ญาธิดาได้ยิน พลันแอบถอนหายใจโล่งอก ทว่าเมื่อมองเห็นสีหน้าแววตาของภวินท์ที่ดูผิดแปลกไป “ตกลงว่าเป็นอะไรไปคะ?”
ภวินท์เม้มริมฝีปากพลางขยับเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นเฉียบ “เมื่อก่อนแม่ผมก็ชอบตุ๋นซุปปลาให้ผมดื่มอยู่เป็นประจำ”
ญาธิดาตะลึงเล็กน้อย จู่ๆ พลันฉุกคิดคำพูดเหล่านั้นที่หลุยส์พูด ถึงได้เข้าใจได้ทันที
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินภวินท์เอ่ยถึงมารดาของเขา แม้จะเป็นเพียงประโยคสั้นๆ ง่ายดายมากประโยคเดียว ทว่ากลับทำให้หัวใจของเธอหม่นหมองตามอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนผีดลใจพลันหลุดปากพูดออกไป “ถ้าคุณชอบ อีกสองวันฉันจะตุ๋นมาให้คุณอีกค่ะ”
ภวินท์ได้ยิน จึงช้อนตาเหลือบมองเธอ ความรู้สึกที่อยู่ในส่วนลึกของดวงตากระเพื่อมขึ้นอย่างมีเลศนัย
จู่ๆจังหวะนั้นเอง ประตูห้องพักผู้ป่วยก็มีคนผลักเข้ามา และมีเสียงวิตกกังวลดังตามหลังมาติดๆ “พี่วินคะ พี่เป็นไง...”
นิวรารีบวิ่งเหยาะเข้ามาด้านในอย่างร้อนใจ ตอนที่เห็นญาธิดายืนอยู่ข้างเตียงนั้น แสดงท่าทางตกตะลึงออกมาทางสีหน้า คำพูดติดค้างทันที
ญาธิดาตกตะลึงตาม ไม่คิดเลยว่านิวราจะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชั่ววินาทีนั้น เธอเริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย ความรู้สึกผิดมันตีจนพลุ่งพล่านขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจทันที
สายตานิวราจดจ้องอยู่บนร่างกายของเธออยู่สักพัก ถึงได้หันไปมองภวินท์ที่อยู่บนเตียง และเดินนำหน้าไปอย่างร้อนใจ พลันเอ่ยปากถามทันที “พี่วิน พี่เป็นไงบ้างคะ? บาดเจ็บตรงไหนบ้างมั้ยคะ?”
ภวินท์กล่าวตอบน้ำเสียงปกติ “พี่ไม่เป็นไร”
“นิวเพิ่งกลับมาจากเกาะสมุย พอลงเครื่องก็ได้ข่าวว่าพี่เกิดเรื่องขึ้น ก็รีบบึ่งมาทันที” น้ำเสียงนิวราปะปนการกล่าวโทษอยู่บ้าง เสียงสั่นจนใกล้จะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว “ทำไมพี่ไม่บอกนิวล่ะคะ?”
ภวินท์ช้อนตา พลางมองขอบใต้ตาอันแดงระเรื่อของเธอจนใจอ่อน “ไม่อยากให้นิวเป็นห่วง พี่ไม่เป็นไร”
หัวไหล่นิวราสั่นเทิ้ม พลางพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมอกของภวินท์ และเริ่มต่อว่าต่อขานทันที “การที่พี่ไม่บอกนิวนั่นแหละเป็นสิ่งที่นิวเป็นห่วงที่สุดแล้วค่ะ!”
“พอแล้วนะ คราวหน้าจะบอกน้องนิวครับ”
“อะไรที่ว่าคราวหน้า! นี่พี่ยังจะคิดว่ามีคราวหน้าอีกเหรอคะ!”
“……”
ญาธิดายืนอยู่ด้านข้าง พลันรู้สึกว่าในเวลานี้ตัวเองกลายเป็นส่วนเกิน เธอกัดริมฝีปาก พลางเบนสายตาไปทางอื่น และค่อยๆ ย่างฝีเท้าเดินมุ่งหน้าออกทางด้านนอก
ภวินท์กวาดตามองร่างกายที่จะเดินจากไปของเธอ พลางขมวดคิ้วหากัน จังหวะที่เตรียมจะอ้าปากพูด นิวราเงยศีรษะมองเขาทันควัน “พี่ยังเจ็บแผลอยู่มั้ยคะ?”
“สบายใจได้เลย ดีขึ้นมากแล้ว”
เมื่อพูดจบ เขาก็เงยศีรษะขึ้นมาอีกครั้ง ตัวญาธิดาก็ไม่อยู่แล้ว
ทางด้านนอกประตู ญาธิดากัดริมฝีปาก รู้สึกแสบจมูกเล็กน้อย เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมุ่งหน้าเดินออกไปทางด้านนอก ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด หัวใจช่างว้าเหว่เหลือเกิน
เมื่อเห็นภาพที่ภวินท์อยู่กับนิวรา ในใจของเธอนั้นก็เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้มันตีขึ้นมา
เมื่อเดินผ่านทางเดินอยู่สักพัก เธอถึงได้ปรับอารมณ์ของตนเอง ยังไม่ทันเดินถึงด้านหน้าประตูลิฟต์ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังตามหลังมาติดๆ จนมีเสียงสูงแหลมของหญิงสาวดังขึ้น “คุณญาธิดา รบกวนรอเดี๋ยวค่ะ”
ญาธิดาหันศีรษะไปตามเสียง จึงมองเห็นนิวรายืนอยู่ทางด้านหลังเธอโดยไม่ไกลนัก
ญาธิดาเริ่มไม่เข้าใจ “คุณนิว?”
นิวราคลี่ยิ้มให้เธอ “ฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณค่ะ”
เมื่อได้ยิน ในใจญาธิดาก็น่าจะคาดเดาอะไรได้บ้าง เธอรวบรวมความกล้าหาญ พลันพยักหน้า และเดินไปทางด้านหน้าตามฝีเท้าของนิวรา
โดยเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยที่กำลังว่างอยู่ห้องหนึ่ง นิวราไม่พูดพร่ำทำเพลง พลันล็อกประตูห้องทันที
ญาธิดายืนอยู่ทางด้านข้าง ด้วยความรู้สึกสมองเบลอไปหมด “คุณนิวนี่คุณกำลัง...”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” นิวรายิ้มให้เธอ “กลัวว่าจะไปรบกวนคนอื่นก็เท่านั้นเองค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...