ภวินท์ย้ายสายตาออกไป พยายามบ่ายเบี่ยงความสนใจของตนเอง แต่ยิ่งทำแบบนี้ อวัยวะรับรู้ส่วนอื่นก็ยิ่งอ่อนไหว นอกจากกลิ่นเหล้าอ่อนๆ ล่องลอยอยู่ระหว่างสองคน เขามักจะได้กลิ่นหอมเหมือนกับนมลอยแทรกมาในจมูกของเธอ
หวานชื่น ดึงดูดพอสมควร
ทันใดนั้น รถขับผ่านพื้นถนนที่ไม่ค่อยเรียบ ตัวรถโคลงเคลงเล็กน้อยครู่หนึ่ง ร่างกายหญิงสาวด้านข้างที่ดื่มจนเมามายล้มเข้าไปทางด้านหน้าแบบไม่รู้ตัว
ภวินท์หูตาว่องไว รีบยื่นมือไปประคองไว้ แต่ใครจะรู้ว่าฝ่ามือใหญ่ที่กว้างหนาตรงเป๊ะเสียจริง แตะโดนส่วนอ่อนนุ่มตรงหน้าอกเธอเข้าพอดี
ทั้งกลมทั้งมีความเด้ง กั้นด้วยเนื้อผ้าบางเบาชั้นหนึ่ง ร้อนจนลวกนิดหน่อย
นิ้วมือภวินท์เหมือนโดนของร้อนอะไรลวกเข้าให้ เก็บมือกลับโดยจิตใต้สำนึก กระแสไฟฟ้าช็อตเข้าปลายนิ้ว“ซู่ๆ——” ชาไปแถบหนึ่ง จากนั้นเลือดไหลเวียน ก่อกวนจิตใจ
เขาขมวดคิ้วอย่างกระอักกระอ่วน ในเวลานี้ ญาธิดาที่ด้านข้างตะโกนขึ้นมากะทันหัน
“คุณ......จับนมฉัน!”
เธอเมาหนักจนแทบไม่ไหวแล้ว ผลักมือของเขาออกแบบไม่สนใจ ลืมลักษณะท่าทางที่เมื่อสักครู่เธอเข้าไปแนบชิดบนตัวเขาก่อนเองโดยสิ้นเชิง สีหน้าดูไม่ได้รับความเป็นธรรม เอาแขนทั้งสองมากอดหน้าอกไว้ พูดพึมพำ “คุณ......สารเลว! ภวินท์ คุณเอาเปรียบฉัน!”
หญิงสาวกลายเป็นยัยตัวแสบที่ดื่มหนักจนไร้เหตุผลในผับเมื่อสักครู่ฉับพลันแล้ว อยู่ในรถที่ปิดหมดทั้งโวยวายทั้งตะโกน พายุที่นั่งอยู่เบาะคนขับข้างหน้าขับรถอยู่ได้ยินเสียง แทบจะฝืนกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น โดนเธอเอะอะโวยวายใส่ขนาดนี้ เหมือนว่าเขาไปเอาเปรียบเธอมากมายอย่างนั้นเลย เขายื่นมือ กดไหล่ของเธอไว้ พูดด้วยเสียงทุ้มเล็กน้อย “เงียบหน่อย!”
ปกติไม่เคยเห็นเธอเถียงฉอดๆ พูดมากขนาดนี้ พอดื่มเหล้า นี่คือปลดปล่อยตัวตนทั้งหมดแล้วเหรอ?
ถูกชายหนุ่มดุมาแบบนี้ ญาธิดาหลับตาลงนิดหนึ่ง ชั่วขณะนั้นมุมปากเบะลงมาแล้ว ไหล่ขยับขึ้นอย่างน้อยใจ “คุณ......คุณดุฉัน!”
ภวินท์หน้าหมองคล้ำเต็มที่ เห็นหญิงสาวแสดงละครบทเดิมอีกครั้ง อดรู้สึกจำใจไม่ได้ เขายักคิ้ว ทันใดนั้นโน้มตัวเข้าไปใกล้ กดเธอลงบนพนักพิงหลัง พูดอย่างเย็นเฉียบ “ไม่เชื่อฟัง ระวังฉันจะตีเธอ!”
สรุปว่าชายหนุ่มใช้ลักษณะพลังระดับหนึ่ง คำพูดกึ่งจริงกึ่งหลอกแบบนี้ กลับทำเอาญาธิดาที่เมาจนแทบไม่ไหวตกใจตะลึงหน่อยๆ และไม่กล้าโวยวายอีกแล้ว
ระยะทางครึ่งหลังที่กลับไป ภายในรถถือว่าเงียบสงบลงบ้าง ร่างกายญาธิดาหดอยู่มุมหนึ่ง พิงศีรษะไว้ตรงขอบหน้าต่างรถ ขมวดคิ้วแน่น เหมือนว่าเมารถอยู่บ้าง
ภวินท์อยู่ด้านข้าง สังเกตเห็นท่าทางของเธอ จึงกำชับพายุสักหน่อยว่า “ขับช้าๆ หน่อย”
ในที่สุด รถก็มาถึงใต้ที่พักของญาธิดา ภวินท์แอบโล่งอกทีหนึ่ง ก้าวเท้าลงมาจากบนรถ อ้อมมาตรงประตูรถอีกฝั่งหนึ่ง อุ้มหญิงสาวที่เมาหนักลงมาจากบนรถแล้ว
ญาธิดาหลับตาแน่น ดูท่าทางไม่สบายตัวเอามากจริงๆ ภวินท์ไม่มัวชักช้าอีก สั่งพายุไปประโยคหนึ่ง แล้วอุ้มเธอเดินเข้าประตูตึกไป
โดยสารลิฟต์ขึ้นไป ภวินท์อุ้มเธอไว้กดลิฟต์โดยใช้ความพยายามอยู่บ้าง ไม่ง่ายที่จะกดลง รอประตูลิฟต์ปิดสนิท วินาทีที่เคลื่อนขึ้นนั้น ญาธิดาขยับร่างกายฉับพลัน “แหวะ......”
ตรงเป้าพอดี อาเจียนบนตัวภวินท์เข้าแล้ว
สีหน้าภวินท์จากที่ตกตะลึงชั่วพริบตาเดียวเปลี่ยนเป็นเขียวปัด เขาขมวดคิ้ว มองเสื้อสูทที่ถูกทำสกปรกแถบหนึ่ง จิตใจเกิดไฟโกรธขึ้นมา
แต่ใครจะรู้ คนทำผิดไม่ได้สติโดยสมบูรณ์แบบ ขมวดคิ้วอยู่ขยับปากเข้าออก หลับตานอนนิ่งเป็นศพในอ้อมอกชายหนุ่มไปแล้ว
วินาทีนั้น เขาอยากโยนคนในอ้อมอกทิ้งจริงๆ
ไม่ง่ายที่จะมาถึงหน้าประตูที่พักได้ ส่งคนเข้าห้องนอนเสร็จ ภวินท์ทำหน้าเย็นชาถอดเสื้อผ้าที่สกปรกวางไว้ด้านข้างโดยไว รีบไปหาน้ำทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...