ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 243

ดวงตาภวินท์ทอประกาย จู่ๆ ก็มีบุคคลหนึ่งโผล่ขึ้นมาในใจ

กณิศ!

มีแค่เขาเท่านั้น ที่มีความเป็นไปได้ที่เหมาะสมที่สุด

คนที่กล้าลงมือกับญาธิดาในบริษัท ต้องเป็นคนบริษัทอย่างแน่นอน!

ภวินท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลางโทรหาต้นทันที “ญาธิดาหายตัวไป ตรวจสอบร่องรอยสิ ยังมีกณิศอีกคน มีความเป็นไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาเป็นคนลงมือทำ! จุดสำคัญคือละแวกบริษัท ใช่สิ ยังมีลานจอดรถชั้นใต้ดินด้วย!

ต้นได้ยินเสียงร้อนอกร้อนใจของภวินท์ที่ยากนักจะได้ยินพลันเริ่มตรวจสอบทันที

ไม่นานนัก เขาจึงเรียกดูกล้องวงจรปิดลานจอดรถชั้นใต้ดิน จึงได้ภาพพร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถ

ต้นกดลงบนจุดในคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว จนตัดคลิปวิดิโอและจัดส่งให้ภวินท์ จึงพูดผ่านสมอลทอร์คในเวลาเดียวกันด้วย “กณิศเป็นคนทำจริงๆ ครับ โดยลงมือตรงลานจอดรถชั้นใต้ดิน เขาไม่ได้ปิดบังตัวตน แถมยังตีจนญาธิดาสลบและหิ้วปีกลากขึ้นรถ ดูเหมือนน่าจะพุ่งเป้ามาที่พวกเรา เพื่อหวังล่อให้พวกเราติดกับโดยตายกันไปข้างหนึ่งครับ”

ภวินท์ที่มือกำโทรศัพท์ไว้แน่นขึ้น พลางมีความรู้สึกโกรธแค้นที่อธิบายไม่ถูกมันพุ่งขึ้นมาในหัวใจ

ต้นกดแป้นพิมพ์ เพื่อล็อกเป้าป้ายทะเบียนรถยนต์ของกณิศและเริ่มสะกดรอยตามหา

“ผมได้สะกดรอยตามป้ายทะเบียนรถยนต์ของเขา อีกสักพักก็จะมีร่องรอยการเดินทางของเขาแล้ว หลังจากนั้นก็จะส่งที่อยู่ให้คุณครับ”

ภวินท์แววตาหวั่นไหวเล็กน้อย ตาคิ้วอันเฉี่ยวคมพลางเย็นเฉียบราวน้ำค้างแข็ง และออกคำสั่งทันที “แจ้งรถอีกหลายๆ คันด้วย ไปดักทางเขาไว้พร้อมกัน

ในเวลานี้เอง ถึงแม้ว่าจะเป็นการคาดเดาของเขา ก็พอจะจับทางถึงสภาพจิตใจของกณิศได้ กระทั่งเขากล้าลักพาตัวคนอย่างเปิดเผยแบบนี้ นั่นเป็นการทำลายล้างตัวเอง เป็นการล่อปลาให้ติดกับ คนประเภทนี้เป็นคนบ้าคลั่งที่สุด เขาจำเป็นต้องเตรียมตัวไว้ให้มาก

ไม่นานนัก พลางมีเสียงของต้นดังเข้ามา “กล้องวงจรปิดสามารถถ่ายร่องรอยครั้งสุดท้ายของป้ายทะเบียนรถยนต์คันนี้ที่ถนนลงท่า บริเวณนั้นคือเขตพรมแดนของเขตตะวันออก ค่อนข้างทุรกันดาร ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิดในหลายจุด

ภวินท์ขมวดคิ้ว สีหน้าหวาดกลัวจนตีหน้าขรึมพลันตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเพียงพริบตาเดียว เขาก็ออกคำสั่งพายุ “ชิงลงมือก่อน มุ่งหน้าไปยังเขตตะวันออกเดี๋ยวนี้”

ถัดจากนั้น เขาจึงพูดกับต้นกับที่อยู่ปลายสาย “กระทั่งเขาจับตัวญาธิดาเป็นตัวประกัน เขาต้องมีเป้าหมายอยู่แน่ๆ ถ้าเดาไม่ผิดพลาดเขาต้องโทรหาผมแน่ ถึงเวลานั้นต้องล็อกเป้าเบอร์โทรศัพท์ของเขา แถมยังสามารถกระชับพิกัดได้เล็กลง และใช้รถยนต์หลายๆ คันมาดักทางเอาไว้ ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”

ต้นตอบรับทันควัน “เข้าใจแล้วครับ”

เมื่อกดวางสายโทรศัพท์แล้ว รถยนต์คันสีดำก็เร่งเครื่อง โดยมุ่งหน้าไปยังเขตทางตะวันออก ภวินท์นั่งอยู่เบาะทางด้านหลัง ครึ่งท่อนบนนั่งหลังตรงตัวแข็งทื่อ ในมือกำโทรศัพท์เอาไว้

ในเวลานี้ คือการรอให้กณิศโทรศัพท์เข้ามาหา

“ครืด—"

เวลานี้เองจู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น แววตาภวินท์ทอประกาย จึงหลุบตาต่ำตามสัญชาตญาณ เพื่อมองหน้าจอโทรศัพท์

ใครจะรู้ว่าคนที่โทรศัพท์มาไม่ใช่กณิศ

เมื่อมองตัวอักษร “นิว” ที่ปรากฏหน้าจออยู่ตลอด ภวินท์ลังเลอยู่ชั่วครู่ จึงกดตัดสายทิ้งทันที

เวลานี้เอง เขาไม่สามารถให้โทรศัพท์มีสายใช้งานอยู่ มิเช่นนั้นกณิศโทรเข้ามาไม่ติด

ประเดี๋ยวเดียว โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง ก็ยังคงเป็นนิวรา

ภวินท์ย่นคิ้ว และตัดสายนิวราอีกครั้ง และส่งข้อความให้นิวราทันที “พี่มีธุระด่วน กลับไปแล้วจะอธิบายให้เธอฟัง”

เพิ่งส่งข้อความไปไม่ถึงสองนาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ภวินท์ก้มหน้าลงมอง จึงมองเห็นเบอร์แปลกๆ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ จนร่างกายเย็นเฉียบเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

เขากดเลื่อนรับสายพลางแนบข้างใบหูและพูดสื่อสารด้วยน้ำเสียงเย็นชามาก “ฮัลโหล”

“ภวินท์… “จึงได้ยินเสียงหัวเราะอันเย็นชาของผู้ชายดังออกมาจากปลายสาย “มึงรู้หรือเปล่าว่ากูคือใคร?”

ดวงตาภวินท์ปรากฏความขุ่นเคืองอีกชั้น น้ำเสียงเคร่งขรึมเย็นชาเช่นเดิม “พูดมา”

“กูคือกณิศ คนที่มึงกำลังตามหาอยู่ในช่วงนี้ไง กูจะบอกมึงให้ ญาธิดาผู้หญิงที่ช่วยชีวิตมึงไว้ครั้งที่แล้ว ตอนนี้ตกอยู่ในมือกู! ถ้ามึงยังไม่อยากให้เธอตายก็มาเจรจากับกูซะ!”

ภวินท์กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว “แกอยากจะทำอะไร?

“กูยังจะทำอะไรได้? ก็เอาเงินมาแลกกับความเป็นความตายแทนคน ถ้าไม่ใช่เพราะอีผู้หญิงคนนี้ กูก็คงได้เงินสิบห้าล้านมาอยู่ในมือแล้ว!แต่ตอนนี้ ทำเรื่องไม่สำเร็จ ไม่เพียงไม่ได้เงินมาอยู่ในมือ ในทางกลับกันกลับโดนมึงจับตามอง การทำงานใน STN Group มาตั้งปีกว่า ทั้งๆที่กูก็รู้อยู่เต็มอก ว่ากูไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมึง”

กณิศส่งเสียงฮัมฮัมในลำคอ โดยเผยความต้องการของตนเอง “กูเรียกร้องไม่มาก แค่เตรียมเงินสิบห้าล้านให้กูหนี อีนังนี่ กูรับปากว่าจะไม่มีตรงไหนบอบช้ำจนเสียหายไป!”

ถัดจากนั้น น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นโหดร้ายทันที “ถ้ามึงไม่ตกลง ผลลัพธ์ที่ได้ตามมา มึงก็น่าจะพอคาดเดาได้!”

ภวินท์เก็บอาการโกรธแค้นเอาไว้จากนั้นจึงกล่าวพูดออกด้วยเสียงทุ้มต่ำเย็นเฉียบขาด “จะยื่นข้อเสนออะไร”

“เงินสดสิบห้าล้าน พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้า วางไว้ตรงถังขยะใบแรกถนนเส้นลงท่าฝั่งทางออกตะวันออก

พูดจบทางนั้นตัดสายทิ้งทันที

ภวินท์สีหน้าหม่นหมองลงโดยมือกำโทรศัพท์ไว้แน่นอยู่ตลอด

กณิศยังอยากจะให้รอข้ามวันไปถึงพรุ่งนี้เช้า เขาจะปล่อยให้ญาธิดาอยู่ในมือเขาทั้งคืนได้สบายใจเฉิบได้ยังไงกัน?

ไม่นานนัก ก็มีเสียงเรียกข้อความเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น ต้นส่งพิกัดตำแหน่งมาให้

แววตาภวินท์หม่นหมอง พลันพูดตำแหน่งออกมาทันควัน เพื่อให้พายุรีบมุ่งหน้าเดินทางไปทันที

ซึ่งในเวลาเดียวกัน กณิศขับรถในพื้นที่ทุรกันดาร รถยนต์ก็ส่ายไปมา และเร่งความเร็วไปทางด้านหน้าอย่างไร้พิกัดที่แน่ชัด

วินาทีนี้ ความรู้สึกที่อยู่ในใจญาธิดา นอกจากความหวาดกลัวแล้ว ยังมีความหมดหวังมากกว่าเดิม

เธอเองก็ไม่กล้าจะจินตนาการต่อ! หลังจากที่ยติภัทรรับรู้เรื่องที่เธอถูกลักพาตัวไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อจากนี้บ้าง!

น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไร้เสียงร้อง ปากเธอถูกยัดด้วยผ้า จนคอแห้งผากด้วยความเจ็บปวดทรมาน

รถยนต์แล่นไปตามถนนสักระยะ จู่ๆ ก็ตัดเข้าสู่ถนนเส้นเล็กๆ บริเวณสองข้างทางที่มีตึกเล็กๆ สภาพทรุดโทรมที่มีความสูงไม่กี่ชั้น

จังหวะนี้เอง บริเวณด้านหน้ามีรถยนต์สองคันขับเข้ามาดักหน้า แถมไม่มีท่าทีลดความเร็วลงสักนิด กณิศย่นคิ้ว จากนั้นก็ลดความเร็วลง

ขณะนั้นเอง จึงมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว “ปึง” ดังตามมา ตัวรถยนต์ค่อยๆ ลดความเร็วลงช้าๆ และเอียงกระเท่เร่ทันที ความเร็วช้าลง จากนั้นก็มีเสียงล้อหลังขูดพื้นดังตามมา

วินาทีนั้น กณิศรับรู้ทันที จึงเตรียมเหยียบคันเร่งเพิ่มเพื่อเร่งความเร็ว จากนั้นก็มีเสียงดังตามมาติดๆ ซึ่งล้อหน้าหลุดไปแล้ว!

“แม่ง!”

กณิศเหลือบมองกระจกหลัง รถยนต์สองคันดักล้อมอยู่ทางด้านหลัง ถนนทางด้านหน้าก็ถูกรถยนต์อีกสองคันสกัดกั้นเอาไว้!

คิดไม่ถึงเลยว่า ภวินท์จะตอบสนองได้ว่องไวปานนี้ แถมยังสั่งให้คนมาตั้งมากมายเพื่อผู้หญิงคนนี้คนเดียว!

ญาธิดาจับสัมผัสความผิดแปลกได้ทันที เธอนั่งเบิกตาโตร่างกายแข็งทื่ออยู่ทางเบาะหลัง จู่ๆ หัวใจก็ตื่นเต้นขึ้นมา

จังหวะนี้เอง กณิศโมโหจนหน้าแดงแจ๋ เขาคว้ามีดทางด้านข้างที่เตรียมเอาไว้แล้ว และกระโดดจากทางด้านหน้ามาอยู่ทางด้านหลัง เพื่อกระชากญาธิดาเอาไว้

กณิศเอามีดสั้นจ่อลำคอของญาธิดาอย่างสั่นเทา และพูดข่มขู่เสียงเย็นชา “ลงรถ! ถ้ามึงกล้าเล่นตุกติก!กูจะฆ่ามึง!”

ญาธิดาเหลือบมองปลายมีดโลหะอันแหลมคมที่เปล่งประกายความเย็นเฉียบมาด้วย จนเสียวสันหลัง จากนั้นก็กัดฟันลงจากรถ

กณิศบีบด้านหลังต้นคอของเธอ จากนั้นก็เขยิบเข้าใกล้ตัวเธออย่างระแวดระวัง และคอยมองรถยนต์ทั้งสองข้าง จากนั้นก็เปล่งเสียงตะโกนดังลั่น “ถ้าพวกมึงกล้าเข้ามา กูจะฆ่ามัน!”

เวลานี้เอง เขาเสียสติไปหมดสิ้น

ตั้งแต่วินาทีที่ปลายมีดอยู่ในมือคนอื่น เขาก็ตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ตลอด

ภายในรถยนต์ ภวินท์เหลือบมองหญิงสาวที่ถูกกณิศจับเป็นตัวประกันเอาไว้ แววตาหม่นหมองลง เมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเผือดและคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม หัวใจของเขาก็หดบีบรัดไว้แน่นไร้วิธีการควบคุม

วินาทีนั้น มีเสียงดังเข้ามาในหูฟัง “เจ้านาย ลงมือเลยมั้ยครับ?”

ภวินท์กัดฟัน จากนั้นจึงตอบด้วยความเย็นชา “จัดการมัน”

เวลานี้เอง รถยนต์คันหนึ่งที่จอดเอียงทางด้านหลังของกณิศ ปลายกระบอกสีดำเมี่ยมกำลังเล็งตรงท้ายทอยของเขา

เสียง “ฟิ้ว—" ยาสลบก็ปักลงท้ายทองของเขา ถัดมา ร่างกายกณิศก็ทรุดตัวลง และล้มไปกองกับพื้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์