ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานตอนภวินท์มาทานอาหารที่บ้านของเขา ได้เคยพูดเรื่องเขากับไอซ์ ต่อหน้าเขาด้วย!
สื่อเปิดเผยวันไหนไม่เปิด แต่มาเปิดวันนี้ที่พวกเขาบริษัทวรโชติร่วมธุรกิจกับบริษัทดาเซิง และเมื่อวานเพิ่งเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับภวินท์พอดี ทุกสิ่งทุกอย่างชี้ไปในทางที่มีลับลมคมใน
เมื่อปริญคิดได้แล้วหัวใจก็ยิ่งมีแต่ความโกรธจัด เขายกมือขึ้นปัดแก้วบนโต๊ะลงกับพื้น “เพล้ง” แก้วน้ำตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ
เขาแทบกัดฟันเค้นออกมาประโยคหนึ่ง “ภวินท์ นายกล้าดียังไง!”
เพิ่งสิ้นเสียง มีเลขาคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เห็นเศษแก้วกระจายเกลื่อนพื้นและปริญที่กำลังโกรธจัด พลันตกใจจนละล้าละลัง ถามอย่างหวาดกลัวว่า “คุณปริญ คุณ......”
ปริญกวาดมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ไสหัวออกไป!”
เลขาสาวตัวสั่น กำลังรีบออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว
สายตาของปริญไปตกที่ด้านหลังของเธอ แววตามืดมนครู่หนึ่ง เรียกเธอไว้อีกครั้ง “หยุด!”
เมื่อครู่เขาถูกพ่อตบ และเขาคิดได้ว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือภวินท์ ตอนนี้ไฟแห่งความโกรธปะทุในท้อง กำลังไม่มีที่ให้ระบาย
เลขาสาวได้ยินดังนั้นจึงกลับมาอย่างหวาดกลัวตัวสั่นงันงก ก้มหน้าพูดว่า “คุณปริญมีอะไรจะสั่งคะ”
ปริญส่งเสียงเยาะ ดวงตาเข้มขึงขังคล้ายกับดวงตาของชนัดพล พาให้ผู้คนหนาวยะเยือก
เขาก้าวเดินเข้าหาอย่างรวดเร็ว ปิดล็อคประตูห้องประชุมโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าเลขาสาวมากดลงบนโต๊ะประชุม “เป็นที่ระบายให้กูเดี๋ยวนี้!”
เลขาสาวตกใจหน้าซีด ดิ้นออกจากตัวเขา ก้าวถอยหลังไม่หยุด “คุณปริญ อย่าทำแบบนี้!”
ปริญสีหน้าไม่พอใจในฉับพลัน เขาเอื้อมมือออกไปคว้าแขนเธอต้องการใช้กำลังบังคับ หลังจากยื้อยุดกันครู่หนึ่ง เลขาสาวก็ร้องไห้ไม่ยอมท่าเดียว
หลังจากวุ่นวายกันอยู่เป็นเวลานาน ปริญที่ไม่ได้ลิ้มรสความหวานสักนิด ความหงุดหงิดก็ปะทุขึ้นในใจ จู่ๆ ก็หมดความสนใจ สบถด่าและเตะเศษแก้วที่กระจายเกลื่อนพื้น แววตาเกิดประกายเย็นชา เขาออกแรงผลักอีกฝ่ายล้มลงกับพื้น
“อ๊ะ!”
มือของเลขาบังเอิญกดลงเศษแก้วพอดี ทันทีที่ยกมือขึ้น ฝ่ามือก็มีแต่เลือดแดงเถือก
ปริญชำเลืองมองเธออย่างเย็นชาและส่งเสียงด่า “นังนี่! เธอหาเรื่องใส่ตัวเองนะ!”
ด่าไปหนึ่งประโยคแล้วเอากระเป๋าเงินออกมา โยนธนบัตรสีให้ไปปึกหนึ่ง “ค่ารักษาพยาบาล เอาแล้วไสหัวออกไป!”
พูดจบเขาก็ก้าวออกจากห้องประชุมไปโดยไม่หันกลับมามอง
ปริญออกจากบริษัทอย่างเต็มไปด้วยความโกรธจัด มีแรงกระตุ้นอยากไปคิดบัญชีกับภวินท์อยู่หลายรอบ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่พ่อกำชับ เขาก็ทำได้แค่อดทนไว้ก่อน
ถ้าเขาไปคิดบัญชีกับภวินท์ในเวลานี้ แล้วถูกสื่อถ่ายภาพ สถานการณ์จะยิ่งแย่ลง ไม่สู้ไปหาที่ดื่มหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจจะดีกว่า
อย่างไรบัญชีนี้ไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องชำระกับภวินท์ให้ได้!
สามชั่วโมงต่อมา ข่าวยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะไม่ถูกทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัทวรโชติระงับเท่านั้น กลับกันยังมีแนวโน้มว่าจะเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
ห้องทำงานของประธาน STN Group ภวินท์นั่งบนโซฟา กำลังเลื่อนดูพาดหัวข่าวล่าสุด
“คุณชายปริญคุกคามพนักงานในบริษัท วิดีโอที่รั่วไหลออกมาน่าตกใจ!”
เขาเลื่อนลงมาและเห็นภาพเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิดที่แนบมากับข่าว ภาพชัดจนเห็นใบหน้าได้ชัดเจน เป็นปริญจริงๆ
รอยยิ้มจางๆ ฉายบนริมฝีปากของภวินท์ เขาเอ่ยถามบางเบา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
พายุที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้นจึงรีบรายงานทันที “ได้ยินว่าปริญลงมือกับเลขาในห้องประชุมครับ เลขาไม่ยอมก็เลยถูกเขาผลักล้มลงไปบนพื้นที่มีเศษแก้ว จากนั้นเลขาก็เอาในกล้องวงจรปิดออกมา ถ่ายรูปบาดแผลและโพสต์ลงโซเชียลครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...