ภวินท์ได้ยินดังนั้น แววตาก็ขุ่นมัวเล็กน้อย หันกลับมาและเดินไปหาเธอ หลังจากเข้าใกล้แล้วจึงจ้องมองเธอและถามว่า “ทำไม”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก พูดเน้นคำต่อคำ “นี่ไม่ใช่โบนัส ฉันไม่เอา”
เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว ภวินท์ค่อนข้างแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะถูกเธอมองออก
ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดเสียงอ่อน “นี่ถือว่าเป็นการให้ยืม คุณใช้มันไปก่อน ผมจะหักออกจากโบนัส”
เรื่องการผ่าตัดของดร.ยติภัทรโดยธรรมชาติแล้วเขาต้องจัดการ เงินหลายแสนนี่ก็แค่ให้เธอไปช่วยเหลือครอบครัว คิดไม่ถึงว่าเธอกลับไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยงั้นเหรอ
ญาธิดากัดฟัน เลื่อนสายตาขึ้นมองภวินท์และพูดเน้นคำต่อคำ “ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการ รอเงินเดือนเดือนหน้าก็พอ ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่านประธานค่ะ ”
เธอพูดอย่างนั้นแล้วโค้งคำนับให้ด้วยความเคารพ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ขาดเงิน แต่แค่ไม่ต้องการเงินที่เขาให้ ราวกับว่าทันทีที่เธอรับเงินของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ไม่ถูกต้องอีกต่อไป
เงินนี่ สำหรับเธอแล้ว มันเป็นภาระทางจิตใจ
ภวินท์มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกแปลกๆ ไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้ช่วงที่เธออาศัยอยู่ในบ้านพักของเขา เขาไม่เคยเห็นด้านที่ดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวของเธอเลย ราวกับว่าตอนนี้เขาเพิ่งรู้จักตัวจริงของญาธิดา
เมื่อเห็นว่าภวินท์ไม่มีคำพูดหรือคำแนะนำใดๆ ญาธิดาจึงลดสายตาลงและพูดว่า “ถ้าไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว ฉันขอตัวก่อนค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินออกจากห้องทำงานไปโดยไม่หันกลับมามอง
ทันทีที่ประตูปิด ภวินท์ถึงได้สติกลับมา
ผู้หญิงคนนี้ ดื้อรั้นจริงๆ
กลับถึงห้องทำงาน ญาธิดาค่อนข้างมึนเบลอ
ทำไมภวินท์ต้องให้เงินเธอ หรือว่ารู้ว่าเธอขาดเงิน
ความสงสัยผุดขึ้นในใจของเธอ ไม่ทันที่เธอจะคิดได้ชัดเจน ก็มีสายเรียกเข้า
ญาธิดาเหลือบมองหน้าจอ เห็นว่าอัญมณีโทรมา จึงรับสายโดยไม่ลังเล “ว่าไงอันอัน”
เสียงของอัญมณีจากปลายสายไม่มีชีวิตชีวาเช่นปกติ แต่ค่อนข้างเหนื่อยล้าอ่อนแรง “ธิดา คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม ฉันอารมณ์เสียนิดหน่อย......”
เมื่อได้ยินเสียงเธอเป็นแบบนี้ ญาธิดาก็แอบแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
เท่าที่เธอจำได้ อัญมณีมักจะกระตือรือร้นและมองโลกในแง่ดี น้อยมากที่จะเป็นแบบนี้ เว้นแต่จะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
เมื่ออัญมณีที่อยู่ปลายสายถูกถามแบบนี้ขึ้นมากะทันหันก็ค่อนข้างรู้สึกผิด คิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างลังเลว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันนึกถึงพายุผู้ชายเลวคนนั้น เธอว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น......”
ญาธิดาได้ฟังแล้วตกใจเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “อันอัน เธอคงจะไม่......”
ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของอัญมณีก็ดังมาจากอีกฝั่ง “นี่ๆๆ อย่าคิดลึกนะ! ฉันอาจจะผีเข้าก็ได้!”
ญาธิดายิ้มบางและพูดว่า “โอเค ฉันไม่คิดลึก”
“งั้นคืนนี้ออกไปเที่ยวกันนะ ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย......”
ญาธิดาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง “โอเค”
เพราะก่อนหน้าทุกครั้งที่เธอมีเรื่องเศร้า อัญมณีจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ยากนักที่อัญมณีจะอารมณ์ไม่ดี แน่นอนว่าเธอก็ต้องยืนหยัดเคียงข้างด้วยเช่นกัน
หลังจากเสร็จงานในมือ หายากที่ญาธิดาจะไม่ทำงานล่วงเวลาหนึ่งวัน หลังจากเก็บของเสร็จก็ตรงไปหาอัญมณี
เธอรออยู่ที่ทางเข้าคอนโดของอัญมณีนานมากก็ไม่เห็นใครออกมา ญาธิดากำลังจะเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหา แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นอัญมณีในเสื้อครอปกับกางเกงยีนเอวสูงเดินออกมา
เมื่อเห็นอัญมณีแต่งตัวแบบนี้ ญาธิดาก็อดจะยิ้มและพูดหยอกไม่ได้ “ถ้าไม่รู้มาก่อน คงคิดว่าเธอจะไปแดนซ์นะ”
อัญมณีขยิบตาให้เธอ ยื่นมือไปจับข้อมือของเธอ “ไม่ไปแดนซ์ ไปดื่ม! ยังจำครั้งล่าสุดที่ฉันบอกเธอเรื่องบาร์ที่เพื่อนฉันเปิดใหม่ได้ไหม พวก เขาเพิ่งเปิด ไปกันเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...