พยาบาลรับแผ่นเอกสารมา พลางกวาดตามอง ซึ่งคิดว่าญาธิดาเลือกเธอแล้ว จึงพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันโทรศัพท์เรียกตัวเธอมาให้ รอสักครู่นะคะ”
ญาธิดาพยักหน้า ภายนอกเธอดูสงบนิ่ง ทว่าในใจของเธอกำลังเคร่งเครียดอยู่บ้าง มือทั้งสองข้างที่วางอยู่ตรงหัวเข่าพลันกำหมัดแน่น
เธอกับเกล้าแก้วไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งหลายปี จู่ๆ ในวันนี้เธอใช้วิธีการนี้เรียกเธอให้มาหา จะดูรวบรัดตัดความไปหน่อยมั้ย?
จังหวะที่เธอคาดเดาไม่ถูกนั้น จู่ๆ ตรงประตูก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังเข้ามา พลันมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นอย่างสดใส “พี่หวาน หาฉันมีธุระอะไรเหรอ?”
ญาธิดาหันศีรษะตามเสียง จึงมองเห็นใบหน้าเล็กหน้าตาแจ่มใสปรากฏอยู่ตรงประตู และขยับปากทันควัน แต่กลับไร้เสียงเปล่งออกมา
เกล้าแก้วชะงัก พลันช้อนตาเหลือบมองเธอ สายตาชะงักอยู่พริบตา แววตาปรากฏความตกใจออกมาชั่วครู่ และเอ่ยปากพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ญาธิดา?”
ญาธิดาดีใจมาก พลันคลี่ยิ้มทันที และลุกขึ้นยืนด้วยอาการตื่นเต้น “แก้ว เป็นแกจริงๆ ด้วย!”
ส่วนดวงตาของเกล้าแก้วกลับถูกความแปลกใจเข้ามาแทนที พลางเดินก้าวไปทางด้านหน้า คิ้วตาโก่งขึ้น พลางเอ่ยถามทันที “แก...แกมาที่นี่ยังไง?”
“พ่อฉันป่วยนะสิ เลยต้องหาพยาบาลพิเศษสักคน ฉันเห็นเอกสารของแก ก็เลยให้พยาบาลเรียกแกมาให้หน่อย”
“บังเอิญเหลือเกิน” เกล้าแก้วพูด พลางดึงมือของญาธิดาไว้ข้างหนึ่ง ไม่รู้เพราะว่าดีใจหรือว่าแปลกใจกันแน่ ในดวงตาเปล่งประกายน้ำตาคลอเบ้า
ญาธิดาเองเกิดความรู้สึกสุขใจจนยากแก่การพรรณนาออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ “พวกเราไม่ได้เจอหน้ากันมา6ปีแล้วใช่มั้ย? ไม่คิดเลยว่าจะเจอหน้าแกในที่แบบนี้”
พวกเธอต่างจับมือกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการอุปสรรคการทำงานของคนอื่น จึงเดินออกไปยังด้านหน้าของห้องทะเบียนเพื่อรำลึกถึงความหลัง
เมื่อเริ่มคุยกัน ความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนราวกับน้ำท่วมที่กระทบเข้ามาเป็นระลอก ที่แท้ คนเราเมื่อโตขึ้น ก็อดที่จะรำลึกถึงเรื่องราวครั้งก่อนไม่ได้
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ก็ไม่มีผลกระทบตามเวลาที่ผ่านพ้น เมื่อเอ่ยถึงเรื่องราวเมื่อก่อน ทุกเรื่องคล้ายว่าเพิ่งจะเกิดขึ้น มันใกล้เหมือนอยู่ตรงหน้า จนทำให้คนเรารู้สึกได้ทั้งร่างกายและจิตใจ
พลันฉุกคิดถึงตอนที่ทั้งสองคนแยกจากกัน ญาธิดาอดใจถามไว้ไม่อยู่ “แก้ว ทำไมตอนนั้นพวกเธอถึงย้ายบ้านกันล่ะ? ขนาดช่องทางการติดต่อยังไม่ทิ้งไว้ให้เลย...”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการย้ายบ้านที่จากไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าเกล้าแก้วแข็งทื่อทันที สายตาของเธอเบนหนี และขยับปาก แต่กลับไม่พูดอะไร
เมื่อมองเห็นการแสดงออกเช่นนี้ของเธอ ญาธิดาเข้าใจทันที รู้ว่าเธอไม่สะดวกที่จะพูดถึง จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อทันที “แก้ว วันนี้แกออกเวรกี่โมง? ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวแกสักมื้อ ถือว่าเป็นการฉลองที่พวกเราสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง!”
อาการไม่เป็นตัวของตัวเองของเกล้าแก้วมลายหายไปทันที พลางฉีกยิ้มให้เธอพลางพูดกล่าว “คืนนี้ฉันต้องเข้าเวร กลัวว่าจะไม่ได้แล้ว งั้นเปลี่ยนเป็นวันอื่นเอามั้ย เราแลกช่องทางติดต่อกันไว้ก่อน”
ญาธิดาตอบตกลงทันควัน “ตกลง”
หลังจากแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อซึ่งกันและกันแล้ว จู่ๆ ญาธิดาก็นึกเรื่องพยาบาลพิเศษที่จะจ้างให้บิดาได้ “ใช่สิ แก้ว ช่วงนี้แกพอมีเวลาว่างมั้ย? ระยะนี้พ่อฉันต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อเตรียมผ่าตัดหัวใจ ฉันเลยอยากจ้างพยาบาลพิเศษให้เขา”
เกล้าแก้วไม่ได้คิดอะไรมาก พลันตอบตกลงทันที “ได้เลย ช่วงนี้ฉันว่างพอดี ช่วยดูแลคุณอาให้แกได้อยู่นะ”
ทั้งสองคนพูดคุยกัน และแทบไม่ได้สังเกตประตูบริเวณทางหนีไฟที่อยู่ไม่ไกลนัก พลันมีเงาดำปรากฏตัว และหายวับไป
ในเวลาเดียวกัน ภายในบ้านพักเขตชานเมืองหลังหนึ่ง ภูผากำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง และฟังครามรายงานสถานการณ์
ร่างกายชายหนุ่มโดนแสงแดดปกคลุมทั่วตัว และแผ่ความสว่างและอ่อนโยนออกมา เมื่อได้ยินรายงาน เขาถึงช้อนตาขึ้นเล็กน้อย “สิ่งที่นายพูดคือ เธอต้องการหาพยาบาลพิเศษ?”
ครามแสดงสีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลง พลางตอบกลับอย่างจริงจัง “ครับ บิดาของเธออยู่ที่โรงพยาบาล เป็นโรคหัวใจ ต้องได้รับการผ่าตัด”
พูดจบ เขาก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ “นี่คือรายละเอียดของพยาบาลคนนั้นคนที่เธอต้องการ เป็นเพื่อนสนิทของเธอที่รู้จักกันมานาน ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...