสียงทุ้มเรียกเธอ “อันอัน...”

เมื่อเห็นว่าอัญมณีหันศีรษะมาหา เธอรีบส่งสายตาให้เธอทันที

เวลานี้ เรียกคนมาช่วยเหลือก็มาไม่ทัน งั้นพวกเขาก็ต้องคิดหาวิธีเอาเอง เขาไร้พลังต่อสู้อริศัตรู การหนีถือว่าถือว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นทหารหนีทัพในตอนท้ายสนามรบ พวกเขาก็ต้องลองดูสักตั้ง

ทั้งสองคนรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีแล้ว แค่ส่งสายตาให้กันครั้งเดียว จึงเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

เวลานี้ จึงไม่สนใจว่าจะขายหน้าใครบ้าง ขอแค่หนีให้รอดพ้นไปได้ นักรบผู้กล้าหาญ สิบปีจะล้างแค้นก็ไม่สาย

อัญมณีพยักหน้าให้ญาธิดาเล็กน้อย ทั้งสองต่างเข้ากันความหมายกันแล้ว และหันศีรษะกลับไปพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย เพื่อหาจังหวะ ในการหาโอกาสหลบหนี

ทว่าราวกับพวกเธอประเมินบอดี้การ์ดของแองจี้ต่ำเกินไป พวกเธอสองคนเตรียมลุกขึ้น ร่างกายยังยืนทรงตัวอย่างไม่มั่นคง บริเวณหัวไหล่กลับถูกฝ่ามือใหญ่กดไว้แน่น จนร่างกายถูกผลักจนกระแทกชนโซฟา

หัวสมองของญาธิดากระแทกชนเบาะพิงโซฟาอย่างไร้การป้องกัน “ปึก” เสียงดังขึ้น แถมยังรู้สึกเจ็บขึ้นมาจริงๆ

ไม่รอให้เธอเรียกสติกลับมา แองจี้ที่อยู่ด้านข้างพลันแสยะยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมา “ยังอยากจะหนี? ไม่ดูสภาพตัวเองเลย!”

เธอพูด แววตาเธอฉายแววตาเย็นชาออกมาเล็กน้อย พลางชี้นิ้วมาที่ญาธิดา และส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ด “ลงมือ ฉีกเสื้อของนางออกให้ฉันได้แล้ว!”

เพื่อวินาทีนี้ เธอถึงขั้นทนรอมาตั้งยี่สิบกว่านาที เวลานี้ย่อมไม่ปล่อยเธอให้เธอรอดไปแน่!

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก ญาธิดาตกใจทันที แถมยังตอบสนองไม่ทัน จนร่างกายเหมือนกับเจ้าลูกไก่น้อยที่ถูกคนหิ้วปีกขึ้นมา พลางมองฝ่ามือใหญ่อันหยาบกร้านของบอดี้การ์ดที่ยื่นมาทางเธอ ร่างกายเธอสั่นสะท้านทั้งตัว จึงยื่นมือออกมาผลักตามสัญชาตญาณ

ทว่าเรี่ยวแรงของชายหญิงมันแตกต่างกันมาก เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบอดี้การ์ดจริงๆ ข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึง โดยถูกบิดไว้ทางด้านหลัง และถูกจับไพล่หลังทันที

เห็นกับตามือของบอดี้การ์ดกำลังกระชากเสื้อผ้าของเธอ ญาธิดากัดฟันเอาไว้แน่น ซึ่งไม่สนใจอะไรมากอีกแล้ว อ้าปากและงับมือของคนนั้นทันที

เธอลงน้ำหนัก ใบหน้าบอดี้การ์ดซีดเผือด ข้อมือที่คว้ามือเธอเอาไว้พลันผ่อนลงตามสัญชาตญาณทันที

อีกฝั่ง อัญมณีกำลังต่อสู้กับบอดี้การ์ด ทั้งหยิกทั้งกระชาก โดยใช้เทคนิคศิลปะการป้องกันตัวของผู้หญิงทั้งหมด

ตอนที่ภวินท์กับพายุพุ่งตัวเข้ามาในห้องโถงของWesker Nightclub จึงเห็นภาพเหตุการณ์นั้นเตะตาทันที

เมื่อเห็นหญิงสาวที่ทั้งขี้กลัวและขี้ขลาดอยู่ตลอดซึ่งในเวลานี้กลับลงมือกับคนตัวโตอย่างโหดเหี้ยม หัวใจภวินท์บีบรัดแน่น และไม่หยุดเคลื่อนไหวเพียงเสี้ยวลมหายใจ พลันรีบสาวเท้าก้าวเดินไปทางด้านหน้าอย่างรีบเร่ง

ตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้ บังเอิญเป็นเวลาที่ญาธิดาถูกบอดี้การ์ดจับไว้ได้อีกครั้ง เพราะว่าเมื่อครู่มีการขัดขืนจากการต่อสู้กันอยู่สักพัก จนเส้นผมหลุดลุ่ยคลอเคลียข้างแก้มทั้งสองข้าง ส่วนเสื้อคอวีก็แหวกไปอีกทาง จนเผยให้เห็นไหปลาร้าครึ่งหนึ่งที่ช่างยั่วยวนชวนให้คนคลั่งไคล้

ดั่งเจ้าแมวป่าตัวน้อยที่กำลังโมโหหน้าเหวี่ยง

เมื่อมองเห็นบอดี้การ์ดกำลังบีบข้อมือทั้งสองข้างของญาธิดา สีหน้าภวินท์หม่นหมองลงถนัดตา นัยน์ตาอันลึกซึ้งคู่นั้นฉายแววความโกรธเคืองขึ้นมา ทว่าสีหน้าของเขา นอกจากการเม้มริมฝีปากจนเป็นขีดบางๆ สีหน้าก็เย็นชาเฉกเช่นปกติเสมือนเดิม

เขาก้าวเท้ายาวๆ และเดินมุ่งหน้าไปทางพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์