เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้น ญาธิดาก็ลุกขึ้นจากเตียงทันควัน จึงรีบตาลีตาเหลือกไปซื้อปลาสดในตลาด เพื่อเตรียมตุ๋นซุป
ซึ่งได้ทำซุปติดต่อกันมาสองสามวันแล้ว ซึ่งในเวลานี้เธอสามารถพูดได้เต็มปากถึงขั้นฝึกจนคล่องแคล่วมากแล้ว
เธอค่อยๆ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวน้ำซุปในหม้อ จากนั้นเธอก็หันหลังไปทำเรื่องอื่นต่อ พลางเปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวปักลายตัวใหม่ทั้งชุด ตอนที่กลับเข้ามาในห้องครัวนั้น น้ำซุปก็ตุ๋นได้ที่แล้ว
เมื่อเตรียมทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงหิ้วกล่องข้าวมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลทันที
การได้เห็นบิดาดื่มน้ำซุปปลาที่ตนเองทำมาเองกับมือ สำหรับเธอแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่แสนโชคดีอย่างหนึ่ง
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ญาธิดาก็รีบมุ่งหน้ามาถึงห้องผู้ป่วยอย่างดีใจ พลันผลักประตูเข้าไป “พ่อคะแม่คะ หนู...”
ตอนที่เธอเตรียมจะพูดออกไป เมื่อช้อนสายตามองคนในห้อง จึงตกตะลึงอย่างไม่รู้ตัว
ยติภัทรนั่งพิงหลังอยู่บนเตียง อีกฝั่งคือปภาวี ส่วนอีกฝั่งนั้นกลายเป็นภวินท์เสียนี่!
เขาควรจะอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆ ถึงได้วิ่งมาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของบิดาของเธอล่ะ?
ดังนั้นจึงฉุกคิดถึงคำพูดของนิวราเมื่อวานนี้ได้ สีหน้าของเธอตะลึงในชั่วพริบตา “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
เมื่อได้ยินความหมายที่ไม่ยินดีอยู่ในน้ำเสียงของเธอ ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาหม่นหมองเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้ เปลี่ยนท่าทียังเร็วจี๋กว่าเปลี่ยนหน้าหนังสืออีก เมื่อวานนี้ปากก็พูดพล่ามว่าจะตุ๋นซุปมาให้เขาดื่ม พริบตาเดียวพอตกกลางคืนก็วิ่งแจ้นไปหาผู้ชายคนอื่น และกลับตาลปัตรเป็นแสดงท่าทีเย็นชาใส่เขาเสียนี่
ยติภัทรจับสัมผัสความรู้สึกผิดแปลกระหว่างคนสองคน พลางกระแอมออกมาเบาๆ จากนั้นก็พูดกับญาธิดาทันที “ธิดา อย่าเสียมารยาทสิ ตาวินได้รับบาดเจ็บมา ประจวบเหมาะกับอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน เลยมาพูดคุยเป็นเพื่อนพ่อก็เท่านั้นเอง”
ญาธิดาย่นคิ้ว และเกิดความรู้สึกไม่เข้าใจ
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ได้ยังไง?
เธอกวาดตามองภวินท์ และไม่ได้พูดอะไรมากมาย พลันก้าวเท้าเดินเข้ามา และวางซุปปลาลง และเริ่มพูดทันที “หนูตุ๋นซุปปลามาให้ พ่อคะ เดี๋ยวอีกสักพักพ่อกินสักหน่อยนะคะ”
เธอเพิ่งพูดจบ ภวินท์ที่อยู่ด้านข้างก็ลุกขึ้นมาทันที “อาจารย์ครับ หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมก็ไม่รบกวนแล้วครับ”
ยติภัทรพยักหน้า และพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ได้รบกวนหรอก ตาวิน นายว่างตอนไหน ก็แวะมาคุยกับฉันได้ เราสองคนมาคุยกันให้หายเบื่อได้นะ!”
ก่อนหน้านี้สมัยอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ภวินท์เป็นลูกศิษย์ที่เขาภาคภูมิใจมาก จากนั้นไม่ว่าเขาจะเข้าสู่สังคม ในการบริหารบริษัท ทว่าก็ยังสามารถหาเรื่องมาพูดคุยหัวข้อเดียวกันกับเขาได้อยู่เสมอ
“ครับ งั้นผมจะหาเวลาแวะมาคุยกับอาจารย์ใหม่นะครับ”
ภวินท์หัวเราะร่า และเตรียมจะออกไป
ยติภัทรเห็นเหตุการณ์นั้น จึงรีบมองญาธิดาที่อยู่ด้านข้างทันที “ธิดา วินเขาขาเจ็บอยู่ แกช่วยไปส่งเขาที”
ญาธิดาเหลือบมองภวินท์แวบหนึ่ง “เขาเดินเองได้ไม่ใช่เหรอคะ?”
ยติภัทรได้ยินแล้ว สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางเดินก้าวไปทางด้านหน้าแบบไม่ค่อยยินยอม และเดินตามหลังภวินท์ไป
เมื่อปิดประตูแล้ว ปภาวีที่อยู่ด้านข้างอดใจถามไม่ได้ “ตาแก่นี่นะ นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่ ธิดาก็พูดออกมาแล้วว่าพวกเขาสองคนเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เหรอไง?”
“แล้วหล่อนจะรู้ได้ไงว่ามันเป็นไปไม่ได้!” ยติภัทรทำเสียงพึมพำในลำคอ “ฉันรู้สึกว่าพวกเขายังได้ไปต่อนะ!”
มีเกณฑ์มาตรฐานคนอย่างภวินท์ ซึ่งเมื่อกลับมามองผู้ชายวัยรุ่นคนอื่นแล้ว เขาก็ไม่ถูกชะตาใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาย่อมเข้าข้างภวินท์อยู่เสมอ
ขอแค่ยังมีโอกาส เขาย่อมหวังมอบลูกสาวสุดที่รักของตนเองให้กับบุคคลที่ตนเองวางใจที่สุด
ญาธิดาเดินตรงทางเดิน โดยเดินตามหลังภวินท์ต้อยๆ ซึ่งไม่ได้ใกล้ชิดหรือเว้นห่างมากนัก และคอยเว้นรักษาระยะห่างกับเขาอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น
เมื่อเดินตัดทางเดินมาค่อนทาง ในที่สุดเธอก็อดใจทนไม่ได้ พลันอ้าปากถามทันที “คุณอยู่ที่โรงพยาบาลพัฒนาไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ดีๆ ถึงย้ายมาที่โรงพยาบาลสงฆ์ได้ล่ะ?”
นัยน์ตาภวินท์หวั่นไหวเล็กน้อย สีหน้ากลับเย็นชาเช่นเดิม “ที่นี่มันใกล้บริษัทมากกว่า”
ญาธิดาได้ยิน แต่กลับไม่ได้พูดอะไรอีก
พลางโดยสารลิฟต์ขึ้นไปอีกสองชั้น เมื่อเดินออกมาตรงทางเดิน จนถึงชั้นห้องพักผู้ป่วยVVIP ซึ่งสภาพแวดล้อมของที่นี่ย่อมดีมากกว่าหลายชั้นทางด้านล่าง พื้นที่กว้างขวาง เงียบสนิท อุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบครันมาก
ญาธิดาพาภวินท์มาส่งห้องพักผู้ป่วย โดยยืนอยู่ตำแหน่งหน้าประตู พลางกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันขอกลับก่อนนะคะ”
ภวินท์ได้ยิน พลางย่นคิ้วหากัน สีหน้าหม่นหมองเย็นชาลงเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...