ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 262

ประโยคนี้ เหมือนมีอะไรมาทุบแรงๆตรงหัวใจของญาธิดา

ใช่ซิ เมื่ออยู่ต่อหน้าภวินท์ เธอมีสิทธิ์เลือกอะไรละ

ค่าผ่าตัดใหญ่ของยติภัทรก็เป็นเขาที่จ่าย ช่วงเวลานี้เธอเป็นหนี้ภวินท์อยู่ไม่น้อย และแม้แต่เงินเดือนที่น่าสงสารก้อนนี้ ก็ภวินท์เป็นคนจ่าย

แล้วเธอมีสิทธิ์เลือกตรงไหน

เมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความผิดหวัง ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่กี่วินาทีจึงปล่อยมือออก สำรวจมองเธอ พูดเย็นชาว่า “ ถ้ามาได้ก็จะยึดเกณฑ์เงินเดือนของเลขาจ่ายให้กับเธอ”

ญาธิดาสูดหายใจ กัดฟันพูดว่า “ ฉันจะทำ ”

ถ้าเธอปฏิเสธ ภวินท์ต้องมีเป็นร้อยวิธีที่จะประนีประนอมกับเธอ ยังเทียบไม่ได้กับความสุข จึงตอบรับทันที

ตอนนี้ เธออยู่ในหลุมพรางที่ภวินท์ดักเธอ เข้าแล้วออกไม่ได้ และในตอนที่ยังไม่มีวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลุดพ้น เธอได้แต่จำใจ

เมื่อภวินท์เห็นดังนั้น รีบหันกลับมา เดินก้าวยาวๆไปที่โต๊ะทำงาน พูดทิ้งท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ ไปเก็บของแล้วขึ้นมา ที่เหลือพายุจะเตรียมการให้ ”

ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ตอบรับไปหนึ่งคำ ร่างกายอ่อนแรงนิดหน่อย ตอนที่ออกจากสำนักงานCEOกลับถึงแผนก เห็นชมพู่กำลังมองซ้ายมองขวาอยู่ที่ประตูพอดี

“ ธิดา ”

เมื่อเห็นเธอ ชมพู่วิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น พูดว่า “ เมื่อกี้ฉันไปสำนักงานใหญ่ส่งเอกสาร ได้ยินพิชญ์สินีกับพี่แนนกำลังพูดถึงแกอะไรสักอย่าง ดูบรรยากาศจริงจังน่าดูเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ญาธิดามีสติขึ้นทันที ถึงจะนึกขึ้นได้ว่าต้องไปรับเอกสารที่สำนักงานCEO แต่ที่เธอไปครั้งนี้ ก็กลับมามือเปล่า

กลับมามือเปล่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ปัญหาก็คือเธอกลับมาพร้อมข่าวใหญ่ จู่ ๆเธอโดนย้ายไปสำนักงานCEO สำหรับคนอื่นคงคิดว่าเป็นการได้เลื่อนตำแหน่ง เพื่อนร่วมงานในแผนกคงต้องพูดลับหลัง เธอไม่กล้าคิดอะไร

เมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของญาธิดา ชมพู่ถึงกับตกใจ “ ธิดา เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ญาธิดากำมือแน่น หลังจากนิ่งไปสองวินาที สูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ “ ไม่มีอะไร ฉันไปห้องทำงานก่อนนะ”

เมื่อพูดจบ เธอก็มุ่งหน้าไปที่ห้องทำงาน ประตูได้ปิดอยู่ เดินไปใกล้ๆ เธอได้ยินเสียงพูดเซ็งแซ่จากข้างใน เธอยกมือบิดประตู ผลักประตูเข้าไป “ พี่แนน ”

เมื่อเงยขึ้นไปดู พี่แนนนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน สีหน้ากระวนกระวาย และตรงข้ามเป็นพิชญ์สินี ถึงแม้พยายามจะทำกลบเกลื่อน แต่ดูแววตาหล่อนยังคงมีความไม่สบายใจและหม่นหมอง

ไม่ทันรอให้ญาธิดาเอ่ยปาก พี่แนนก็พูดว่า “ ธิดา เมื่อสักครู่แผนกบุคคลโทรศัพท์มา แจ้งว่าทางสำนักงาน CEO ขาดเลขาหนึ่งตำแหน่ง จึงให้แผนกพวกเราเลือกคนไปรับตำแหน่งชั่วคราว เพราะก่อนหน้านี้แกวางแผนกิจกรรมได้ดี ก็เลยระบุให้แกไป แกคิดว่ายังไงดีละ”

ญาธิดาตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าภวินท์จะลงมือทำได้ไวขนาดนี้ เธอเพิ่งจะเดินลงมาจากสำนักงานCEOเมื่อกี้นี้ แผนกบุคคลของที่นั่นได้แจ้งประกาศลงมาแล้ว

พอจะอธิบายได้ว่า ภวินท์ได้เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่รอให้เธอตกลงในหลุมแค่นั้นเอง

ถ้าพูดกันตรงๆ ไม่ว่าเธอจะยอมหรือไม่ยอม ประกาศการดำรงตำแหน่งของแผนกบุคคลฉบับนี้ก็ต้องลงมาอยู่ดี คงไม่พ้นเธออีก

ญาธิดากุมมือแน่นกัดริมฝีปาก พูดเบาๆว่า “ ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไร”

“ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ” พี่แนนพยักหน้าเล็กน้อย “ เก็บของเสร็จแล้วก็ไปที่สำนักงาน CEO ได้เลย ”

ญาธิดาหายใจเข้าลึกๆ“ ค่ะ”

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รับรู้ถึงสีหน้าเย็นชาของพี่แนน เธอทำงานอยู่ที่แผนกธุรการก็สองสามปีแล้ว สำหรับพี่แนน ตอนนี้คนที่เคยสอนมากับมือต้องย้ายไปแผนกอื่นกะทันหัน คงรู้สึกผิดหวัง

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ญาธิดารวบรวมความกล้า เงยหน้ามองพี่แนน “ พี่แนน เมื่อกี้ตอนฉันไปสำนักงาน CEO คุณพายุก็พูดกับฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันก็แค่ไปทำหน้าที่แทนคุณนวิยาชั่วคราว รอให้หล่อนเสร็จพิธีแต่งงาน ฉันยังกลับมาอีกนะ และไม่ว่าจะไปที่ไหน ฉันยังเป็นคนของพี่แนนเหมือนเดิม ”

ตอนนี้เธอลังเลกับความหมายของภวินท์ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้ย้ายกลับมาที่แผนกธุรการหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องรีบป้องกันก่อน ไม่สามารถตัดโอกาสในภายหลัง เหตุผลนี้เธอเข้าใจเป็นอย่างดี

จริงๆแล้ว เมื่อเธอพูดแบบนั้น สีหน้าของพี่แนนดูอบอุ่นขึ้นทันที หล่อนยกมือขึ้นเล็กน้อย “ ไปเถอะ”

ไม่นานก็สั่งกับพิชญ์สินีที่นั่งข้างๆ“พิช แกไปช่วยญาธิดาเก็บของหน่อยสิ ”

พิชญ์สินีสีหน้าไม่พอใจ แต่พี่แนนออกคำสั่ง หล่อนไม่เชื่อฟังก็ไม่ได้ จึงลุกขึ้นเดินไปข้างนอก

เมื่อออกจากห้องทำงาน พิชญ์สินีได้ปิดประตูทันที เดินตามหลังญาธิดาทิ้งห่างครึ่งก้าว พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่คิดเลย คุณญาธิดามีกลอุบายจริงๆ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน หรี่ตามองเล็กน้อย ไม่อยากพูดกับหล่อนไปมากกว่านี้ จึงถือโอกาสแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ไหนๆเธอกำลังจะไปแล้ว ถ้ามีปากเสียงกับพิชญ์สินีอีก ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

แต่เมื่อเธอยิ่งเงียบ พิชญ์สินีก็ยิ่งโกรธ ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนมาทำงานในบริษัทก่อนญาธิดาหนึ่งปี ยังไงก็เป็นผู้อาวุโสอยู่ดี แต่ตอนนี้ญาธิดาไม่เพียงแต่จะเหยียบหัวหล่อนไปทุกเรื่อง คาดไม่ถึงว่าได้ย้ายไปสำนักงานCEO ใกล้กับศูนย์กลางของบริษัทน้ำเสียงนี้หล่อนจะกลืนลงไปได้ยังไง

เป็นไปอย่างที่คิด ตอนที่เดินผ่านพื้นที่ทำงานส่วนกลาง พิชญ์สินีหยุดฝีเท้าทันที ปรบมือ ดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง “ ทุกคนหยุดทำงานก่อน ฉันจะประกาศข่าวดีสักเรื่อง คุณญาธิดาของแผนกพวกเรา วันนี้ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว โดนย้ายไปเป็นเลขาที่สำนักงานCEO เป็นหน้าเป็นตาให้กับแผนกเราจริงๆ”

เมื่อพูดออกไป ทุกคนก็มองหน้ากัน ต่างก็ประหลาดใจ ในไม่ช้า หลังจากที่ได้แปลกใจก็เกิดเป็นความสงสัยต่างๆนานา มีไม่กี่คนที่ถือโอกาสหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอวยพรให้กับญาธิดา แต่คนส่วนใหญ่ก็แสดงสายตาสงสัย

ญาธิดารู้สึกไม่ดี ตอนนี้เธอแค่ไปแทนตำแหน่งของคุณนวิยาชั่วคราว ไม่ได้ประจำอยู่สำนักงานCEOสักหน่อย เมื่อพิชญ์สินีพูดแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ทุกคนเริ่มสงสัยในตัวเธอ ถ้าอย่างนั้นตอนหลังเธอจะกลับมายังไง

เธอมองพิชญ์สินีอย่างเยือกเย็นครูหนึ่ง รีบหันไปหัวเราะกับทุกคน เริ่มอธิบาย “ ก็แค่ไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วเคราวแทนคุณนวิยาที่ลาไปแต่งงาน ก็แค่เดือนกว่าๆ โอกาสครั้งนี้ถ้าพูดตามเหตุผลควรจะเป็นคุณพิช แต่คุณพิชได้คำนึงถึงฉันที่เป็นผู้น้อย จึงให้ฉันไป พูดไปแล้ว ก็ต้องขอบคุณคุณพิชนะคะ”

ในขณะที่พูด ช่วงที่พิชญ์สินีแสดงสีหน้าที่ตกตะลึง เธอก้มคำนับทำความเคารพต่อพิชญ์สินี

ก็พิชญ์สินีหล่อนพูดโกหกเกินไป หรือว่าเธอก็ทำไม่ได้เหรอ

เป็นประกาศจากแผนกบุคคลแท้ๆ หล่อนกลับพูดต่อหน้าคนอื่นว่าเป็นคำสั่งจากท่านประธาน นี้ไม่ได้จะตั้งใจให้เธอเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นที่เกลียดชังในสายตาของเพื่อนร่วมงานเหรอ

ทำงานอยู่ที่แผนกธุรการมาสองสามปี ญาธิดาจะไม่รู้จักนิสัยของเพื่อนร่วมงานในแผนกตัวเองได้อย่างไร แต่ละคน ก็ไม่อยากเห็นใครได้ดี ดังนั้นที่หล่อนพูดแบบนั้น ก็เป็นการระบายความโมโห

ญาธิดามองไปที่ทุกคน แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มและพูดว่า “ ถ้าหากฉันทำงานที่สำนักงานCEOได้ดี รอรับโบนัสแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะพาทุกคนไปเลี้ยงอาหาร”

เมื่อเธอพูดแบบนั้น บรรยากาศของพื้นที่ทำงานสาธารณะดูอบอุ่นขึ้นมาบ้าง คนจำนวนไม่น้อยก็หัวเราะคุยเล่นกับเธอ

“ งั้นคุณญาธิดาต้องรับโบนัสเยอะๆหน่อย ไม่อย่างนั้นไม่พอให้พวกเรากิน ”

“ ใช่เลย อีกอย่างจะกินบุฟเฟต์อาหารทะเลกันสักมื้อ”

“ จริงด้วยจริงด้วย”

ญาธิดาได้หัวเราะ “ ขอเพียงแค่ได้รับโบนัส รอฉันกลับมา จะกินอะไรให้ทุกคนเลือกเลย ”

ข้างๆ สายตาพิชญ์สินีได้ชำเลืองมองญาธิดาอย่างดุเดือด สายตาดูกระวนกระวาย

เมื่อตะกี้หล่อนตั้งใจด่าทอญาธิดา ไม่คิดเลยว่าเธอจะดูออก แถมยังเอาคืนในทันที

ญาธิดาคนนี้ ดูเหมือนว่ะจัดการยากกว่าเดิมอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์