เมื่อรับรู้ถึงสายตาที่เย็นชาของชายหนุ่ม มือของญาธิดาก็กุมแน่นขึ้น ทันใดนั้น พูดเบาๆว่า “ ขอโทษนะคะ มีเหตุกะทันหันเกิดขึ้นเล็กน้อย”
ไม่มีใครให้เอกสิทธิ์กับเธอที่ไม่ต้องมาทำงาน เป็นเพราะเธอเองที่มาทำงานสาย ก็ไม่ต้องโทษใคร
ญาธิดาดูว่าไม่มีเหตุผล หายใจเข้าลึกๆ ไม่ทันรอภวินท์เอ่ยปาก ก็รีบขอโทษออกมาก่อน “ ขอโทษค่ะคุณภวินท์ ครั้งหน้าฉันจะระวังกว่านี้”
ภวินท์เห็นแบบนั้น คำที่ติดอยู่ที่ปากก็กลับกลืนเข้าไปอีกครั้ง ทันได้นั้น เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องแผนธุรกิจ คุณมีอะไรจะพูดไหม”
เมื่อได้ยิน ในใจของญาธิดาดังขึ้น “ตุบๆ” แผนธุรกิจที่ถูกเปิดโปงเรื่องนี้ เธอที่เป็นฝ่ายเอ่ยปากกับภวินท์ที่ได้ถามขึ้นก่อนมีอยู่สองแนวความคิด
และตอนนี้ เมื่อภวินท์เอ่ยปากพูด เธอตกอยู่สถานการณ์ผู้ถูกกระทำไปเรียบร้อยแล้ว
ภวินท์เริ่มพูดมาก่อน แสดงให้เห็นว่าเธอได้ถูกเขาสงสัยไปแล้ว
กัดฟัน เธอเงยหน้ามองภวินท์ พูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ฉันปฏิบัติตามที่คุณต้องการส่งแผนธุรกิจให้คุณฌอนกับมือ ฉันไม่เคยทำเรื่องเสียหายให้กับSTN Group”
น้ำเสียงเธอหนักแน่น โดยไม่ลังเล
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูจริงจัง
เธอดูใจกว้างพอสมควร แต่แผนธุรกิจที่ถูกเปิดโปงเรื่องนี้กลับเกี่ยวข้องกับเธอมากที่สุด
ภวินท์ก้มหน้าลง ยื่นมือเรียวๆหยิบปากกาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา ถามอย่างใจเย็นว่า “ คุณรู้ไหม สุดท้ายไทเฮงกรุ๊ปก็เซ็นสัญญากับบริษัทข้ามชาติ JV แล้ว ”
ญาธิดาเมื่อได้ยินก็แอบตกใจ แปลกใจอยู่เล็กน้อย
เธอได้ยินมาหมดแล้วเกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติJV บริษัทนี้มีอิทธิพลไม่น้อย แต่เมื่อเทียบความแข็งแกร่งกับSTN Groupถือว่ายังสู้ไม่ได้ แต่เขาก็มีทรัพยากรและลู่ทางของตัวเอง ถือเป็นคู่แข่งที่มองข้ามไม่ได้
คิดไม่ถึงว่า ในที่สุดโครงการ700ล้านนี้ตกไปที่JV ใครก็คิดไม่ถึงเลยทีเดียว
แต่ก็เป็นความบังเอิญเอามากๆ
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ เงยหน้ามองภวินท์ “ ฉันไม่รู้ค่ะ”
เมื่อภวินท์ได้ยิน มือที่กำลังจับปากกาก็กำแน่นขึ้นทันที แสดงแววตาที่เยือกเย็น “ ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้”
ในขณะที่พูด เขาก็ลุกขึ้น สีหน้าเย็นชา “ คุณรู้ไหมว่าคนที่รับผิดชอบโครงการJVนี้เป็นใคร”
ไม่ทันรอให้ญาธิดาเอ่ยปาก เขาก็เฉลยคำตอบก่อนว่า “ คือคณิน ”
ก็คือคณินคนนั้นที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับญาธิดา
เมื่อญาธิดาได้ยิน ชะงักอยู่กับที่ ชื่อนี้เป็นคนคุ้นเคยที่แปลกหน้าสำหรับเธอ แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ยินชื่อนี้มาพักหนึ่งแล้ว
ไม่กี่วินาที ญาธิดาก็รู้ทันทีว่าที่ภวินท์พูดแบบนี้หมายถึงอะไร เขายังสงสัยเธออยู่ สงสัยว่าเธอทำเพื่อคณินและเปิดโปงแผนธุรกิจ
เธอทำตาโต เงยหน้ามองภวินท์ด้วยความหวาดกลัว “ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเขา ฉันกับเขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้วค่ะ”
เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงตื่นตระหนกเล็กน้อย ภวินท์กระตุกริมฝีปาก พูดเบาๆว่า “ จริงเหรอ แต่เรื่องทั้งหมดบังเอิญเอามากๆเลยนะ”
หลังจากแผนธุรกิจเปิดโปง ได้รับผลประโยชน์เยอะที่สุดคือJV แผนธุรกิจของบริษัทก็เคยผ่านมือเธอ และเธอกับคนรับผิดชอบโครงนี้ก็รู้จักแล้วคุ้นเคยกันอีก ความบังเอิญทั้งหมดนี้ทำให้คนคิดไปต่างๆนานา
เมื่อเห็นสีหน้าอารมณ์ของชายหนุ่ม ญาธิดาใจเต้นแรง โกรธเคืองเล็กน้อย เธอกัดฟันพูดว่า “ฉันไม่อายที่จะพิสูจน์ตัวเอง ถ้าคุณจะตั้งข้อหามาที่ฉันจริงๆ ฉันไม่มีอะไรต้องพูด”
ถึงตอนนี้แล้ว แม้แต่ภวินท์ปฏิเสธที่จะเชื่อเธอ เธอก็เสียใจจนพูดอะไรไม่ชัดเจนพอ
เมื่อเห็นผู้หญิงสีหน้าแบบนี้ ภวินท์ขมวดคิ้ว พูดเย็นชาว่า “ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับเธอ เธอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ยังไง”
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาพูดว่าเขาเชื่อแล้วเธอก็จบแล้ว เธอจำเป็นต้องหยิบหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ออกมา มีแต่วิธีนี้ถึงจะสามารถปิดปากคนอื่นได้
ญาธิดาเงียบไปชั่วขณะ กัดฟันพูดอะไรไม่ออก
เธอไม่มีหลักฐานอะไร ถ้าพยานบุคคล ก็มีแค่คนเดียว ก็คือนิวรา แต่นิวราก็ลงรถระหว่างทาง ถึงอย่างไร เธอยังคงมีโอกาสทำความผิดอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...